นราธิวาส - “พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ” ผบช.ศชต. พร้อมคณะ ลงติดตามความคืบหน้าเหตุโจรใต้บุกยิงเถ้าแก่รับซื้อเศษยางพาราดับที่ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส สั่งเร่งไล่ล่าติดตามตัวนำมาลงโทษให้ได้
วันนี้ (11 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ศชต. และ พล.ต.ต.คัชชา ธาตุศาสตร์ รอง ผบช.ศชต. ได้เดินทางมาติดตามความคืบหน้าเหตุ 6 คนร้าย ใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 บุกยิง นายปกรณ์ ลิปิการวงศ์ อายุ 66 ปี ซึ่งเป็นพ่อค้ารับซื้อเศษยางพาราเสียชีวิต ที่บ้านเลขที่ 104 ถนนรามโกมุท ม.3 ต.ยี่งอ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส และนายอุสมาน สะหะบูดิง อายุ 24 ปี เสียชีวิต ขณะนั่งรอซื้อรถจักรยานยนต์มือสอง โดยเหตุเกิดเมื่อช่วงเที่ยงของวันที่ 10 ก.พ.ที่ผ่านมา
โดยมี พ.ต.อ.ดุลยมาน แยนา ผกก.สภ.ยี่งอ คอยให้การต้อนรับ พร้อมได้นำ พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ศชต. และคณะ เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุที่บ้านของนายปกรณ์ และร้านจำหน่ายรถจักรยานยนต์มือสอง ที่บริเวณปากซอย พร้อมทั้งได้เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งกลุ่มคนร้าย จำนวน 6 คน ได้แยกกำลังออกเป็น 2 ชุด ชุดแรกมี จำนวน 4 คน ได้บุกใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 ยิงนายปกรณ์ เสียชีวิต พร้อมทั้งได้ลอบวางเพลิงรถโพล์คลิฟท์ ที่จอดอยู่ภายในร้านก่อนที่จะหลบหนี
ส่วนคนร้ายชุดที่ 2 จำนวน 2 คน ได้ทำหน้าที่คุมเชิงอยู่ที่ปากซอย ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 100 เมตร โดยใช้อาวุธปืนยิงใส่กลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ยี่งอ เพื่อไม่ให้เข้ามาทำการช่วยเหลือ นายปกรณ์ และจับกุมกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุ โดยที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ยี่งอ ไม่สามารถใช้อาวุธปืนยิงตอบโต้ใส่กลุ่มคนร้ายชุดที่ 2 ได้ เนื่องจากกลัวว่าชาวบ้านจะถูกลูกหลง เพราะในช่วงจังหวะดังกล่าวมีประชาชนชาวไทยมุสลิม เดินกลับจากการประกอบพิธีละหมาดในวันศุกร์เป็นจำนวนมาก จนกระทั่ง นายอุสมาน สะหะบูดิง ถูกกระสุนปืนลูกหลงของคนร้ายชุดที่ 2 และเสียชีวิตขณะนั่งรอซื้อรถจักรยานยนต์มือสอง
ล่าสุด เจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบพบกลุ่มผู้ต้องสงสัย จำนวน 6 คน ที่คาดว่าเป็นกลุ่มคนร้ายที่ร่วมกันก่อเหตุแล้ว โดยกลุ่มคนร้ายทั้ง 6 คน ได้ขี่ และซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์มาทางถนนซอยด้านหลังของ สภ.ยี่งอ และเมื่อก่อเหตุแล้วเสร็จก็ได้ขี่ และซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์กลับทางเดิม เพื่อหนีการติดตามจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ต่อมา พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ศชต. และคณะ ได้เดินทางไปยัง สภ.ยี่งอ พร้อมประชุมร่วมกับ พ.ต.อ.ดุลยมาน แยนา ผกก.สภ.ยี่งอ และพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง ณ ห้องประชุมชั้น 3 โดย พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ศชต. ได้เน้นย้ำการปฏิบัติ 3 ประการ คือ 1.ให้มีการรื้อฟื้นแผนป้องกันเมือง 2.การปรับแผนป้องกันชุมชนที่อ่อนแอ และ 3.เรียกความศรัทธา และความเชื่อมั่นของประชาชนให้คืนกลับมา
รวมทั้งการเน้นย้ำในการติดตามไล่ล่า แกะรอยกลุ่มคนร้ายทั้ง 6 คน นำตัวมาลงโทษให้ได้ ซึ่งในเบื้องต้น ได้นำภาพที่บันทึกได้จากกล้องวงจรปิดไปเปรียบเทียบกับแฟ้มบุคคลที่ก่อคดีความมั่นคง พบว่า กลุ่มคนร้ายทั้ง 6 คน เป็นสมาชิกแนวร่วมรุ่นใหม่ที่ไม่มีประวัติในแฟ้มอาชญากรรม ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องใช้เวลาระยะหนึ่งในการแกะรอย เพื่อหาที่มาที่ไปของบุคคลทั้ง 6 คน