xs
xsm
sm
md
lg

จับเพิ่มอีก 3 ราย คดีรุมโทรมเด็ก พบจุดเกิดเหตุเป็นแหล่งเสพ-พักยาเสพติด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


พังงา - ความคืบหน้าคดีรุมโทรมเด็ก 14 ปี ที่พังงา ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจจับเพิ่มอีก 2 รายในวันนี้ และขอมอบตัวอีก 1 ราย วันจันทร์ที่จะถึงนี้ หลังเด็กหญิงผู้เสียหายชี้ตัวจนศาลอนุมัติออกหมายจับ พบอุปกรณ์สำหรับการเสพยาเสพติดจำนวนมากในจุดเกิดเหตุ และเป็นแหล่งพักยาก่อนส่งเข้าภูเก็ต ตำรวจเตรียมขยายผลกวาดล้าง

หลังจากที่ศาลจังหวัดพังงา ได้อนุมัติหมายจับเพิ่มเติมผู้ต้องหาในคดีรุมโทรมเด็กหญิงอายุ 14 ปี ที่บ้านเกาะแรด อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา อีก 3 ราย จากก่อนหน้านี้ที่ออกหมายจับไปแล้ว จำนวน 8 ราย รวมทั้งหมดขณะนี้ จำนวน 11 ราย ในวันนี้ (16 ก.ย.) พล.ต.ต.บุญทวี โตรักษา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพังงา นำกำลังเข้าตรวจค้นในพื้นที่ หมู่ 3 ต.หล่อยูง อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา พร้อมควบคุมตัวผู้ต้องหาเพิ่มอีก 3 ราย คือ นายรังสันติ์ ชายเลี้ยง อายุ 23 ปี ได้ภายในบ้านพัก นายสายันต์ หรือย้อย สุเมนร์ อายุ 43 ปี เจ้าหน้าที่กำลังนำตัวมาจาก จ.กระบี่ และนายนาวิก จารึก อายุ 53 ปี ติดต่อขอมอบตัวในวันจันทร์นี้ ตามหมายศาลจังหวัดพังงา

การเข้าจับกุมครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานนำวัตถุพยานที่เก็บได้จากพื้นที่เกิดเหตุ ส่งไปตรวจสอบที่ศูนย์วิทยาศาสตร์ จนได้พยานหลักฐานเพิ่มเติม หลังจากนี้ ทางพนักงานสอบสวนจะเร่งสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ส่วนอีก 1 ราย จะเข้ามอบตัวในวันจันทร์ที่ 18 ก.ย.2560 นี้ โดยผู้ต้อหาทั้ง 2 ราย ที่ถูกควบคุมตัวในวันนี้ยังให้การปฏิเสธและขอสู้คดีในชั้นศาล

พ.ต.อ.สถิตย์ พรหมอุทัย ผกก.สภ.โคกกลอย จ.พังงา เปิดเผยว่า หลังจากที่คณะพนักงานสอบสวนได้นำภาพผู้ต้องสงสัย จำนวน 6 ภาพ ให้ ด.ญ.เอ (นามสมมติ) อายุ 14 ปี ผู้เสียหายชี้ตัวเพิ่มเติม โดยพบว่า เด็กหญิงสามารถระบุตัวได้ 3 คน คือ นายรังสันติ์ ชายเลี้ยง อายุ 23 ปี นายนาวิก จารึก อายุ 53 ปี และนายสายัน สุเมนร์ อายุ 43 โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆโดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยผู้อื่นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้และกระทำโดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันอันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิง ร่วมกันพรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี ไปเสียจากบิดามารดาผู้ปกครองหรือผู้ดูแล โดยผู้เยาว์นั้นไม่เต็มใจไปด้วย และเพื่ออนาจาร ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใดหรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั่นเองหรือของอื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้นไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้น ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ทำการรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลจังหวัดพังงา ออกหมายจับเพิ่มอีก 3 คน

สำหรับกรณี 2 ใน 3 ของผู้ต้องหาชุดแรกมีปัสสาวะเป็นสีม่วงหลังทำการจับกุม ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการส่งปัสสาวะไปตรวจพิสูจน์ว่าเป็นสารชนิดใด เมื่อได้ผลกลับมาจะทำการส่งฟ้องดำเนินคดีที่เกี่ยวกับยาเสพย์ติดอีกข้อหา

ส่วนร่องรอยของอุปกรณ์ และยาเสพติดที่พบเป็นจำนวนมากในบริเวณหมู่บ้าน จนทำให้เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันว่า เป็นแหล่งมั่วสุม และที่พักยาเสพติดนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เตรียมขยายผลเข้าทำการจับกุม ซึ่งขณะนี้รู้ตัวผู้เกี่ยวข้องบางส่วนแล้ว แต่เพื่อให้เกิดความรัดกุม และสั่งฟ้องได้โดยไม่มีข้อครหา เจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องทำการรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมบางส่วนเพื่อเข้าทำการจับกุม

โดยก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกับฝ่ายปกครองทำการจับกุมอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่พบผู้ค้ารายใหญ่ พบเพียงผู้เสพ แต่เคยจับกุมผู้ที่ใช้บริเวณดังกล่าวเป็นทางผ่าน เพื่อขนยาเสพติดหลบเลี่ยงด่านตรวจท่าฉัตรชัย จังหวัดภูเก็ต ขณะเตรียมขนส่งยา และมีการดำเนินคดีไปก่อนหน้าแล้ว

ขณะที่เซฟเฮาส์ที่ครอบครัวของเด็กหญิงอายุ 14 ปี เหยื่อรุมโทรมพักอาศัยอยู่นั้น พบว่า ได้มีกลุ่มชาวบ้านแฝงตัวไปกับกลุ่มคนที่อ้างว่ามีความสนิทกับเจ้าหน้าที่รัฐ ขอเข้าพบกับ เด็กและครอบครัวผู้ถูกกระทำ โดยอ้างว่าจะนำสิ่งของมามอบให้เพื่อเป็นกำลังใจ และเยียวยาจิตใจของเด็ก และครอบครัว แต่เนื่องจากครอบครัวดังกล่าวอยู่ในการคุ้มครองพยาน กลุ่มคนดังกล่าวจึงไม่สามารถเข้าพบครอบครัวผู้ถูกกระทำได้ ก่อนจะเดินทางกลับ

ด้าน พล.ต.ต.บุญทวี โตรักษา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพังงา เปิดเผยว่า จากหลักฐานที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถรวบรวมมาได้ ทำให้มีความมั่นใจถึง 80 % ว่าสามารถเอาผิดกับผู้ที่กระทำความผิดได้ มิเช่นนั้นศาลจังหวัดพังงาคงไม่อนุมัติหมายจับมาแล้วถึง 11 คน ส่วนหลักฐานที่ส่งไปตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ ต้องใช้เวลาประมาณ 1 เดือน ซึ่งหากเจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบได้เสร็จเร็วกว่ากำหนด พนักงานสอบสวนก็จะทำการรวบรวมและสรุป ส่งอัยการจังหวัดพังงา เพื่อทำการฟ้องผู้ถูกกล่าวหาโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้อยากให้ผู้ที่ถูกกล่าวหาทั้งหมด นำพยานหลักฐานมาให้กับพนักงานสอบสวนเพื่อนำไปประกอบสำนวนของทั้ง 2 ฝั่ง ก่อนจะส่งฟ้อง เพราะปัจจุบันยังไม่มีข้อมูล หรือหลักฐานจากผู้ที่ถูกกล่าวหาแต่อย่างใดในชั้นสืบสวนสอบสวน
กำลังโหลดความคิดเห็น