ยะลา - สังคมโซเชียลวิจารณ์หนัก หลัง ตชด.44 ชุดเฝ้าป่าพระนามาภิไธย และ จนท.อุทยานแห่งชาติบางลาง เข้าช่วยเหลือวัวกระทิงแก่ “แม่มะลิ” ที่ติดหล่มโคลนหลายวันจนร่างกายซูบผอม สุดท้ายไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้ หลังสิ้นลม จนท.อุทยานขอตัดหัวแม่วัวกระทิง อ้างคำสั่ง ผอ.อุทยานฯ
วันนี้ (30 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดกรณีวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติบางลาง อ.บันนังสตา จ.ยะลา หลังจากที่มีเหตุการณ์ตัดหัววัวกระทิงแก่ หลังเข้าช่วยเหลือยื้อชีวิตไม่สำเร็จ จากเหตุการณ์วัวกระทิงติดหล่มโคลนในต้นน้ำเขื่อนบางลาง จนวัวกระทิงแก่ที่เจ้าหน้าที่ตั้งชื่อให้ว่า “แม่มะลิ” ได้เสียชีวิตลงอย่างสงบ
ซึ่งเรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่โดยเฟซบุ๊ก ที่ใช้ชื่อว่า “ฮาลา บาลา” โดยได้โพสต์เรื่องราวการเข้าช่วยเหลือชีวิตวัวกระทิงแก่ที่ติดหล่มโคลน บริเวณต้นน้ำเขื่อนบางลาง ในเขตป่าฮาลาบาลา พื้นที่ ต.แม่หวาด อ.ธารโต จ.ยะลา โดยเฟซบุ๊ก “ฮาลา บาลา” ได้โพสต์เล่าเรื่องราวดังกล่าวเป็น 3 ช่วง คือ ช่วงแรกเมื่อค่ำวันที่ 28 ก.ค.60 เจ้าหน้าที่ ตชด.44 ชุดเฝ้าป่าพระนามาภิไธย ได้ไปพบวัวกระทิงแก่ เพศเมีย อายุมาก ลงไปกินน้ำ และร่างกายติดหล่มโคลนไม่สามารถขึ้นมาได้ คาดว่าติดมาหลายวันแล้ว และทางเจ้าหน้าที่จะเข้าช่วยเหลือในช่วงเช้าของอีกวัน เนื่องจากช่วงเวลาที่พบนั้นใกล้ค่ำแล้ว มีความยากลำบากในการให้ความช่วยเหลือ
จนรุ่งเช้าวันที่ 29 ก.ค.60 เจ้าหน้าที่ได้มีการเข้าช่วยเหลือวัวกระทิงแก่ที่ชื่อว่า “แม่มะลิ” ซึ่งมีการเขียนข้อความอธิบายว่า “เช้านี้ เราได้เข้าช่วยเหลือกระทิงชรา เพศเมีย ที่ติดหล่มโคลน อยู่บริเวณพิกัดคลองฮาลา ตรงข้ามวังปลาช่อน และตอนนี้ได้ทำการช่วยเหลือจนนำกระทิงขึ้นมาจากหล่มโคลนได้ ขณะนี้กระทิงมีอาการเพลีย อ่อนล้า รอรับการช่วยเหลือปฐมพยาบาลในเบื้องต้น และได้ทำการแจ้งเจ้าหน้าที่ส่วนที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือชีวิตโดยด่วน กระทิงกำลังรอหมออยู่น่ะครับ...ขอขอบคุณ ทีม ชปพ.ตชด.445 จนท.อุทยานแห่งชาติ บางลาง (วังไทร) ทีมหลวงบัว วังไทร อส.ชุดคุ้มครองตำบลแม่หวาด ชาวบ้านบ้านตาพะเยา”
ซึ่งใต้ข้อความของโพสต์ก็มีภาพขณะเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือ “แม่มะลิ” วัวกระทิงแก่ที่ตัวติดอยู่ในหล่มโคลนลึกจนไม่สามารถที่จะช่วยตัวเองได้ และสภาพของร่างกายก็ซูบผอม คาดว่าติดหล่มโคลนมาแล้วมากกว่า 5-6 วัน ทำให้ไม่ได้กินอาหาร จนเจ้าหน้าที่มาพบ และพยายามเข้าช่วยเหลือ
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 44 ชุดเฝ้าป่าพระนามาภิไธย ได้ประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และขอกำลังเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติบางลาง เจ้าหน้าที่ อส.ชุดคุ้มครองตำบลแม่หวาด อ.ธารโต และชาวบ้านในพื้นที่บ้านตาพะเยา เข้ามาช่วยเหลือแม่มะลิให้หลุดพ้นจากหล่มโคลน ซึ่งใช้เวลานานหลายชั่วโมงในการนำเอาร่างของแม่มะลิ ที่มีขนาดใหญ่ น้ำหนักน่าจะมากกว่า 500 กิโลกรัม ขึ้นมาจากหล่มโคลนที่ติดอยู่
ซึ่งจะเห็นในภาพว่า ทางเจ้าหน้าที่ต่างทุ่มเทสละแรงกาย และใช้วิธีขั้นตอนในการช่วยเหลือ จนสามารถนำเอา “แม่มะลิ” ขึ้นมาจากหล่มโคลนได้ แต่ด้วยสภาพที่ขาดอาหารมาหลายวันทำให้แม่มะลิ ไม่มีเรี่ยวแรง ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ปฐมพยาบาลเบื้องต้น เพื่อรอเวลาให้ แม่มะลิ มีเรี่ยวแรงกลับมา
จนถึงกระทั่ง “แม่มะลิ” ก็ได้สิ้นใจตาย หลังจากที่เจ้าหน้าที่ต่างระดมกำลังนำร่างขึ้นมาจากหล่มโคลนได้ไม่นาน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่มีความเห็นว่า จะทำการขุดหลุมฝังร่างแม่มะลิ ไว้บริเวณดังกล่าว แต่ก็เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้น เมื่อทางเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติบางลาง ได้ขอตัดเอาหัว หรือศีรษะของแม่มะลิ ไป ท่ามกลางคำคัดค้านของเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน ซึ่งเห็นว่าไม่เหมาะสม แต่ทางเจ้าหน้าที่อุทยานกลับบอกว่า เป็นคำสั่งของ ผอ.อุทยาน จึงได้ทำการตัดเอาหัวของแม่มะลิ กลับไปก่อนที่จะทำการฝังร่างของแม่มะลิ
ซึ่งในโพสต์ดังกล่าวมีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสม และไม่เห็นด้วยต่อการกระทำของเจ้าหน้าที่อุทยาน ซึ่งมีหน้าที่ในการดูแลอนุรักษ์ โดยมีการโพสต์ข้อความว่า “เป็นคำสั่งของ ผอ.” แม้ว่าทางเจ้าหน้าที่ ตชด.จะร้องขอไม่ให้กระทำก็ไม่เป็นผล จนเกิดการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนักบนโพสต์ดังกล่าว