ศูนย์ข่าวภูเก็ต - คนร้ายเหิมก่อเหตุทุบประตูกระจกร้านขายกาแฟ/ ร้านซาบู กลางเมือง เข้าไปขโมยทรัพย์สินหลายรายการ หลังก่อเหตุหลบหนีลอยนวล ระบุก่อนหน้านี้เคยก่อเหตุกับร้านอื่นมาแล้ว ขณะนี้ชุดสืบสวนลงพื้นที่หาเบาะแสของคนร้ายแล้ว
เมื่อเวลา 07.50 น. วันนี้ (6 ก.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองภูเก็ต ได้รับแจ้ง ว่า มีเหตุคนร้ายทุบกระจกร้านอาหารแล้วเข้าไปขโมยทรัพย์ภายในร้าน เหตุเกิดที่บริเวณ ร้าน ซาบู อินดี้ และ ร้าน ป้าปุ๋ย กาแฟ ถ.ตะกั่วป่า ต.ตลาดเหนือ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ขอให้เดินทางไปตรวจสอบด้วย
หลังจากรับแจ้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ภิญโญเทพประทาน รองผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองภูเก็ต จึงรายงานให้ พ.ต.อ.กมล โอศิริ ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต ทราบ ก่อนเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย ร.ต.อ.ชาตรี เวชรังสี รองสวป.สภ.เมืองภูเก็ต เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสภ.เมืองภูเก็ต
ที่เกิดอยู่ติดถนนตะกั่วป่า เป็นอาคารชั้นเดียวปลูกเรียงราย ที่ร้านป้าปุ๋ยกาแฟ พบ น.ส.วรรณวิมล เกตุเมฆ อายุ 32 ปี ยืนอยู่หน้าร้าน ด้วยอาการตื่นตระหนกตกใจ ที่ประตูกระจก มีรอยแตกและพบเศษกระจก ตกกระจัดกระจายอยู่ภายในร้าน เจ้าหน้าที่ จึงเข้าไปตรวจสอบภายในร้าน พบที่เคาน์เตอร์มีการรื้อค้นทรัพย์สิน และมีทรัพย์สินสูญหายคนร้าย ประกอบด้วย โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง ขนมปังที่มีคนมาฝากขาย จำนวน 20 ถุง
นอกจากนั้นจากการตรวจสอบบริเวณใกล้เคียง พบที่ ร้านซาบู อินดี้ ถูกคนร้ายทุบกระจกแตก ซึ่งร้านดังกล่าว มีนายธนกร โชติวรนาท์ อายุ 45 ปี เป็นเจ้าของร้าน ตรวจสอบภายในร้าน พบมีการรื้อค้น โดยทรัพย์สินที่ถูกคนร้ายขโมยไป ประกอบด้วย คอมพิวเตอร์ ตั้งโต๊ะยี่ห้อเอเซอร์ จำนวน 1 เครื่อง มูลค่าประมาณ 25,000 บาท และทรัพย์สินอื่นๆอีกจำนวนหนึ่ง หลังจากนั้นประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดภูเก็ตลงพื้นที่เก็บรายนิ้วมือแฝงทั้ง 2 ร้าน
จากการสอบสวนทราบว่า ขณะเกิดเหตุ ทั้ง 2 ร้าน ไม่มีใครเฝ้าร้าน เมื่อขายของเสร็จก็ได้ปิดร้านกลับบ้าน ในช่วงเข้าวันนี้ เดินทางมาที่ร้านเพื่อเปิดร้านตามปกติ แต่พบว่าร้านถูกคนร้ายใช้ของแข็งทุบกระจกประตู แล้วเข้าไปขโมยทรัพย์สิน จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบในที่สุด
อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา ได้มีคนร้ายก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวมาแล้วครั้งหนึ่ง โดยก่อเหตุกับร้านค้าที่อยู่ห่างจากจุดที่เกิดเหตุวันนี้ ประมาณ 200 เมตร ในครั้งนั้นคนร้ายได้คอมพิวเตอร์ไป 1 เครื่อง
อย่างไรก็ตามหลังเกิดเหตุ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองภูเก็ตออกสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุดังกล่าวแล้ว แต่ยังไร้วีแวว
เมื่อเวลา 07.50 น. วันนี้ (6 ก.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองภูเก็ต ได้รับแจ้ง ว่า มีเหตุคนร้ายทุบกระจกร้านอาหารแล้วเข้าไปขโมยทรัพย์ภายในร้าน เหตุเกิดที่บริเวณ ร้าน ซาบู อินดี้ และ ร้าน ป้าปุ๋ย กาแฟ ถ.ตะกั่วป่า ต.ตลาดเหนือ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ขอให้เดินทางไปตรวจสอบด้วย
หลังจากรับแจ้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ภิญโญเทพประทาน รองผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองภูเก็ต จึงรายงานให้ พ.ต.อ.กมล โอศิริ ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต ทราบ ก่อนเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย ร.ต.อ.ชาตรี เวชรังสี รองสวป.สภ.เมืองภูเก็ต เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสภ.เมืองภูเก็ต
ที่เกิดอยู่ติดถนนตะกั่วป่า เป็นอาคารชั้นเดียวปลูกเรียงราย ที่ร้านป้าปุ๋ยกาแฟ พบ น.ส.วรรณวิมล เกตุเมฆ อายุ 32 ปี ยืนอยู่หน้าร้าน ด้วยอาการตื่นตระหนกตกใจ ที่ประตูกระจก มีรอยแตกและพบเศษกระจก ตกกระจัดกระจายอยู่ภายในร้าน เจ้าหน้าที่ จึงเข้าไปตรวจสอบภายในร้าน พบที่เคาน์เตอร์มีการรื้อค้นทรัพย์สิน และมีทรัพย์สินสูญหายคนร้าย ประกอบด้วย โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง ขนมปังที่มีคนมาฝากขาย จำนวน 20 ถุง
นอกจากนั้นจากการตรวจสอบบริเวณใกล้เคียง พบที่ ร้านซาบู อินดี้ ถูกคนร้ายทุบกระจกแตก ซึ่งร้านดังกล่าว มีนายธนกร โชติวรนาท์ อายุ 45 ปี เป็นเจ้าของร้าน ตรวจสอบภายในร้าน พบมีการรื้อค้น โดยทรัพย์สินที่ถูกคนร้ายขโมยไป ประกอบด้วย คอมพิวเตอร์ ตั้งโต๊ะยี่ห้อเอเซอร์ จำนวน 1 เครื่อง มูลค่าประมาณ 25,000 บาท และทรัพย์สินอื่นๆอีกจำนวนหนึ่ง หลังจากนั้นประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดภูเก็ตลงพื้นที่เก็บรายนิ้วมือแฝงทั้ง 2 ร้าน
จากการสอบสวนทราบว่า ขณะเกิดเหตุ ทั้ง 2 ร้าน ไม่มีใครเฝ้าร้าน เมื่อขายของเสร็จก็ได้ปิดร้านกลับบ้าน ในช่วงเข้าวันนี้ เดินทางมาที่ร้านเพื่อเปิดร้านตามปกติ แต่พบว่าร้านถูกคนร้ายใช้ของแข็งทุบกระจกประตู แล้วเข้าไปขโมยทรัพย์สิน จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบในที่สุด
อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา ได้มีคนร้ายก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวมาแล้วครั้งหนึ่ง โดยก่อเหตุกับร้านค้าที่อยู่ห่างจากจุดที่เกิดเหตุวันนี้ ประมาณ 200 เมตร ในครั้งนั้นคนร้ายได้คอมพิวเตอร์ไป 1 เครื่อง
อย่างไรก็ตามหลังเกิดเหตุ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองภูเก็ตออกสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุดังกล่าวแล้ว แต่ยังไร้วีแวว
