ศูนย์ข่าวภูเก็ต - หินในหอยพ่นพิษ! นายกเทศมนตรีตำบลราไวย์ จ.ภูเก็ต เรียกผู้ประกอบการร้านอาหาร แผงขายอาหารสด หน้าหมู่บ้านชาวไทยใหม่ ล้อมคอก ป้องกันปัญหาเอาเปรียบผู้บริโภค ย้ำต้องปลอดภัย สะอาด ถูกสุขลักษณะ เตรียมส่งเจ้าหน้าที่ตรวจหากพบผิดซ้ำซากสั่งปิดร้าน
จากกรณีมีการโพสต์ข้อความพร้อมรูปภาพ เฟซบุ๊ก “Chuensrinuan Kittiphon” โดยมีใจความ ว่า “ชื่อเรื่องโกง 13 สิงหาคม 2560 วันนี้พาครอบครัวไปกินอาหารทะเลแถวหาดราไวย์ ชื่อย่อว่า ร้าน ม. ซึ่งร้านนี้ทำอาหารทะเล หรือว่าซีฟูดอร่อยมากจัดว่าเด็ด แต่แฟนผมจะไปซื้ออาหารทะเลเช่น กุ้ง ปลา หอย ต่างๆ ที่หน้าร้านต่างๆ หน้าหาด แล้วนำมาให้ทางร้านปรุง แล้วทางร้านจะคิดค่าทำอาหารต่างหาก
แต่ประเด็นมันอยู่ตรงตอนที่ซื้ออาหารทะเลสดจากแผงขายของทะเล ซึ่งซื้อหอยหวาน ในราคากิโลกรัมละ 120 บาท จึงตกลงซื้อ 1 กิโลกรัม เอามาให้ทางร้านปรุงได้เมนู หอยหวานผัดพริกเผา แต่รับประทานคำแรกถึงกับต้องหยุดเคี้ยวทันที เมื่อได้กัดก้อนหินจนฟันแทบหลุด เหลือบตาดูในอาหารจานนั้น หิน ประมาณ 10 กว่าก้อน
คำถามคือ มาได้งัย??????? ใครพอมีความรู้เรื่องการคุ้มครองผู้บริโภค ช่วยแนะนำบ้างครับ ไม่น่าให้มีเหตุการณ์กับการซื้อขายแบบโกงกิโลน้ำหนักหอย ได้ไม่กี่ตัวแต่ บวกน้ำหนักหินมาด้วย 1 กิโลกรัมพอดี ขอบคุณครับ” อย่างไรก็ตาม หลังมีการโพสต์ข้อความดังกล่าวออกมาไม่นาน ก็มีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ล่าสุด วันนี้ (17 ส.ค.) นายอรุณ โสฬส นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลราไวย์ ได้เชิญประชุมร้านอาหาร และร้านแผงอาหารสดในพื้นที่บริเวณหน้าหมู่บ้านชาวไทยใหม่ ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต มาร่วมประชุมเพื่อกำหนดมาตรการในการป้องกันปัญหาที่เกิดขึ้น หลังมีการโพสต์ ข้อความ พร้อมรูปภาพว่ามีก้อนหินอยู่ในหอยหวาน โดยระบุร้านอาหาร และแผงขายอาหารสดที่เกิดเหตุอยู่ในพื้นที่ ต.ราไวย์ เนื่องจากมองว่าการกระทำที่เกิดขึ้นของผู้ประกอบการ ส่งผลเสียและเป็นการทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของราไวย์ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลก
การประชุมครั้งนี้ มีผู้ประกอบการร้านอาหาร และแผงจำหน่ายของสด รวมทั้งหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ทั้งสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต หมอประจำโรงพยาบาลตำบล ตำรวจภูธร สภ.ฉลอง เจ้าหน้าที่กองสาธารณสุขเทศบาลตำบลราไวย์ อสม. เข้าร่วมประชุม เพื่อกำหนดมาตรการในการป้องกันร่วมกัน
นายอรุณ กล่าวภายหลังการประชุมว่า หลังจากทราบว่ามีเหตุการณ์ผู้บริโภคซึ่งมารับประทานอาหารที่ร้านอาหารในพื้นที่ และพบว่า เมนูหอยหวานซึ่งลูกค้าซื้อมาจากแผงขายอาหารสด และ นำไปให้ร้านอาหารปรุง แต่กลับมีหินปะปนมามาด้วยกว่า 10 ก้อน ทางเทศบาลก็ไม่ได้นิ่งนอนใจต่อปัญหาที่เกิดขึ้น และวันนี้ได้เชิญผู้ประกอบการมาทำความเข้าใจถึงเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาที่ทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยวอย่างร้ายแรง โดยเฉพาะตอนนี้ยังไม่มีการระบุว่า ร้านใดเป็นคนที่ทำสิ่งเหล่านี้
ในการประชุมได้ชี้แจงให้ร้านอาหารปฏิบัติให้ถูกต้องตามถูกสุขลักษณะ เพื่อยกระดับมาตรฐานด้านอาหาร และการบริการให้เป็นที่ยอมรับของผู้ใช้บริการ และนักท่องเที่ยว โดยจะต้องปฏิบัติตามตามระบบสุขาภิบาลอาหารตาม พ.ร.บ.สาธารณสุข เน้นความปลอดภัย สะอาด ไม่เอารัดเอาเปรียบลูกค้า ไม่มีสิ่งปนเปื้อนในอาหาร ซึ่งหลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่จะลงพื้นที่ตรวจสอบร้านอาหาร และแผงบขายอาคารสดในพื้นที่อย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาเกิดซ้ำ
หากร้านใดไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบ จะมีการตักเตือน ครั้งแรกให้ปรับปรุงแก้ไข ครั้งที่ 2 จะมีการสั่งปิดชั่วคราว ส่วนครั้งที่ 3 จะมีการสั่งปิดถาวร ซึ่งการตรวจสอบจะดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบัน ร้านอาหารบริเวณหน้าหมู่บ้านชาวไทยใหม่มีประมาณ 10 ร้าน ส่วนร้านแผงขายอาหารสดมีประมาณ 12 ร้าน จากการพูดคุยพบว่าได้รับความร่วมมือจากร้านค้าต่างๆ เป็นอย่างดี โดยตนได้เน้นย้ำให้ทุกร้านเข้าร่วมการตรวจสอบเพื่อรับป้าย Clean Food Good Taste อาหารสะอาด รสชาติอร่อย ซึ่งเป็นการยืนยันว่า ร้านอาหารเหล่านี้มีความสะอาด ปลอดภัย
นายอรุณ กล่าวต่อไปว่า กรณีพบหินในหอยหวานนั้น ตนยังไม่ทราบว่าร้านไหน แต่ถ้าผู้เสียหายไปร้องเรียน หรือแจ้งความดำเนินคดีก็ต้องว่ากันไปตามกฎหมาย หากทราบว่าเป็นร้านใดที่ทำเรื่องแบบนี้ก็จะต้องเชิญมาทำความเข้าใจอีกครั้ง เพราะเป็นการทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงความเป็นเมืองท่องเที่ยวอย่างมาก
จากกรณีมีการโพสต์ข้อความพร้อมรูปภาพ เฟซบุ๊ก “Chuensrinuan Kittiphon” โดยมีใจความ ว่า “ชื่อเรื่องโกง 13 สิงหาคม 2560 วันนี้พาครอบครัวไปกินอาหารทะเลแถวหาดราไวย์ ชื่อย่อว่า ร้าน ม. ซึ่งร้านนี้ทำอาหารทะเล หรือว่าซีฟูดอร่อยมากจัดว่าเด็ด แต่แฟนผมจะไปซื้ออาหารทะเลเช่น กุ้ง ปลา หอย ต่างๆ ที่หน้าร้านต่างๆ หน้าหาด แล้วนำมาให้ทางร้านปรุง แล้วทางร้านจะคิดค่าทำอาหารต่างหาก
แต่ประเด็นมันอยู่ตรงตอนที่ซื้ออาหารทะเลสดจากแผงขายของทะเล ซึ่งซื้อหอยหวาน ในราคากิโลกรัมละ 120 บาท จึงตกลงซื้อ 1 กิโลกรัม เอามาให้ทางร้านปรุงได้เมนู หอยหวานผัดพริกเผา แต่รับประทานคำแรกถึงกับต้องหยุดเคี้ยวทันที เมื่อได้กัดก้อนหินจนฟันแทบหลุด เหลือบตาดูในอาหารจานนั้น หิน ประมาณ 10 กว่าก้อน
คำถามคือ มาได้งัย??????? ใครพอมีความรู้เรื่องการคุ้มครองผู้บริโภค ช่วยแนะนำบ้างครับ ไม่น่าให้มีเหตุการณ์กับการซื้อขายแบบโกงกิโลน้ำหนักหอย ได้ไม่กี่ตัวแต่ บวกน้ำหนักหินมาด้วย 1 กิโลกรัมพอดี ขอบคุณครับ” อย่างไรก็ตาม หลังมีการโพสต์ข้อความดังกล่าวออกมาไม่นาน ก็มีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ล่าสุด วันนี้ (17 ส.ค.) นายอรุณ โสฬส นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลราไวย์ ได้เชิญประชุมร้านอาหาร และร้านแผงอาหารสดในพื้นที่บริเวณหน้าหมู่บ้านชาวไทยใหม่ ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต มาร่วมประชุมเพื่อกำหนดมาตรการในการป้องกันปัญหาที่เกิดขึ้น หลังมีการโพสต์ ข้อความ พร้อมรูปภาพว่ามีก้อนหินอยู่ในหอยหวาน โดยระบุร้านอาหาร และแผงขายอาหารสดที่เกิดเหตุอยู่ในพื้นที่ ต.ราไวย์ เนื่องจากมองว่าการกระทำที่เกิดขึ้นของผู้ประกอบการ ส่งผลเสียและเป็นการทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของราไวย์ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลก
การประชุมครั้งนี้ มีผู้ประกอบการร้านอาหาร และแผงจำหน่ายของสด รวมทั้งหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ทั้งสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต หมอประจำโรงพยาบาลตำบล ตำรวจภูธร สภ.ฉลอง เจ้าหน้าที่กองสาธารณสุขเทศบาลตำบลราไวย์ อสม. เข้าร่วมประชุม เพื่อกำหนดมาตรการในการป้องกันร่วมกัน
นายอรุณ กล่าวภายหลังการประชุมว่า หลังจากทราบว่ามีเหตุการณ์ผู้บริโภคซึ่งมารับประทานอาหารที่ร้านอาหารในพื้นที่ และพบว่า เมนูหอยหวานซึ่งลูกค้าซื้อมาจากแผงขายอาหารสด และ นำไปให้ร้านอาหารปรุง แต่กลับมีหินปะปนมามาด้วยกว่า 10 ก้อน ทางเทศบาลก็ไม่ได้นิ่งนอนใจต่อปัญหาที่เกิดขึ้น และวันนี้ได้เชิญผู้ประกอบการมาทำความเข้าใจถึงเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาที่ทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยวอย่างร้ายแรง โดยเฉพาะตอนนี้ยังไม่มีการระบุว่า ร้านใดเป็นคนที่ทำสิ่งเหล่านี้
ในการประชุมได้ชี้แจงให้ร้านอาหารปฏิบัติให้ถูกต้องตามถูกสุขลักษณะ เพื่อยกระดับมาตรฐานด้านอาหาร และการบริการให้เป็นที่ยอมรับของผู้ใช้บริการ และนักท่องเที่ยว โดยจะต้องปฏิบัติตามตามระบบสุขาภิบาลอาหารตาม พ.ร.บ.สาธารณสุข เน้นความปลอดภัย สะอาด ไม่เอารัดเอาเปรียบลูกค้า ไม่มีสิ่งปนเปื้อนในอาหาร ซึ่งหลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่จะลงพื้นที่ตรวจสอบร้านอาหาร และแผงบขายอาคารสดในพื้นที่อย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาเกิดซ้ำ
หากร้านใดไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบ จะมีการตักเตือน ครั้งแรกให้ปรับปรุงแก้ไข ครั้งที่ 2 จะมีการสั่งปิดชั่วคราว ส่วนครั้งที่ 3 จะมีการสั่งปิดถาวร ซึ่งการตรวจสอบจะดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบัน ร้านอาหารบริเวณหน้าหมู่บ้านชาวไทยใหม่มีประมาณ 10 ร้าน ส่วนร้านแผงขายอาหารสดมีประมาณ 12 ร้าน จากการพูดคุยพบว่าได้รับความร่วมมือจากร้านค้าต่างๆ เป็นอย่างดี โดยตนได้เน้นย้ำให้ทุกร้านเข้าร่วมการตรวจสอบเพื่อรับป้าย Clean Food Good Taste อาหารสะอาด รสชาติอร่อย ซึ่งเป็นการยืนยันว่า ร้านอาหารเหล่านี้มีความสะอาด ปลอดภัย
นายอรุณ กล่าวต่อไปว่า กรณีพบหินในหอยหวานนั้น ตนยังไม่ทราบว่าร้านไหน แต่ถ้าผู้เสียหายไปร้องเรียน หรือแจ้งความดำเนินคดีก็ต้องว่ากันไปตามกฎหมาย หากทราบว่าเป็นร้านใดที่ทำเรื่องแบบนี้ก็จะต้องเชิญมาทำความเข้าใจอีกครั้ง เพราะเป็นการทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงความเป็นเมืองท่องเที่ยวอย่างมาก