กระบี่ - คุมเข้มหวั่นถูกเก็บ! ส่งตัวบังฟัต ฆาตกรโหด พร้อมสมุนฆ่า 8 ศพ ฝากขัง ตร.ส่งกำลังพร้อมหน่วยสวาทคุ้มกันถึง 500 นาย หลังมีกระแสญาติคนตายสั่งเก็บขณะรับตัวออกจากค่ายทหาร
เมื่อเวลา 08.30 น. วันนี้ (21 ก.ค.) ที่กองกำกับภูธรจังหวัดกระบี่ ได้มีการเตรียมความพร้อม เพื่อที่จะพิมพ์ลายนิ้วมือของผู้ต้องหาทั้ง 8 คน รวมทั้งนายซูริก์ฟัต บ้านนบวงศ์สกุล อายุ 41 ปี หรือบังฟัต ซึ่งจะใช้ห้องประชุมพิทักษ์กระบี่ เป็นสถานที่รับตัว และฝากขัง โดยมีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลอย่างเข้มงวด หลังมีกระแสข่าวว่า อาจจะมีกลุ่มบุคคลตามมาเก็บผู้ต้องหาในช่วงที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวมาฝากขัง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงระดมกำลังชุดปราบจลาจล จากจังหวัดพังงา กระบี่ และหน่วยสวา จากกองบังคับการตำรวจภูธรภาค 8 เข้ามารักษาความปลอดภัยผู้ต้องหาทั้ง 8 คน ที่จะรับมอบจากทางเจ้าหน้าที่ทหารในวันนี้ ถึง 500 นาย
นอกจากนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำหลักฐานรถที่คนร้ายใช้เป็นยานพาหนะในการก่อเหตุครั้งนี้ จำนวน 5 คัน มาจอดไว้ที่หน้า สภ.เมืองกระบี่ ประกอบด้วย รถโตโยต้า ทะเบียน บน 3960 กระบี่ กระบะอีซูซุ ดีแมคซ์ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน ผค 9282 นครศรีธรรมราช โตโยต้า รุ่นยาริส สีขาว ทะเบียน บธ 3055 สงขลา โตโยต้า ฟอจูนเนอร์ สีดำ ทะเบียน ณข 501 กระบี่ และโตโยต้าวีโก้ สีดำ ทะเบียน กย 6528 ภูเก็ต โดยรถทั้งหมดทาง พล.ต.อ.สมเกียติ ศรีวรขาน รอง ผบ ตร. ติดตามมาได้จากใน จ.กระบี่ จ.พังงา จ.ภูเก็ต และ จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 20 ก.ค.60
ขณะที่เมื่อวานนี้ ที่ห้องประชุมพิทักษ์กระบี่ หน้า ภ.จว.กระบี่ ซึ่งเป็นสถานที่จัดรับตัวผู้ต้องหาคดียิง 8 ศพ ทาง พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ ที่ปรึกษา สบ 10 ได้มาตรวจความเรียบร้อยภายในอาคาร โดยได้ให้สื่อมวลชนเข้าไปภายใน แต่ได้ห้ามบันทึกภาพ และเสียง ให้เก็บอุปกรณ์ไว้ด้านนอก พร้อมกับเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟัง
โดย พล.ต.อ.สุชาติ ได้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า นายซูริก์ฟัต หรือบังฟัต นั้น มีเพื่อนชายคนสนิทเป็นนายทุนชื่อ อาเจ๊ะ ให้เงินมาปล่อยกู้อีกทอดหนึ่ง แต่ระยะหลังมีปัญหาไม่สามารถเก็บดอกเบี้ย และต้นจากชาวบ้านได้ เพราะมีปัญหากับ นายวรยุทธ หรือผู้ใหญ่บัต แต่ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องต่อเหตุการณ์ว่า อาเจ๊ะ เป็นคนสั่งฆ่าหรือไม่ เพราะผู้ใหญ่บัต กับบังฟัต มีการขู่ฆ่ากันไปมาเรื่องปมที่ดินที่ยืดเยื้อกันมานาน
นอกจากนั้น บังฟัต ยังปล่อยเงินกู้ในพื้นที่ตำบลบ้านกลาง และตำบลใกล้เคียง กว่า 50 ราย หรือมากกว่านั้น ซึ่งอยู่ระหว่างตรวจสอบ ทางผู้ใหญ่บัต ได้ขู่ไว้จึงไม่กล้าที่เข้าพื้นที่ ส่วนเหตุการณ์ คืนเกิดเหตุ กลุ่มผู้ต้องหากำลังจะกลับอยู่แล้ว บังฟัตได้พูดออกมาทำให้ทางผู้ใหญ่บัต จำเสียงได้ว่า คือ บังฟัต จึงเกิดการต่อสู้กันขึ้น และนำมาสู่การสังหารหมู่ ส่วนกรณีอดีตตำรวจคนหนึ่งที่ออกมาให้ข่าวว่ามีผู้อื่นอยู่เบื้องหลังอีกนั้นก็จะเรียกมาสอบปากคำอีกครั้งหนึ่ง
ทั้งนี้ ที่ปรึกษา สบ 10 ยังกล่าวอีกว่า มีรายงานข่าวแจ้งมาขณะนี้ว่า มีญาติของ ผู้ใหญ่บัต คนหนึ่งกำลังวางแผนที่จะสังหารบังฟัต เพื่อล้างแค้นให้ในระหว่างรับมอบตัว หรือเส้นทางหรือภายในจุดรับตัวจากทหาร จึงจำเป็นที่ต้องเพิ่มความเข้มงวดในการรับตัวกลุ่มผู้ต้องหา จะทำการตรวจสอบผู้ที่เข้ามาภายในบริเวณสถานที่ ทั้งผู้สื่อข่าว และคนอื่นๆ ก็ตาม และจะจัดกำลังตำรวจมาเสริมอีกจำนวนหนึ่ง
เมื่อเวลา 08.30 น. วันนี้ (21 ก.ค.) ที่กองกำกับภูธรจังหวัดกระบี่ ได้มีการเตรียมความพร้อม เพื่อที่จะพิมพ์ลายนิ้วมือของผู้ต้องหาทั้ง 8 คน รวมทั้งนายซูริก์ฟัต บ้านนบวงศ์สกุล อายุ 41 ปี หรือบังฟัต ซึ่งจะใช้ห้องประชุมพิทักษ์กระบี่ เป็นสถานที่รับตัว และฝากขัง โดยมีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลอย่างเข้มงวด หลังมีกระแสข่าวว่า อาจจะมีกลุ่มบุคคลตามมาเก็บผู้ต้องหาในช่วงที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวมาฝากขัง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงระดมกำลังชุดปราบจลาจล จากจังหวัดพังงา กระบี่ และหน่วยสวา จากกองบังคับการตำรวจภูธรภาค 8 เข้ามารักษาความปลอดภัยผู้ต้องหาทั้ง 8 คน ที่จะรับมอบจากทางเจ้าหน้าที่ทหารในวันนี้ ถึง 500 นาย
นอกจากนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำหลักฐานรถที่คนร้ายใช้เป็นยานพาหนะในการก่อเหตุครั้งนี้ จำนวน 5 คัน มาจอดไว้ที่หน้า สภ.เมืองกระบี่ ประกอบด้วย รถโตโยต้า ทะเบียน บน 3960 กระบี่ กระบะอีซูซุ ดีแมคซ์ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน ผค 9282 นครศรีธรรมราช โตโยต้า รุ่นยาริส สีขาว ทะเบียน บธ 3055 สงขลา โตโยต้า ฟอจูนเนอร์ สีดำ ทะเบียน ณข 501 กระบี่ และโตโยต้าวีโก้ สีดำ ทะเบียน กย 6528 ภูเก็ต โดยรถทั้งหมดทาง พล.ต.อ.สมเกียติ ศรีวรขาน รอง ผบ ตร. ติดตามมาได้จากใน จ.กระบี่ จ.พังงา จ.ภูเก็ต และ จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 20 ก.ค.60
ขณะที่เมื่อวานนี้ ที่ห้องประชุมพิทักษ์กระบี่ หน้า ภ.จว.กระบี่ ซึ่งเป็นสถานที่จัดรับตัวผู้ต้องหาคดียิง 8 ศพ ทาง พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ ที่ปรึกษา สบ 10 ได้มาตรวจความเรียบร้อยภายในอาคาร โดยได้ให้สื่อมวลชนเข้าไปภายใน แต่ได้ห้ามบันทึกภาพ และเสียง ให้เก็บอุปกรณ์ไว้ด้านนอก พร้อมกับเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟัง
โดย พล.ต.อ.สุชาติ ได้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า นายซูริก์ฟัต หรือบังฟัต นั้น มีเพื่อนชายคนสนิทเป็นนายทุนชื่อ อาเจ๊ะ ให้เงินมาปล่อยกู้อีกทอดหนึ่ง แต่ระยะหลังมีปัญหาไม่สามารถเก็บดอกเบี้ย และต้นจากชาวบ้านได้ เพราะมีปัญหากับ นายวรยุทธ หรือผู้ใหญ่บัต แต่ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องต่อเหตุการณ์ว่า อาเจ๊ะ เป็นคนสั่งฆ่าหรือไม่ เพราะผู้ใหญ่บัต กับบังฟัต มีการขู่ฆ่ากันไปมาเรื่องปมที่ดินที่ยืดเยื้อกันมานาน
นอกจากนั้น บังฟัต ยังปล่อยเงินกู้ในพื้นที่ตำบลบ้านกลาง และตำบลใกล้เคียง กว่า 50 ราย หรือมากกว่านั้น ซึ่งอยู่ระหว่างตรวจสอบ ทางผู้ใหญ่บัต ได้ขู่ไว้จึงไม่กล้าที่เข้าพื้นที่ ส่วนเหตุการณ์ คืนเกิดเหตุ กลุ่มผู้ต้องหากำลังจะกลับอยู่แล้ว บังฟัตได้พูดออกมาทำให้ทางผู้ใหญ่บัต จำเสียงได้ว่า คือ บังฟัต จึงเกิดการต่อสู้กันขึ้น และนำมาสู่การสังหารหมู่ ส่วนกรณีอดีตตำรวจคนหนึ่งที่ออกมาให้ข่าวว่ามีผู้อื่นอยู่เบื้องหลังอีกนั้นก็จะเรียกมาสอบปากคำอีกครั้งหนึ่ง
ทั้งนี้ ที่ปรึกษา สบ 10 ยังกล่าวอีกว่า มีรายงานข่าวแจ้งมาขณะนี้ว่า มีญาติของ ผู้ใหญ่บัต คนหนึ่งกำลังวางแผนที่จะสังหารบังฟัต เพื่อล้างแค้นให้ในระหว่างรับมอบตัว หรือเส้นทางหรือภายในจุดรับตัวจากทหาร จึงจำเป็นที่ต้องเพิ่มความเข้มงวดในการรับตัวกลุ่มผู้ต้องหา จะทำการตรวจสอบผู้ที่เข้ามาภายในบริเวณสถานที่ ทั้งผู้สื่อข่าว และคนอื่นๆ ก็ตาม และจะจัดกำลังตำรวจมาเสริมอีกจำนวนหนึ่ง