ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - คนร้ายงัดแงะบ้านเซียนพระชื่อดังในเมืองหาดใหญ่ แต่มีคนกลับมาพบพอดี เชิงสูงตีเนียนชวนคุยเหมือนมาธุระกับคนในบ้าน ก่อนเดินออกจากบ้านขับรถหนีไปอย่างลอยนวล พร้อมเครื่องทอง เงินสด และทรัพย์สินอีกหลายรายการ
วันนี้ (1 ส.ค.) ร.ต.อ.สรรเสริญ มุสิกศิริ พนักงานสอบสวน สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา รับแจ้งว่าเกิดเหตุลักทรัพย์ภายในบ้านเลขที่ 321/1 ถนนสาครมงคล ซอย 8 เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้นหลังใหญ่ มีรั้วรอบขอบชิด หลังจากตำรวจทั้งฝ่ายสอบสวนและสืบสวนลงพื้นที่ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุทราบว่า เป็นบ้านของ นายสุวิทย์ ทัตงาม อายุ 42 ปี หรือ “เซียนดำหาดใหญ่” ซึ่งเป็นเซียนพระชื่อดังใน อ.หาดใหญ่
ตรวจสอบภายในบ้านพบร่องรอยการรื้อค้นหาพระมีค่า และทรัพย์สินที่อยู่ภายในตู้ทั้งชั้นบน และชั้นล่าง และพบว่าคนร้ายได้ใช้ผ้าขนหนูห่อองค์จตุคามรามเทพฯ ปี 30 ประมาณ 5 องค์ ซึ่งยุคที่กำลังดังมีมูลค่าเหยียบองค์ละ 2 ล้านบาท รวมทั้งกระปุกที่ข้างในมีทั้งพระเครื่อง และทองรูปพรรณ แต่ยังไม่ได้เอาไป และที่ประตูบานเลื่อนหน้าบ้านมีร่องรอยถูกงัดแงะ
ส่วนสอบทรัพย์สินภายในบ้านในเบื้องต้น พบว่า มีแหวนทองคำฝังเพชร ราคา 12,000 บาท เงินสด 2,000 บาท และทรัพย์สินอื่นๆ อีกหลายรายการที่ยังไม่สามารถตรวจสอบได้ โดยเฉพาะพระเครื่องดังๆ ที่เก็บไว้ภายในบ้านซึ่งมีมูลค่าสิบล้านบาท
สอบสวน น.ส.รุจลัดดา พิมพา 43 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนสาวคนสนิทของพี่สาว นายสุวิทย์ และอาศัยอยู่ด้วยกันในบ้านหลังนี้ ให้การว่า ช่วงเกิดเหตุได้ซื้อขนมกลับมาให้แม่อายุ 85 ปี ที่อยู่เพียงลำพังบนชั้น 2 ของบ้าน และแม่บอกว่ามีคนอยู่ในห้องน้ำจึงชะโงกหน้าเข้าไปดู ก็พบกับคนร้ายที่กำลังล้างหน้าล้างตาอยู่ในห้องน้ำ รูปร่างผอม หน้าตาดี สวมเสื้อแจ็กเกต นุ่งกางเกงยีนส์
และคนร้ายไม่ได้แสดงท่าทีตกใจกลัวแต่อย่างใด แต่กลับถามว่าน้าซื้ออะไรมาให้ ยายจึงตอบไปว่าซื้อขนมมาให้ และคนร้ายได้รีบเดินลงไปชั้นล่าง ซึ่งตนก็เดินตามไปด้วยเพราะคิดว่าเพื่อนของคนในบ้าน และคนร้ายก็ยังชวนคุยบอกว่า น้องชายอีกคนออกไปซื้อข้าวผัด และน้ำอัดลมยังไม่กลับมา ก่อนที่จะเดินไปขึ้นรถจิ๊ปขับออกไปแบบสบายๆ แต่ด้วยความรีบคนร้ายสวมรองเท้าผิดคู่โดยใส่ของตนไป และวางของตัวเองเอาไว้ มารู้อีกทีว่าเป็นโจรก็เมื่อสอบถามคนในบ้าน แต่กลับไม่มีใครรู้จัก หรือรู้เรื่องของชายคนนี้
หลังเกิดเหตุตำรวจกำลังเร่งหาเบาะแสของคนร้ายรายนี้ ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเป็นคนที่รู้จักกับคนในบ้านเป็นอย่างดี โดยเฉพาะในแวดวงพระเครื่อง โดยเป้าหมายคนร้ายน่าจะต้องการมาขโมยพระดังตามใบสั่ง แต่บังเอิญที่มีคนกลับเข้ามาพบก่อนจึงทำตีเนียน และรีบออกจากบ้านไป และได้ทรัพย์สินมีค่าไปเพียงบางส่วนเท่านั้น