กระบี่ - กลุ่มวิสาหกิจกล้วยหอมทอง อ.เขาพนม จ.กระบี่ ครวญ ราคาตกต่ำอย่างหนัก เหลือ กก.ละ 6 บาท เหตุกล้วยตกเกรดเข้ามาตีราคา เชื่อหน้าแล้งกล้วยหอมทองพันธุ์กระบี่ ราคาพุ่งสูงหวีละ 200 บาท
นายพงษกรณ์ เอ่งฉ้วน นักวิชาการส่งเสริมการเกษตร ปฏิบัติการ สำนักงานเกษตร อ.เขาพนม จ.กระบี่ และที่ปรึกษากลุ่มวิสาหกิจชุมขนกล้วยหอมทอง อ.เขาพนม เปิดเผยว่า ในช่วงนี้เริ่มเข้าสู่ช่วงหน้าแล้ง ฝนเริ่มทิ้งช่วง เชื่อว่าจะส่งผลดีแก่เกษตรกรปลูกกล้วยหอมทองกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกล้วยหอมทอง อ.เขาพนม อย่างแน่นอน เนื่องจากมีการบริหารจัดการแปลงที่ดี ถึงแม้ว่าฝนจะแล้งก็คงจะไม่มีผลกระทบ สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตส่งขายได้อย่างต่อเนื่อง
นายพงษกรณ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมากลุ่มวิสาหกิจชุมชนปลูกกล้วยหอมทอง อ.เขาพนมต้องประสบต่อภาวะราคากล้วยหอมทอง ตกต่ำอย่างหนัก เนื่องจากมีการนำกล้วยหอมทองที่ตกเกรดจากนอกพื้นที่เข้ามาจำหน่ายในราคาถูก ฉุดให้ราคากล้วยหอมทองคุณภาพของกลุ่มฯ ราคาตกต่ำไปด้วย มีการซื้อขายกันที่หน้าสวน จากกิโลกรัมละประมาณ 15 บาท เหลือเพียง 6 บาทเท่านั้น ซึ่งต่ำกว่าต้นทุนการผลิต แต่เกษตรกรต้องยอมกัดฟันขาย เนื่องจากไม่สามารถเก็บไว้ได้
นอกจากนี้ ทางกลุ่มฯ เตรียมขอยื่นจดสิทธิบัตรกล้วยหอมทองพันธุ์กระบี่ หลังพบว่ามีเอกลักษณ์เฉพาะตัว คือ กาบคอกล้วยมีสีน้ำตาล ขั้วลูกเหนียว ลูกมีเหลี่ยม และใน 1 เครือ มีประมาณ 5 หวี ให้ผลใหญ่ รสชาติหนึบหอมอร่อย ต่างจากกล้วยหอมทองทั่วไป เชื่อว่าหน้าแล้งที่กำลังมาเยือนจะส่งผลดีต่อราคากล้วยหอมทองพันธุ์กระบี่ อย่างแน่นอน อาจจะส่งผลให้ราคาอาจจะพุ่งสูงถึงหวีละ 200 บาท
นายพงษกรณ์ เอ่งฉ้วน นักวิชาการส่งเสริมการเกษตร ปฏิบัติการ สำนักงานเกษตร อ.เขาพนม จ.กระบี่ และที่ปรึกษากลุ่มวิสาหกิจชุมขนกล้วยหอมทอง อ.เขาพนม เปิดเผยว่า ในช่วงนี้เริ่มเข้าสู่ช่วงหน้าแล้ง ฝนเริ่มทิ้งช่วง เชื่อว่าจะส่งผลดีแก่เกษตรกรปลูกกล้วยหอมทองกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกล้วยหอมทอง อ.เขาพนม อย่างแน่นอน เนื่องจากมีการบริหารจัดการแปลงที่ดี ถึงแม้ว่าฝนจะแล้งก็คงจะไม่มีผลกระทบ สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตส่งขายได้อย่างต่อเนื่อง
นายพงษกรณ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมากลุ่มวิสาหกิจชุมชนปลูกกล้วยหอมทอง อ.เขาพนมต้องประสบต่อภาวะราคากล้วยหอมทอง ตกต่ำอย่างหนัก เนื่องจากมีการนำกล้วยหอมทองที่ตกเกรดจากนอกพื้นที่เข้ามาจำหน่ายในราคาถูก ฉุดให้ราคากล้วยหอมทองคุณภาพของกลุ่มฯ ราคาตกต่ำไปด้วย มีการซื้อขายกันที่หน้าสวน จากกิโลกรัมละประมาณ 15 บาท เหลือเพียง 6 บาทเท่านั้น ซึ่งต่ำกว่าต้นทุนการผลิต แต่เกษตรกรต้องยอมกัดฟันขาย เนื่องจากไม่สามารถเก็บไว้ได้
นอกจากนี้ ทางกลุ่มฯ เตรียมขอยื่นจดสิทธิบัตรกล้วยหอมทองพันธุ์กระบี่ หลังพบว่ามีเอกลักษณ์เฉพาะตัว คือ กาบคอกล้วยมีสีน้ำตาล ขั้วลูกเหนียว ลูกมีเหลี่ยม และใน 1 เครือ มีประมาณ 5 หวี ให้ผลใหญ่ รสชาติหนึบหอมอร่อย ต่างจากกล้วยหอมทองทั่วไป เชื่อว่าหน้าแล้งที่กำลังมาเยือนจะส่งผลดีต่อราคากล้วยหอมทองพันธุ์กระบี่ อย่างแน่นอน อาจจะส่งผลให้ราคาอาจจะพุ่งสูงถึงหวีละ 200 บาท
