เปิดเซฟ “เจ๊หมิง” ไม่พบของมีค่า เชื่อย้ายทองหนัก 3,000 บาท ไปซ่อนที่อื่น

ตำรวจควานหาทองคำน้ำหนัก 3,000 บาท บุกธนาคารเปิดตู้เซฟ “เจ๊หมิง” ผู้ต้องหาคดีฟอกเงิน เชื่อมโยงเครือข่ายค้ายาเสพติด “ภูซะนะ” ไม่พบทรัพย์สินของมีค่า เชื่อโยกย้ายไปซ่อนไว้ที่อื่นก่อนหน้า

เมื่อวันที่ 18 พ.ค. 60 พล.ต.อ.ดร.สุวิระ ทรงเมตตา ที่ปรึกษา สบ 10 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นำกำลังพร้อมหมายศาล จ.นนทบุรี โดยให้ช่างเข้าเปิดตู้เซฟของ นางสิริการย์ กุลวัฒน์ หรือ เจ๊หมิง เจ้าของบริษัท พาวเวอร์ เอ็กเชนจ์ จำกัด เลขที่ 47, 47 1-2 ถนนราชดำริ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม. ผู้ต้องหาคดีฟอกเงิน ซึ่งเปิดธุรกิจรับแลกเปลี่ยนเงินตราบังหน้า มาที่ธนาคารกรุงเทพ สาขาถนนแจ้งวัฒนะ ซึ่งอยู่ที่อาคารจัสมิน ทาวเวอร์ ถนนแจ้งวัฒนะ ต.ปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เพื่อเปิดตู้เซฟของ นางสิริการย์ ที่มาเช่ากับทางธนาคาร จำนวน 2 ตู้ ตรวจค้นทรัพย์สิน และหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับคดียาเสพติดในคดีที่เกี่ยวข้องและเชื่อมโยงกับเครือข่ายนายภูซะนะ สิงห์นะวงศ์ ผู้ค้าชาวลาว และเป็นขบวนการต่างชาติ ซึ่งคาดว่า อาจมีทรัพย์สินของมีค่าซุกซ่อนไว้

โดยขณะที่เจ้าหน้าที่ทำการเปิดเซฟทางธนาคารไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปบันทึกภาพ ซึ่งเป็นข้อมูลความลับของทางธนาคาร จากการตรวจสอบภายในตู้เซฟทั้ง 2 ใบ ไม่พบทรัพย์สินของมีค่าของนางสิริการย์ แต่อย่างใด มีเพียงเอกสารต่างๆ บางส่วนเท่านั้น ทางเจ้าหน้าที่จึงยึดไว้ตรวจสอบ

ขณะเดียวกัน พล.ต.ท.ดร.สุวิระ กล่าวว่า ตามแนวทางการสืบสวนทราบว่า นายยศวัฒน์ หรือ เฮียนนท์ ชัยภัคสิริ ไปซื้อทองคำน้ำหนัก 3,000 บาท ซึ่งเคยฝากไว้ที่ร้านขายทองแห่งหนึ่งแล้วได้ไปนำเอาออกมา โดยทางเจ้าหน้าที่กำลังติดตามว่าทองคำจำนวนมากนี้ได้ไปเก็บซุกซ่อนที่ใด กระทั่งทราบว่า นายยศวัฒน์ ได้มาเช่าตู้เซฟที่ธนาคารกรุงเทพ สาขาถนนแจ้งวัฒนะ ร่วมกับ นางสิริการย์ โดยคาดว่า อาจถูกนำมาเก็บไว้ แต่ปรากฏว่าไม่พบทองคำจำนวนดังกล่าว มีเพียงเอกสารบางส่วนเท่านั้น ซึ่งก็เป็นเอกสารที่เป็นประโยชน์ต่อทางคดี และจากการตรวจสอบทราบว่า นายยศวัฒน์ และ นางสิริการย์ ได้เข้ามาเปิดตู้เซฟไปก่อนแล้ว เมื่อช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา อาจเป็นได้ว่าจะมีการโยกย้ายทรัพย์สินของมีค่านำไปไว้ที่อื่น ซึ่งทางเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเร่งสืบหาข้อมูลว่าทองคำหนัก 3,000 บาท ถูกนำไปไว้ที่ใดและใครเป็นผู้ครอบครอง