รวบแก๊งตีนแมวชาวโคลอมเบีย ล็อกบ้านเหยื่อไม่มี รปภ.-สุนัข ได้ของกลางพันรายการ มูลค่าหลายล้านบาท

MGR Online - รอง ผบช.ภ.1 พร้อมตำรวจ สภ.รัตนาธิเบศร์ รวบแก๊งลักทรัพย์ชาวโคลอมเบีย ตระเวนลักทรัพย์ในพื้นที่กรุงเทพฯ และ ปริมณฑล ผู้ต้องหารับสารภาพจะเน้นหมูบ้านที่ไม่มี รปภ. และไม่เลี้ยงสุนัข ได้ของกลางกว่า 1,000 รายการ มูลค่ากว่าหลายล้านบาท ส่วนเงินที่ได้มาจะนำไปใช้เที่ยวเตร่ เมื่อเงินหมดจะจัดรวมตัวกันมาก่อเหตุ

วันนี้ (30 ก.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ พล.ต.ต.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.สุศักดิ์ ปรักกมะกุล ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ เที่ยงกมล ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ ร่วมกันจับกุมตัว นาย JEISSON ALFREDO AGUIRRE อายุ 34 ปี สัญชาติโคลอมเบีย ตามหมายจับของศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ 361/2560 ลงวันที่ 19 ก.ค. 2560, นาย JESUS DAVID REYES VASQUEZ อายุ 45 ปี สัญชาติโคลอมเบีย ตามหมายจับของศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ 362/2560 ลงวันที่ 19 ก.ค. 60, นาย JESUS ANIBAL CARDENAS SANTOS SAN JUAN อายุ 41 ปี สัญชาติเปอร์โตริโก ตามหมายจับของศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ 372/2560 ลงวันที่ 19 ก.ค. 60 แก๊งลักทรัพย์โคลอมเบีย โดยจับกุมตัวได้ที่บริเวณหน้าหมู่บ้านวินด์มิลล์พาร์คเอ ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ

พร้อมของกลางตู้เซฟขนาด 50 X 50 จำนวน 2 หลัง มีร่องรอยงัดแงะจนเสียหาย เครื่องประดับ นาฬิกาและกระเป๋าแบรนด์เนม พระเครื่อง อาวุธปืนจำนวน 2 กระบอก รวมกว่า 1,000 รายการ นอกจากนี้ ยังมีรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีขาว ทะเบียน ฆก 1693 กทม., รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีบรอนซ์ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ทะเบียนรถยนต์ปลอม 4 แผ่น อุปกรณ์งัดแงะ อาทิ ไขควง ชะแลงเหล็ก เลื่อยตัดเหล็ก คีมล็อก จำนวนหนึ่งที่ใช้ก่อเหตุ โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถาน ในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือไม่ หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นไปโดยประการใดๆ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป, ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารราชการ

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 6 ก.ค. 60 ที่ผ่านมา เวลา 22.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุคนร้ายเข้าไปลักทรัพย์ ภายในบ้านเลขที่ 10 ซ.สามัคคี 58 แยก 22 ต.ท่าทราย อ.เมืองนนทบุรี ได้ทรัพย์สินเป็นตู้เซฟขนาด 50 X 50 จำนวน 1 หลัง ภายในมีทรัพย์สิน อาทิ สร้อยคอทองคำ กำไลเพชร จี้เพชร ตุ้มหูเพชร สร้อยเพชร แหวนทองคำ โฉนดที่ดิน ธนบัตรชนิดต่างๆ ทั้งไทย และต่างประเทศ รวมมูลค่ากว่า 1,000,000 บาท หลบหนีไป จากการตรวจสอบภาพวงจรปิดที่ติดตั้งไว้ในหมู่บ้าน พบรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีบรอนซ์ ของคนร้ายขับเข้ามาจอดที่หน้าบ้านผู้เสียหาย ก่อนจะขับรถกลับออกไปและวนกลับมาจอดรถใหม่ โดยมีคนร้าย 2 คน สวมเสื้อยืดแขนยาวสีดำ กางเกงขายาว สวมหมวกปิดบังใบหน้า ลงจากรถก่อนจะปีนรั้วกำแพงเข้าไปในบ้าน เพื่อลักทรัพย์สินนานกว่า 20 นาที ก่อนจะช่วยกันยกตู้เซฟขึ้นรถเก๋งที่จอดรออยู่หลบหนีไป

ซึ่งจากการตรวจสอบพฤติกรรมของคนร้าย พบว่า มีความคล้ายกับแก๊งลักทรัพย์ชาวโคลอมเบียที่เคยก่อเหตุในลักษณะเดียวกันในพื้นที่ สภ.บางศรีเมือง จ.นนทบุรี และถูกจับกุมตัวได้เมื่อหลายเดือนก่อน จึงทำการสืบสวนตรวจสอบกลุ่มชาวต่างชาติสัญชาติโคลอมเบียที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย ก็พบว่า กลุ่มผู้ต้องหามีประวัติพัวพันกับเหตุลักทรัพย์ในหลายพื้นที่ จึงทำการสะกดรอยดูพฤติกรรม กระทั่งพบว่า ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ได้มีการนัดมารวมตัวกันก่อนจะนำทะเบียนรถปลอมมาใส่ เพื่อไปก่อเหตุที่หมู่บ้านวินด์มิลล์พาร์คเอ จึงแสดงตัวเข้าจับกุม จากการตรวจค้นภายในรถ พบของกลางทรัพย์สินของผู้เสียเป็นจำนวนมากและอุปกรณ์ที่ใช้ในการก่อเหตุ จึงควบคุมตัวทั้ง 3 คน กลับมาสอบสวนที่สภ.รัตนาธิเบศร์

โดยทั้ง 3 คนให้การรับสารภาพว่า เป็นคนร้ายที่เข้าไปลักทรัพย์สินตามบ้านเรือนประชาชนในเขตพื้นที่ จ.สมุทรปราการ จ.นนทบุรี และ กทม. โดยจะเลือกหมู่บ้านที่ไม่มี รปภ. หรือไม่ตรวจสอบรถเข้าออกและจะเลือกเฉพาะบ้านหลังใหญ่ๆ ไม่เปิดไฟในบ้าน ไม่มีรถจอด และไม่เลี้ยงสุนัขในการก่อเหตุ หลังได้ทรัพย์สินมาแล้วก็จะนำของมีค่าไปขายต่อให้กับคนรับซื้อที่ต่างประเทศ เงินที่ได้จะนำไปใช้เที่ยวเตร่ เมื่อเงินหมดจึงจะนัดมารวมตัวกัน เพื่อก่อเหตุจนมาถูกจับกุมตัวได้ในที่สุด

ด้าน พล.ต.ต.สุศักดิ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบประวัติกลุ่มผู้ต้องหาพบว่าเคยก่อเหตุมาแล้วไม่ต่ำกว่า 6 ครั้ง ในเขตพื้นที่ สภ.บางเสาธง 2 ครั้ง สภ.โคกคราม 1 ครั้ง สภ.บางแก้ว 1 ครั้ง สภ.ปากเกร็ด 1 ครั้ง สภ.เมืองราชบุรี 1 ครั้ง ซึ่งจากการสืบสวนคาดว่า กลุ่มผู้ต้องหาน่าจะทำมาแล้วหลายครั้ง จึงอยากฝากให้ประชาชนที่ทราบข่าวแล้ว พบว่า ตนเคยถูกกลุ่มคนร้ายกลุ่มนี้เข้าไปลักทรัพย์ในบ้านเรือนสามารถเดินทางมาชี้ตัวและตรวจสอบทรัพย์สินได้ที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ เพื่อจะได้ดำเนินคดีกับกุมผู้ต้องหาเพิ่มเติมต่อไป