ปัตตานี - แม่ทัพภาคที่ 4 ชี้แจงกรณีการโพสต์เฟซบุ๊ก ตั้งค่าหัว 1 ล้าน ชี้การกระทำดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความพ่ายแพ้ของกลุ่มขบวนการที่มีต่ออำนาจรัฐ ระบุพร้อมเดินหน้าแก้ปัญหาในทุกด้านเพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชน
วันนี้ (6 ก.ค.) ที่ห้องรับรอง มณฑลทหารบกที่ 42 พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 ได้ชี้แจงสื่อมวลชนต่อกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อว่า Suding Su Pattany ทำการโพสต์ภาพของตนเองลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวดังกล่าว โดยภายในภาพที่โพสต์นั้นมีการเขียนข้อความ ซึ่งมีใจความว่า “ประกาศตัดหัวให้ 1,000,000” ซึ่งเชื่อว่าได้ถูกโพสต์ไว้เมื่อกลางดึกของวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา ตามที่เป็นข่าวนั้น
แม่ทัพภาคที่ 4 ชี้แจงว่า สำหรับเรื่องที่มีการตั้งค่าหัวของตนเองนั้น ซึ่งจะมีการเขียนเล่น หรือจริงก็ไม่ทราบ ที่เขียนมาอย่างนี้ก็ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา ถ้าคิดอีกมุมหนึ่งก็คือ คนโง่อยู่ที่ปาก คนฉลาดอยู่ที่ใจ เขียนมาหนึ่งล้านบาท แสดงว่ามีค่ามากสำหรับเขาก็แสดงให้เห็นว่าพวกขบวนการนี้ขาดการสนับสนุนแล้วทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ถือว่าแนวทางที่ตนเองได้ดำเนินการมาถูกทาง ทั้งด้านยุทธศาสตร์ ยุทธการ และทางยุทธวิธี รวมถึงนโยบายด้านเศรษฐกิจ กลุ่มขบวนการถึงได้ออกมาว่าให้ค่าหัวหนึ่งล้านบาท
สำหรับการดำเนินนโยบายการแก้ปัญหานั้น ได้ใช้ยุทธศาสตร์พระราชทาน เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา ซึ่งปัจจุบันนี้อยู่ในขั้นพัฒนา โดยนำไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยังยืน ตามนโยบายรัฐบาล จะเห็นได้ว่าขณะนี้ประชาชนส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือต่อภาครัฐในการแก่ปัญหา อีกทั้งมวลชนผู้เห็นต่างก็กลับมาร่วมโครงการพาคนกลับบ้านเพื่อเข้าร่วมพัฒนาพื้นที่
ส่วนผู้ที่ยังคงสร้างสถานการณ์ และความรุนแรงอยู่ เขายังคงต้องอยู่แบบหลบๆ ซ่อนๆ มีปมด้อยแอบอยู่บนเขา แอบอยู่ตามที่ต่างๆ ไม่มีงานทำ ไม่รู้เรื่องการศึกษา ไม่มีอาชีพก็เลยไม่รู้จะทำอะไร เลยใช้ความรุนแรง และเห็นว่าเงินหนึ่งล้านบาทมีค่ามาก และนั่นก็เป็นสิ่งที่ทำให้เราได้รู้ว่าขบวนการของเขานั้นขาดการสนับสนุน ขาดงบประมาณ แม้กระทั่งการสนับสนุนทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ก็ไม่มีใครสนับสนุนแล้ว ภัยแทรกซ้อนก็หมด
อันนี้ค่าตัว 1 ล้านบาทมันน้อยไปนะ แค่ค่านกกรงหัวจุก หรือค่านกกระเขาก็สูงถึง 2 ล้านบาท หรือมากกว่าค่าตัวผมอีก เพราะฉะนั้นอย่ามาทำอะไรผมเลย ไปขโมยนกกรงหัวจุกยังดีกว่า ง่ายกว่า ตนเองไม่ได้ใส่ใจเรื่องดังกล่าว เขาหมดหนทางสู้แล้ว ทั้งด้านมวลชน ทางเลือกต่างๆ แนวร่วมได้ในการลงมาช่วย ทำให้เกิดความมั่นคง มั่งคั่ง และยังยืน เขาเห็นแล้วว่าเขาสามารถหาเงิน 1,000,000 ให้ตัวเองมีกินมีใช้ได้
ส่วนเรื่องการแบ่งแยกดินแดน ผมพูดได้เลยว่า มันเป็นไปไม่ได้ คุณจะมาแบ่งแยกดินแดนสักตารางเมตรเดียว หรือตารางนิ้วเดียวก็ไม่ได้ แผ่นดินไทยไม่ได้เป็นของคุณเพียงคนเดียว แต่เป็นของคนไทยทุกคน แต่ถ้าหากคุณมาทำมาหากินตามที่ให้มาก็สามารถทำได้เลย
ที่ผ่านมา รัฐบาล และหน่วยงานด้านความมั่นคงได้ดำเนินงานแก้ไขปัญหา และพัฒนาพื้นที่มาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีโครงการพระราชดำริ ที่คอยรองรับการสร้างงาน สร้างอาชีพแก่คนในพื้นที่ ซึ่งเป็นโครงการของพระองค์ท่านที่มีวัตถุประสงค์โดยตรงไปที่ประชาชน เพื่อให้ประชาชนมีอาชีพ มีรายได้ และมีงานทำ เพราะฉะนั้นโครงการพระราชดำรินี้จึงเป็นที่รองรับของชาวบ้านอยู่แล้ว จึงทำให้ขบวนการมีความระส่ำระสาย ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเราได้เดินทางมาถูกทางแล้ว