ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - เกษตรกรชาวสวนยางสงขลา ตัดใจโค่นยางพาราข้างบ้าน หันทำสวนพอเพียงแบบผสมผสาน ตามแนวพระราชดำริ “ในหลวง รัชกาลที่ ๙” มีรายได้หมุนเวียนทั้งปี ดีกว่ายางพาราที่มักประสบปัญหาทั้งราคาตกต่ำ และข้อจำกัดเรื่องสภาพอากาศ
วันนี้ (24 มิ.ย.) นายบัณฑิต เหมือนนอง เกษตรกรในพื้นที่หมู่ 2 ต.คูขุด อ.สทิงพระ จ.สงขลา ลงทุนโค่นสวนยางข้างบ้านพื้นที่กว่า 2 ไร่ หันมาทำเกษตรแบบผสมผสานตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง หลังจากที่ในรอบหลายปีที่ผ่านมา ราคายางพาราผันผวน และตกต่ำ โดยในพื้นที่ 2 ไร่ครึ่ง แบ่งเป็นสร้างที่อยู่อาศัย 1 งาน ส่วนพื้นที่เหลือปลูกฝรั่งกิมจู 160 ต้น กล้วยหอมทอง กล้วยไข่ 100 ต้น และปลูกฟักทอง 180 ต้น แซมในร่องสวนกล้วย และฝรั่งกิมจูจนเต็มพื้นที่
นอกจากนี้ ยังมีแก้วมังกร ซึ่งใช้พื้นที่ริมรั้วบ้านปลูกตลอดแนวรั้วหน้าบ้าน และเตรียมขยายมาปลูกริมรั้วข้างบ้านที่กำลังก่อสร้างอีกด้วย และพืชผลอื่นๆ เช่น ขนุน และพืชผักสวนครัว เพื่อลดค่าใช้จ่ายภายในบ้าน ปัจจุบันพืชผลที่ปลูกไว้ต่างให้ผลผลิตหมุนเวียนสับเปลี่ยนกันไปตามฤดูกาล ทั้งฝรั่งกิมจู ฟักทอง และอื่นๆ ซึ่งแต่ละรุ่นสามารถสร้างรายได้ราว 3 หมื่นบาทต่อหนึ่งฤดูกาล
นายบัณฑิต เปิดเผยว่า พื้นที่บริเวณบ้านทั้งหมด 2 ไร่ครึ่ง เมื่อก่อนปลูกยางพารา แต่ประสบปัญหาราคายางพาราตกต่ำ ไม่คุ้มทุน จึงลงทุนโค่นทิ้งหมดหันมาทำเกษตรผสมผสาน ปรากฏว่า สามารถสร้างรายได้ต่อเนื่องตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะฤดูแล้ง หรือฤดูฝน ซึ่งหากปลูกยางพาราแม้จะมีรายได้ทุกวัน แต่ก็มีข้อจำกัดในการกรีดช่วงหน้าฝนเพราะกรีดไม่ได้ ช่วงหน้าแล้งน้ำยางก็หด และยังมีปัญหาเรื่องราคาตกต่ำอีก