ปัตตานี - คนร้ายซุกระเบิด 80 กก.บริเวณริมถนนสายเจาะกือแย-สายบุรี ม.1 ต.ตะบิ้ง อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ดักสังหารทหารพรานตาย 4 บาดเจ็บ 5 นาย ขณะกำลังออกลาดตระเวนรักษาความปลอดภัยโรงเรียน
วันนี้ (22 ก.ย.) ร.ต.ท.สิทธิชัย พูลสวัสดิ์ รอง สว.สอบสวน สภ.สายบุรี จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งมีเหตุระเบิดมีผู้เสียชีวิตหลายราย เหตุเกิดบนถนนสายเจาะกือแย-สายบุรี ม.1 ต.ตะบิ้ง จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมนำกำลังไปที่เกิดเหตุ ไปถึงเจ้าหน้าที่พบซากรถกระบะขาด 2 ท่อน และมีผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บนอนกระจัดกระจายบริเวณที่เกิดเหตุ แต่ยังไม่สามารถเข้าตรวจสอบได้ เนื่องจากเกรงว่าคนร้ายอาจจะวางแผนลอบก่อเหตุซ้ำซ้อน
ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดจึงได้เข้าไปเคลียร์พื้นที่เพื่อความปลอดภัย หลังพื้นที่ปลอดภัยเจ้าหน้าที่จึงได้รุดเข้าไปลำเลียงผู้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตส่ง รพ.สมเด็จพระยุพราชสายบุรี จำนวน 7 นาย เป็นเจ้าหน้าที่ทหารสังกัดหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 44 โดยมีผู้เสียชีวิต 4 นาย คือ อส.ทพ.สุวิทย์ บุญชู อส.ทพ.ณัฎฐพล รังสิมันตุชาติ อส.ทพ.ปฐมพร คงสัย และ อส.ทพ.พิทักคมสิต ศักดิ์วิเศษสม ซึ่งทั้ง 4 นาย ถูกแรงระเบิดจนทำให้แขนขาขาด ชิ้นส่วนกระจายไปทั่วบริเวณ
ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 5 นาย คือ ส.อ.ธีรวุฒิ ปานแก้ว อส.ทพ.จักรกฤษ จี๋เอ้ย อส.ทพ.ธันยา เอื้องฟ้าไพรวัล อส.ทพ.เอกชัย คำแคว่น อส.ทพ.ประหยัด อินทร์แก้ว และ อส.ทพ.ประหยัด อินทร์แก้ว ทั้ง 5 นาย ถูกแรงอัดของระเบิดทำให้แน่นหน้าอก และมีบาดแผลตามตัว แพทย์ได้ให้ความช่วยเหลือจนอาการปลอดภัยแล้ว
จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พบรถกระบะแบบหุ้มเกราะยี่ห้ออีซูซุ ดีแมคซ์ 4 ประตู สีบรอนซ์เงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน สภาพขาด 2 ท่อน เหลือแต่ห้องโดยสาร ห่างกันประมาณ 3 เมตร พบหลุมระเบิดอยู่บริเวณจุดกำลังก่อสร้างปรับปรุงท่อระบายน้ำ โดยพบหลุมระเบิดกว้าง 3 เมตร ลึก 2 เมตร มีชิ้นส่วนถังแก๊สขนาด 15 กก. ชิ้นส่วนสะเก็ดระเบิด และชิ้นส่วนระเบิดกระจายไปทั่วบริเวณ เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนทราบว่า ขณะที่ ส.อ.ธีรวุฒิ ปานแก้ว ซึ่งเป็นหัวหน้าชุดปฏิบัติการ ร้อย ทพ.4412 นำกำลัง จำนวน 8 นาย ออกจากฐานเพื่อไปดูแลความปลอดภัยโรงเรียนบ้านตะบิ้ง โดยใช้รถกระบะแบบหุ้มเกราะเป็นพาหนะ มี อส.ทพ.จักรกฤษ จี๋เอ้ย เป็นพลขับ เมื่อมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุจึงได้จอดห่างประมาณ 20 เมตร เพื่อให้ อส.ทพ.เอกชัย คำแคว่น และ อส.ทพ.ประหยัด อินทร์แก้ว ซึ่งอยู่หลังกระบะลงจากรถเพื่อเดินตรวจความเรียบร้อยริมถนนว่ามีวัตถุต้องสงสัยหรือไม่
โดยผู้ที่เสียชีวิตทั้ง 4 นาย ยังคงอยู่หลังกระบะ แต่ปรากฏว่า ช่วงที่ทั้ง 2 นาย เดินใกล้ถึงที่เกิดเหตุ รถกระบะได้ขับออกไปก่อนที่จะได้รับสัญญาณว่าปลอดภัย คนร้ายซึ่งดักซุ่มอยู่ในป่าข้างทางจึงกดชนวนระเบิดแสวงเครื่อง น้ำหนักประมาณ 80-100 กก. ที่ซุกไว้ใต้ท่อ จนเกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่น ทำให้รถกระบะขาด 2 ท่อน ร่างของทหารทั้ง 4 นาย ที่นั่งท้ายกระบะกระเด็นไปคนละทิศละทางเสียชีวิตทันที ส่วนที่เหลือขณะกำลังหนีออกจากรถก็ถูกคนร้ายซุ่มยิง จนเกิดการยิงตอบโต้กันขึ้น ก่อนที่คนร้ายจะล่าถอยหนีเข้าไปในป่า โดยเจ้าหน้าที่เชื่อเป็นฝีมือกลุ่มก่อความไม่สงบสร้างสถานการณ์
