พังงา - โจรขโมยไฟท้ายย่ามใจข้ามเขตออกตระเวนขโมยไฟท้ายในแหล่งท่องเที่ยวย่านเขาหลัก ขณะที่ ผกก.สภ.ตะกั่วป่า ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการจอด
วันนี้ (27 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า จากกรณีที่โจรออกตระเวนขโมยไฟท้ายรถกระบะยี่ห้อดังในพื้นที่ สภ.ตะกั่วป่า อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ทำให้มีผู้เสียหายมาแล้วเกือบ 10 ราย โดยกลุ่มคนร้ายจะออกตระเวนขโมยวันละ 2-4 คัน ก่อนจะหายตัวไปสักระยะ หลังจากนั้น จะออกมาขโมยอีก ซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถที่จับกุมคนร้ายได้ทันท่วงที ทำได้เพียงการกระจายข่าวสารให้ผู้ที่ใช้รถยนต์กระบะรุ่นดังกล่าวเพิ่มความระมัดระวัง
จนกระทั่งล่าสุด คนร้ายได้ขยายวงออกขโมยไปยังย่านท่องเที่ยวเขาหลัก ซึ่งเป็นพื้นที่ต่อเนื่องกับ สภ.ตะกั่วป่า โดยย่านท่องเที่ยวดังกล่าวจะมีลักษณะเป็นอาคารพาณิชย์ เจ้าของบ้านต้องนำรถมาจอดบริเวณถนนซึ่งง่ายต่อการขโมย
พ.ต.อ.สุจินต์ นิลบดี ผู้กำกับ สภ.เขาหลัก ได้เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า ขณะนี้ได้มีผู้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เขาหลัก ว่า มีคนร้ายขโมยไฟท้ายไปแล้ว จำนวน 4 คัน โดยเข้าแจ้งความตั้งแต่ช่วงเช้า 3 คัน และช่วงบ่ายอีก 1 คัน โดยแต่ละคันที่เข้ามาพบว่าจะเป็นไฟท้ายของรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแมคซ์ ออล นิว ซึ่งจะมีไฟท้ายเป็นแบบ LED มีการจอดรถไว้บริเวณถนน หรือเอาท้ายรถออกมานอกบ้าน โดยขณะนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนไล่ดูกล้องวงจรปิดทั้งหมด เพื่อประสานกับ สภ.ตะกั่วป่า ว่าเป็นกลุ่มคนร้ายกลุ่มเดียวกันหรือไม่ และมีทิศทางในการหลบหนีไปทางได
ด้าน พ.ต.อ.กฤตภาส เดชอินทรศร เผยว่า รถกระบะรุ่นดังกล่าวจะสามารถถอดไฟท้ายโดยง่าย เนื่องจากมีนอตยึดแค่ 2 ตัว ซึ่งจะใช้เวลาในการถอดทั้ง 2 ข้างไม่ถึง 1 นาที การป้องกันนั้นค่อนข้างจะยากหากไม่มีระบบล็อกฝาท้าย จึงอยากฝากถึงพี่น้องประชาชนว่าหากเป็นไปได้ให้ไปที่ร้านประดับยนต์เพื่อติดตั้งระบบล็อกฝาท้าย แต่หากยังไม่มีทุนทรัพย์ที่จะไปติดตั้งก็สามารถใช้วิธีทำให้นอตที่ยึดไฟท้ายเกิดการเสียหาย ซึ่งจะทำให้คนร้ายต้องใช้เวลามากในการถอด และเปลี่ยนรถที่จะขโมยเป็นคันอื่น
ส่วนความคืบหน้าของคนร้ายที่ก่อเหตุในพื้นที่ สภ.ตะกั่วป่า นั้น ชุดสืบสวนได้ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดจนทราบลักษณะของคนร้ายแล้ว แต่เนื่องจากกล้องวงจรปิดดังกล่าวเป็นกล้องรุ่นเก่าซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่ต้องหาหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อมัดตัวคนร้าย พร้อมทั้งเฝ้าระวังจุดเสี่ยง และออกประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่ใช้ระกระบะรุ่นดังกล่าวดำเนินการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการจอด
วันนี้ (27 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า จากกรณีที่โจรออกตระเวนขโมยไฟท้ายรถกระบะยี่ห้อดังในพื้นที่ สภ.ตะกั่วป่า อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ทำให้มีผู้เสียหายมาแล้วเกือบ 10 ราย โดยกลุ่มคนร้ายจะออกตระเวนขโมยวันละ 2-4 คัน ก่อนจะหายตัวไปสักระยะ หลังจากนั้น จะออกมาขโมยอีก ซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถที่จับกุมคนร้ายได้ทันท่วงที ทำได้เพียงการกระจายข่าวสารให้ผู้ที่ใช้รถยนต์กระบะรุ่นดังกล่าวเพิ่มความระมัดระวัง
จนกระทั่งล่าสุด คนร้ายได้ขยายวงออกขโมยไปยังย่านท่องเที่ยวเขาหลัก ซึ่งเป็นพื้นที่ต่อเนื่องกับ สภ.ตะกั่วป่า โดยย่านท่องเที่ยวดังกล่าวจะมีลักษณะเป็นอาคารพาณิชย์ เจ้าของบ้านต้องนำรถมาจอดบริเวณถนนซึ่งง่ายต่อการขโมย
พ.ต.อ.สุจินต์ นิลบดี ผู้กำกับ สภ.เขาหลัก ได้เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า ขณะนี้ได้มีผู้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เขาหลัก ว่า มีคนร้ายขโมยไฟท้ายไปแล้ว จำนวน 4 คัน โดยเข้าแจ้งความตั้งแต่ช่วงเช้า 3 คัน และช่วงบ่ายอีก 1 คัน โดยแต่ละคันที่เข้ามาพบว่าจะเป็นไฟท้ายของรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแมคซ์ ออล นิว ซึ่งจะมีไฟท้ายเป็นแบบ LED มีการจอดรถไว้บริเวณถนน หรือเอาท้ายรถออกมานอกบ้าน โดยขณะนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนไล่ดูกล้องวงจรปิดทั้งหมด เพื่อประสานกับ สภ.ตะกั่วป่า ว่าเป็นกลุ่มคนร้ายกลุ่มเดียวกันหรือไม่ และมีทิศทางในการหลบหนีไปทางได
ด้าน พ.ต.อ.กฤตภาส เดชอินทรศร เผยว่า รถกระบะรุ่นดังกล่าวจะสามารถถอดไฟท้ายโดยง่าย เนื่องจากมีนอตยึดแค่ 2 ตัว ซึ่งจะใช้เวลาในการถอดทั้ง 2 ข้างไม่ถึง 1 นาที การป้องกันนั้นค่อนข้างจะยากหากไม่มีระบบล็อกฝาท้าย จึงอยากฝากถึงพี่น้องประชาชนว่าหากเป็นไปได้ให้ไปที่ร้านประดับยนต์เพื่อติดตั้งระบบล็อกฝาท้าย แต่หากยังไม่มีทุนทรัพย์ที่จะไปติดตั้งก็สามารถใช้วิธีทำให้นอตที่ยึดไฟท้ายเกิดการเสียหาย ซึ่งจะทำให้คนร้ายต้องใช้เวลามากในการถอด และเปลี่ยนรถที่จะขโมยเป็นคันอื่น
ส่วนความคืบหน้าของคนร้ายที่ก่อเหตุในพื้นที่ สภ.ตะกั่วป่า นั้น ชุดสืบสวนได้ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดจนทราบลักษณะของคนร้ายแล้ว แต่เนื่องจากกล้องวงจรปิดดังกล่าวเป็นกล้องรุ่นเก่าซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่ต้องหาหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อมัดตัวคนร้าย พร้อมทั้งเฝ้าระวังจุดเสี่ยง และออกประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่ใช้ระกระบะรุ่นดังกล่าวดำเนินการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการจอด