ตรัง - ผู้กำกับ สภ.เขาวิเศษ จ.ตรัง มั่นใจหลักฐานมัดแน่น ผอ.ร.ร.บ้านหนองคล้า ฆ่าโหดสาววัย 31 หมกห้องน้ำโรงเรียน เชื่อไม่มีมวยล้ม ช้างตายทั้งตัว จะเอาใบบัวปิดคงไม่มิด ด้านรักษาการเขต สพป.เขต 2 ระบุตนทราบเรื่องจากสื่อ ยังไม่เคยได้รับรายงานเหตุรุนแรงในโรงเรียนแม้แต่ครั้งเดียว
วันนี้ (28 ก.ค.) พ.ต.อ.ถนอม อ่วมพรหม ผกก.สภ.เขาวิเศษ จ.ตรัง กล่าวว่า ขณะนี้ นายวินิจ อัครสุวรรณกุล ผอ.โรงเรียนบ้านหนองคล้า ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาฆ่า น.ส.ลัดดา จินดาแก้ว อายุ 31 ปี คู่ขา ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาโดยไตร่ตรองไว้ก่อน โดยเจ้าหน้าที่จะต้องเร่งสืบสวนสอบสวนส่งฟ้องให้เสร็จภายใน 84 วัน หรือประมาณ 3 เดือนหลังจากนี้ แม้ว่าผู้ต้องหาจะได้รับการประกันตัวในชั้นศาล ก็เป็นสิทธิของผู้ต้องหา และหาพบว่ามีพฤติกรรมข่มขู่พยาน หรือทำลายหลักฐาน และมีผู้ร้องต่อศาล ก็มีสิทธิยกเลิกการประกันตัวได้ตลอดเวลา
ส่วนกรณีที่ผู้ต้องหาทราบ และชิงมอบตัวก่อนจะมีการออกหมายจับนั้น ตนเองเชื่อว่าอาจเป็นเพราะ ผอ.วินิจ เป็นผู้กว้างขวางในพื้นที่ พรรคพวกย่อมมีการแจ้งข่าวอยู่บ้าง เพราะการลงสืบสวนหาข้อมูลหลังจากเกิดเหตุก็มีร่วมกันหลายฝ่าย ทั้งตำรวจ ฝ่ายปกครอง ผู้นำท้องถิ่นบูรณาการร่วมกัน เพราะทุกฝ่ายก็มีหน้าที่ดูแลพื้นที่ด้วยกัน อีกทั้งตนเองเชื่อว่า คนเรารู้ตัวว่าทำอะไรลงไป เปรียบเหมือน “ช้างตายทั้งตัว เอาใบบัวปิดคงไม่มิด” เมื่อเห็นท่าไม่ดีก็ชิงมอบตัวก่อน ผู้ต้องหาก็เป็นผู้มีความรู้ เป็นคนเก่ง ก็ย่อมรู้ขั้นตอนต่างๆ อยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้มีผลกระทบใดๆ ต่อรูปคดี ตำรวจก็ทำไปตามกฎหมาย ตามพยานหลักฐานที่รวบรวมได้ และพนักงานสอบสวนมั่นใจว่า คดีนี้ไม่มีการจับผิดตัว และยืนยันว่าไม่มีมวยล้มแน่นอน
ผกก.สภ.เขาวิเศษ กล่าวว่า ตอนนี้กำลังรอผลตรวจดีเอ็นเอ ซึ่งก่อนหน้านี้ มีการนำตัวผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์วันเกิดเหตุประมาณ 6-7 คน ส่งตรวจที่สถาบันนิติเวทย์ ม.อ.หาดใหญ่ คาดว่าจะได้ทราบผลในเร็วๆ นี้ และหากตรงกับผลการผ่าพิสูจน์ศพผู้ตายก็จะสามารถมัดตัวผู้ต้องหาได้ 100 เปอร์เซ็นต์ อย่างไรก็ตาม จากพยานหลักฐานที่มีอยู่ และมูลเหตุจูงใจให้ผู้ต้องหาก่อเหตุฆ่าผู้ตายที่มีอยู่ขณะนี้ก็ถือว่าชัดเจนมาก โดยสาเหตุมาจากเรื่องโกรธเคืองขัดแย้งส่วนตัวระหว่างผู้ต้องหา และผู้ตาย และยังไม่มีผู้ต้องสงสัยรายอื่นเพิ่ม
นายจรินทร์ รักษ์นุ้ย รอง ผอ.เขตพื้นที่การศึกษาตรัง เขต 2 รักษาการในตำแหน่ง ผอ.เขตพื้นที่การศึกษาตรัง เขต 2 กล่าวว่า จากเหตุการณ์ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายในโรงเรียนบ้านหนองคล้า จากผู้บริหารแต่อย่างใด ตนเองทราบข่าวจากสื่อเท่านั้น โดยหลังจากทราบเรื่องตนก็ได้รายงานเรื่องทั้งหมดไปยังรักษาการศึกษาธิการจังหวัด และผู้ว่าฯ จ.ตรัง ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรง
จากนั้นก็ได้มีการตั้งคณะกรรมการ จำนวน 3 คน ซึ่งเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ สอบสวนข้อเท็จจริง และหากพบว่ามีมูลก็จะมีการสอบสวนวินัยร้ายแรงอีกครั้ง ทั้งนี้ ตนเองยังรู้สึกแปลกใจว่าเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงขนาดนี้ ผู้บริหารโรงเรียนยังไม่มีการรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า ลูกจ้าง และเวรยาม พร้อมผู้บริหารน่าจะมีส่วนรู้เห็นต่อเหตุการณ์ดังกล่าวหรือไม่ ทำให้ไม่กล้ารายงานเรื่องที่เกิดขึ้น