ยะลา - ทหารพรานนำกำลังปิดล้อมบ้านเป้าหมายใน ต.บือมัง อ.รามัน จ.ยะลา หลังแหล่งข่าวชี้เป้า พบผู้ต้องหาตามหมายจับคดีความมั่นคง 5 หมาย เข้ามาหลบซ่อนตัว ก่อนเปิดฉากปาระเบิด จนท.ยิงปะทะวิสามัญ “ลุกมาน มะดิง” เสียชีวิต 1 ศพ
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดยะลา ว่า วานนี้ (30 มิ.ย.) เวลาประมาณ 20.00 น. พ.อ.สิทธิศักดิ์ เจนบรรจง ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 41 ยะลา พร้อมด้วย พ.อ.ธนุตม์ พิศาลสิทธิวัฒน์ ผู้บังคับการหน่วยปฏิบัติการร่วมพิเศษ นำกำลังเจ้าหน้าที่ทหารพรานร่วมติดตามและจับกุมโดยการบังคับใช้กฎหมาย ในพื้นที่บ้านเป้าหมาย ต.บือมัง อ.รามัน จ.ยะลา หลังจากได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่า มีผู้ต้องหาตามหมายจับคดีความมั่นคงได้เข้ามาเคลื่อนไหว และหลบซ่อนตัวอยู่ภายในบ้านเลขที่ 163 ม.4 ต.บือมัง อ.รามัน จ.ยะลา
ซึ่งเจ้าหน้าที่ใช้เวลานานหลายชั่วโมงในการเจรจากับผู้ที่อาศัยอยู่ภายในบ้าน ให้ออกมามอบตัว แต่ถูกคนร้ายปาระเบิดชนิดขว้างใส่กลุ่มเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่จึงได้ตัดสินใจเข้าจู่โจม และสามารถวิสามัญคนร้ายเสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อคือ นายลุกมาน มะดิง อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 35/1 ม.3 ต.ท่าธง อ.รามัน จ.ยะลา และสามารถยึดอาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มม. ของคนร้ายเอาไว้ได้ จำนวน 1 กระบอก
จากการตรวจสอบประวัติหมายจับ พบเป็นบุคคลตามหมายจับ ป.วิอาญา จำนวน 5 หมาย ดังนี้ 1.หมายจับที่ 203/2559 ลงวันที่ 10 พ.ค.59 ข้อหาก่อการร้าย 2.หมายจับที่ 34/2557 ลงวันที่ 17 ธ.ค.57 ข้อหาร่วมกันมีวัตถุระเบิด 3.หมายจับที่ 36/2556 ลงวันที่ 10 ธ.ค.56 ข้อหาร่วมกับพวกก่อการร้าย 4.หมายจับที่ 439/2559 ลงวันที่ 29 ธ.ค.59 ข้อหาร่วมกันก่อการร้าย, ร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ร่วมกันทำให้ผู้อื่นเสียทรัพย์, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครอง, ร่วมกันมีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และ 5.หมายจับที่ 131/2559 ลงวันที่ 23 มี.ค.59 ข้อหาพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน
โดยในวันนี้ (1 ก.ค.) เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดพิสูจน์หลักฐานได้เข้าตรวจสอบ และเก็บรายละเอียดหลักฐานในที่เกิดเหตุ จากนั้น พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาค 4 ได้เดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุด้วยตนเอง เนื่องจากมีรายงานว่า หลังเจ้าหน้าที่เข้าปฏิบัติการปิดล้อมบ้านเป้าหมาย และเกิดการยิงปะทะกันนั้น ได้ทำให้บ้านที่เกิดเหตุได้รับความเสียหาย และเจ้าหน้าที่ก็ไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปบันทึกภาพในสถานที่เกิดเหตุ โดยอ้างว่าเป็นการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ และไม่อนุญาตให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปยังที่เกิดเหตุโดยเด็ดขาด