ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - แม่วัย 35 ปี ร่วมกับลูกพี่ลูกน้องก่อเหตุชิงทรัพย์หญิงสูงอายุวัย 65 ปี ในโรงเรียนกวดวิชากลางเมืองหาดใหญ่ แต่ถูกชาวบ้านช่วยกันจับกุมตัวเอาไว้ได้ สารภาพตกงาน ต้องการหาเงินเลี้ยงลูก 4 คน หลังเลิกรากับสามี
วันนี้ (8 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาได้เกิดเหตุคนร้ายเข้าไปชิงทรัพย์ภายในโรงเรียนกวดวิชาชื่อ “บ้านโทนติวเตอร์” ตั้งอยู่เลขที่ 127/108 ซอย 6 ถนนเพชรเกษม เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ แต่ปรากฏว่า คนร้ายหนีไปไม่รอด ถูกเจ้าของโรงเรียน คือ นางสุดา หาญพิภัฒน์ อายุ 65 ปี วิ่งไล่ตาม และตะโกนขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านในละแวกเกิดเหตุ จนสามารถจับกุมเอาไว้ได้ ทราบชื่อคือ น.ส.อริณ เย็นใจ อายุ 35 ปี พร้อมของกลางเงินสด จำนวน 10,064 บาท เงินเหรียญริงกิตมาเลเซีย 2 ถุง จำนวน 620 ริงกิต และยังจับกุม นายสายแวว คัสจันทร์ อายุ 20 ปี ที่จอดรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สีแดงดำ ทะเบียน 1กช 6304 สงขลา ซึ่งจอดรออยู่ถัดไปอีกซอย โดยทั้ง 2 คน เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน
หลังจากตำรวจสายตรวจฝ่ายป้องกันปราบปราม สภ.หาดใหญ่ ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ และสอบถาม นางสุดา ผู้เสียหายให้การว่า ช่วงเกิดเหตุกำลังนั่งอยู่ในโรงเรียนกวดวิชา และมี น.ส.อริณ ซึ่งทำทีเข้ามาสอบถามรายละเอียดเรื่องกวดวิชา อ้างว่า ต้องการส่งลูกมาเรียนที่นี่ จึงได้อธิบายไป แต่ปรากฏว่า น.ส.อริณ กลับฉวยกระเป๋าที่วางไว้บนโต๊ะวิ่งหนีออกไปอย่างรวดเร็ว ตนจึงวิ่งตามพร้อมกับตะโกนขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านให้ช่วยกันจับ สุดท้ายไปไม่รอด ถูกชาวบ้านช่วยกันไล่ติดตามจับกุมไว้ได้ พร้อมกับ นายสายแวว ที่จอดรถจักรยานยนต์รออยู่ภายในซอย 3 คลองเตย ซึ่งเป็นซอยถัดไป
หลังจากตำรวจควบคุมตัวทั้ง 2 คน มาสอบสวน น.ส.อริณ ให้การว่า ต้องการหาเงินไปซื้อนม และเลี้ยงดูลูก 4 คน เนื่องจากตกงาน โดยลูกคนโตอายุ 15 ปี คนกลาง 5 ปี และคนสุดท้องฝาแฝดอายุ 3 ปี ส่วนสามีเลิกราไปนานแล้ว และต้องเลี้ยงดูลูกเพียงคนเดียว ส่วนนายสายแวว ปฏิเสธ บอกว่า แค่ขี่รถพากันมาทำธุระอีกซอย แต่ไม่รู้ว่า น.ส.อริณ เดินไปก่อเหตุลักทรัพย์ แต่ตำรวจไม่เชื่อ เพราะจากพฤติกรรมได้ซุกซ่อนป้ายทะเบียนรถไว้ใต้เบาะ และยังพบประวัติเคยต้องคดียาเสพติด เบื้องต้น จึงแจ้งข้อหาชิงทรัพย์ทั้ง 2 คน