ปัตตานี - กอ.รมน. เปิดเผยกรณีคนร้ายแย่งชิงรถจักรยานยนต์ บ้านทุ่งเค็จ หมู่ 4 ต.ปะเสยะวอ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ชื่นชมเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายในพื้นที่ที่ช่วยกันจนสามารถพบรถคันดังกล่าวได้
วันนี้ (21 พ.ค.) พ.อ.ยุทธนาม เพชรม่วง รองโฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า จากกรณีคนร้ายแย่งชิงรถจักรยานยนต์ของ น.ส.ยุวดี สุขสบาย อายุ 39 ปี ภูมิลำเนาบ้านเลขที่ 18/2 หมู่ 3 บ้านบางตะโล้ะ ต.ปะเสยะวอ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ซึ่งกำลังเดินทางกลับจากที่ทำงาน บริษัทพิธานพานิชย์ ในเขตเทศบาลตะลุบัน อ.สายุบรี พร้อมลูกชาย อายุ 10 ปี เพื่อกลับบ้านพักที่ หมู่ 3 บ้านบางตะโล๊ะ ต.ปะเสยะวอ อ.สายบุรี เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2560 เวลาประมาณ 17.20 น. โดยคนร้าย จำนวน 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์ เวฟ 110 สีดำแดง ไม่ทราบทะเบียน ขี่ปะกบผู้เสียหาย และใช้มีดจี้ให้จอด และคนร้ายที่นั่งซ้อนท้ายมาได้บิดกุญแจรถผู้เสียหายให้เครื่องดับ และพูดว่า “หยุดๆ” หลังจากนั้นคนร้ายจึงได้ขับรถจักรยานยนต์ของตนเองไป
จากกรณีดังกล่าว ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 44 ได้สั่งการให้ทุกกองร้อยปฏิบัติตามแผนการตั้งจุดตรวจจุดสกัด เพื่อตรวจสอบบุคคลและยานพาหนะที่คนร้ายจี้ชิงไป ซึ่งทราบว่าคนร้ายมุ่งหน้าจากบ้านทุ่งเค็จ ต.ปะเสยะวอ อ.สายบุรี ไปทางบ้านบางเก่า บ้านบาเลาะ บ้านชะเมาสามต้น ตำบลตะบิ้ง และให้หน่วยขึ้นตรง ร่วมกับกำลังภาคประชาชนทำการลาดตระเวนด้วยรถจักรยานยนต์ พิสูจน์ทราบในพื้นที่ ตรวจสอบรถที่ถูกโจรกรรมไป พร้อมติดแผ่นป้ายประกาศตามร้านค้า หมู่บ้าน และแจ้งข่าวสารเฝ้าระวังแก่ประชาชน เพื่อป้องกันการก่อเหตุ อีกทั้งเป็นการจำกัดเสรีการปฏิบัติของกลุ่มผู้ก่อการร้าย เพื่อเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง
ต่อมา เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมา หน่วยได้รับแจ้งจากกำลังภาคประชาชนในพื้นที่ดังกล่าว ประกอบกับจดจำภาพรถจักรยานยนต์ที่ถูกจี้ชิงตามที่หน่วยติดแผ่นป้ายประกาศได้ จึงแจ้งมายังหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 44 ให้เข้าตรวจสอบ จากนั้นได้ประสานผู้นำหมู่บ้าน และกำลังภาคประชาชนเข้าทำการปิดพื้นที่ และประสานเจ้าหน้าที่ EOD เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรอำเภอสายบุรี เข้าตรวจสอบบริเวณโดยรอบ และตรวจสอบรถจักรยานยนต์ดังกล่าว
พบจอดทิ้งไว้ในพุ่มไม้บริเวณป่าเสม็ด บ้านสนำคอก หมู่ 8 ต.แป้น อ.สายบุรี ผลการตรวจสอบรถจักรยานยนต์ได้ถูกถอดแผ่นป้ายทะเบียนเก็บในใต้เบาะรถ และสภาพอื่นยังไม่มีการดัดแปลง จึงได้นำรถจักรยานยนต์ดังกล่าวมาที่สถานีตำรวจภูธรอำเภอสายบุรี เพื่อจัดเก็บ DNA ตรวจสอบต่อไป ทั้งนี้ เจ้าของรถได้ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย และกำลังภาคประชาชนในพื้นที่ อ.สายบุรี ทุกคน ที่ช่วยติดตาม และแจ้งเบาะแสจนทำให้ตนเองได้รถกลับคืนมา
จากเหตุการณ์ที่สายบุรี กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอชื่นชมการปฏิบัติงานของกำลังภาคประชาชนในพื้นที่อำเภอสายบุรี ที่ได้ร่วมมือร่วมใจในการป้องกันเหตุ จนสามารถพบมอเตอร์ไซค์คันดังกล่าวได้ หากความร่วมมือของพี่น้องประชาชนดีเยี่ยมเช่นนี้เชื่อว่าจะสามารถระงับเหตุ และป้องกันเหตุความรุนแรงซึ่งกลุ่มผู้ไม่หวังดีพยายามที่จะก่อเหตุได้
และขอให้พี่น้องประชาชนบริโภคข้อมูลข่าวสารด้วยความระมัดระวัง และให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างรอบด้านเพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ หรือเป็นเครื่องมือของกลุ่มผู้ไม่หวังดี ทั้งนี้ ขอให้มั่นใจว่า กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า จะดำเนินทุกวิถีทางเพื่อให้พื้นที่เกิดความสงบสุขด้วยการบังคับใช้กฎหมาย ด้วยความเป็นธรรม โปร่งใส และตรวจสอบได้ในทุกขั้นตอน โดยหากมีปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ที่ไม่ถูกต้องสามารถแจ้งมาได้ที่หมายเลย 1341 ตลอด 24 ชั่วโมง