ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เจ้าของบ้านในโครงการหมู่บ้านหรู พื้นที่ เกาะแก้ว จ.ภูเก็ต กลับจากทานอาหารนอกบ้าน แทบลมใส่ หลังพบคนร้ายย่องเข้ามายกตู้เซฟ ภายในมีทองคำน้ำหนักประมาณ 20 บาทหายจ้อย จนท.เร่งติดตามจับกุม
เมื่อเวลา เวลา 23.00 น. วันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์วิทยุ สภ.เมืองภูเก็ต ได้รับแจ้งว่า มีคนร้ายเข้าไปลักทรัพย์ ภายในบ้านเลขที่ 123/21 ต.เกาะแก้ว อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งอยู่ในโครงการหมู่บ้านชื่อดัง โดยทรัพย์สินที่คนร้ายได้ไป คือ ตู้เซฟ 1 ตู้ ขนาดเล็กภายในมีทองรูปพรรณ น้ำหนักรวม 20 บาท บัตรเครดิต ขอให้เจ้าหน้าที่เดินทางไปตรวจสอบด้วย
หลังจากรับแจ้ง พ.ต.ท.นิกร ชูทอง รองผกก.สภ.ท่าฉัตรไชย รักษาการแทน รอง ผกก.ป.สภ.เมืองภูเก็ต ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ นำโดย พ.ต.ท.พงศ์พิชาญ ชยานนท์พิริย สวป.สภ.เมืองภูเก็ต พนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดภูเก็ต รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุเป็นโครงการบ้านจัดสรรชื่อดัง มี รปภ.อยู่ทางเข้าหมู่บ้าน ตรวจสอบที่บ้านหลังเกิดเหตุ พบ น.ส.สุจิตรา ซูปู เจ้าของบ้าน และ สามียืนอยู่ในอาการตื่นตกใจ ประตูหลังบ้านเปิดอยู่ จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปตรวจสอบบริเวณชั้น 2 ซึ่ง เป็นห้องนอนของผู้เสียหายภายในห้องไม่มีร่องรอยการรื้อค้นทรัพย์สินแต่อย่างใด แต่ตู้เซฟที่วางไว้ในห้องหายไปทางเจ้าหน้าที่จึงเก็บลายนิ้วมือแฝงเพื่อตรวจสอบ หาตัวคนร้าย
จากการสอบถามเจ้าของบ้าน ทราบว่า อาศัยอยู่กับสามีชาวต่างชาติเพียง 2 คน ซึ่งเพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าวประมาณ 1 สัปดาห์ โดยมีแม่บ้านมาทำความสะอาด อาทิตย์ละ 3 วัน คือ วันจันทร์ วันพุธ วันศุกร์ ล่าสุดแม่บ้านเพิ่งมาทำความสะอาดไปเมื่อวันศุกร์ 30 มิ.ย.60 ที่ผ่านมา ซึ่งในช่วงดังกล่าวโดยตู้เซฟยังวางอยู่ปกติที่
ช่วงเย็นของวันที่ 1 ก.ค.60 ตน พร้อมสามีได้ออกไปรับประทานอาหาร ที่หาดสุรินทร์ อ.ถลาง กลับเข้าบ้านมาประมาณ 3 ทุ่มกว่า พบหลังบ้านเปิดอยู่ ตนกับสามีตกใจ แต่ตรวจสอบไม่พบมีร่องร่องการรื้อค้น จึงขึ้นไปดูในห้องชั้น 2 ถึงกับแทบเป็นลม พบว่าตู้เซฟที่วางไว้บนโต๊ะเครื่องแป้งหายไป ซึ่งภายในตู้เซฟมีทองคำรูปพรรณน้ำหนักประมาณ 20 บาท หลังจากนั้นก็ได้โทรศัพท์ไปหาแม่บ้านเพื่อสอบถาม แต่ทางแม่บ้านไม่รับโทรศัพท์ จึงได้แจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ และติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ได้เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในหมู่บ้านและบริเวณใกล้เคียง ในเบื้องต้นคาดว่าคนร้ายเป็นคนที่สามารถเข้าออกภายในหมู่บ้านได้โดยไม่มีใครสงสัย และสามารถเข้ามายังบ้านของผู้เสียหายได้โดยไม่ต้องงัดแงะประตู ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการติดตามตัวบุคคลต้องสงสัยมาสอบปากคำ และแร่งติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป
เมื่อเวลา เวลา 23.00 น. วันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์วิทยุ สภ.เมืองภูเก็ต ได้รับแจ้งว่า มีคนร้ายเข้าไปลักทรัพย์ ภายในบ้านเลขที่ 123/21 ต.เกาะแก้ว อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งอยู่ในโครงการหมู่บ้านชื่อดัง โดยทรัพย์สินที่คนร้ายได้ไป คือ ตู้เซฟ 1 ตู้ ขนาดเล็กภายในมีทองรูปพรรณ น้ำหนักรวม 20 บาท บัตรเครดิต ขอให้เจ้าหน้าที่เดินทางไปตรวจสอบด้วย
หลังจากรับแจ้ง พ.ต.ท.นิกร ชูทอง รองผกก.สภ.ท่าฉัตรไชย รักษาการแทน รอง ผกก.ป.สภ.เมืองภูเก็ต ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ นำโดย พ.ต.ท.พงศ์พิชาญ ชยานนท์พิริย สวป.สภ.เมืองภูเก็ต พนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดภูเก็ต รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุเป็นโครงการบ้านจัดสรรชื่อดัง มี รปภ.อยู่ทางเข้าหมู่บ้าน ตรวจสอบที่บ้านหลังเกิดเหตุ พบ น.ส.สุจิตรา ซูปู เจ้าของบ้าน และ สามียืนอยู่ในอาการตื่นตกใจ ประตูหลังบ้านเปิดอยู่ จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปตรวจสอบบริเวณชั้น 2 ซึ่ง เป็นห้องนอนของผู้เสียหายภายในห้องไม่มีร่องรอยการรื้อค้นทรัพย์สินแต่อย่างใด แต่ตู้เซฟที่วางไว้ในห้องหายไปทางเจ้าหน้าที่จึงเก็บลายนิ้วมือแฝงเพื่อตรวจสอบ หาตัวคนร้าย
จากการสอบถามเจ้าของบ้าน ทราบว่า อาศัยอยู่กับสามีชาวต่างชาติเพียง 2 คน ซึ่งเพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าวประมาณ 1 สัปดาห์ โดยมีแม่บ้านมาทำความสะอาด อาทิตย์ละ 3 วัน คือ วันจันทร์ วันพุธ วันศุกร์ ล่าสุดแม่บ้านเพิ่งมาทำความสะอาดไปเมื่อวันศุกร์ 30 มิ.ย.60 ที่ผ่านมา ซึ่งในช่วงดังกล่าวโดยตู้เซฟยังวางอยู่ปกติที่
ช่วงเย็นของวันที่ 1 ก.ค.60 ตน พร้อมสามีได้ออกไปรับประทานอาหาร ที่หาดสุรินทร์ อ.ถลาง กลับเข้าบ้านมาประมาณ 3 ทุ่มกว่า พบหลังบ้านเปิดอยู่ ตนกับสามีตกใจ แต่ตรวจสอบไม่พบมีร่องร่องการรื้อค้น จึงขึ้นไปดูในห้องชั้น 2 ถึงกับแทบเป็นลม พบว่าตู้เซฟที่วางไว้บนโต๊ะเครื่องแป้งหายไป ซึ่งภายในตู้เซฟมีทองคำรูปพรรณน้ำหนักประมาณ 20 บาท หลังจากนั้นก็ได้โทรศัพท์ไปหาแม่บ้านเพื่อสอบถาม แต่ทางแม่บ้านไม่รับโทรศัพท์ จึงได้แจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ และติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ได้เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในหมู่บ้านและบริเวณใกล้เคียง ในเบื้องต้นคาดว่าคนร้ายเป็นคนที่สามารถเข้าออกภายในหมู่บ้านได้โดยไม่มีใครสงสัย และสามารถเข้ามายังบ้านของผู้เสียหายได้โดยไม่ต้องงัดแงะประตู ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการติดตามตัวบุคคลต้องสงสัยมาสอบปากคำ และแร่งติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป