พัทลุง - รถตู้โดยสารขับมาจาก จ.กระบี่ มุ่งหน้าเพื่อไปรับผู้โดยสารที่ จ.สงขลา ก่อนขับพุ่งชนท้ายรถบรรทุก 10 ล้อ ที่จอดเสียอยู่ข้างทาง ในพื้นที่ อ.ป่าบอน จ.พัทลุง คนขับช่วงล่างถูกอัดกับพวงมาลัยได้รับบาดเจ็บ 1 ราย
วันนี้ (22 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุง ว่า พ.ต.ต.มานพ หนูหอม สารวัตรเวร สภ.ป่าบอน จ.พัทลุง รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีอุบัติเหตุรถยนต์ตู้โดยสารชนท้ายรถบรรทุก 10 ล้อ คนขับรถได้รับบาดเจ็บติดภายใน โดยเหตุเกิดบนถนนสายเพชรเกษม ช่วงพัทลุง-หาดใหญ่ ท้องที่หมู่ 4 ต.ทุ่งนารี อ.ป่าบอน จ.พัทลุง หลังรับแจ้งจึงเดินทางรุดสอบที่เกิดเหตุ พร้อมเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยพัทลุง เจ้าหน้าที่ชุดอุปกรณ์ตัดถ่าง และหน่วยกู้ชีพโรงพยาบาลป่าบอน
โดยในที่เกิดเหตุริมถนนสายเพชรเกษมดังกล่าว เจ้าหน้าที่พบรถยนต์ตู้โดยสาร หมายเลขทะเบียน 30-1743 กระบี่ ชนท้ายรถบรรทุก 10 ล้อ หมาเลขทะเบียน 70-0633 ยะลา ทำให้คนขับรถยนต์ตู้ได้รับบาดเจ็บที่ขา และช่วงล่างถูกอัดกับพวงมาลัยไม่สามารถนำออกมาได้ เจ้าหน้าที่จึงใช้เครื่องตัดถ่างนานกว่า 10 นาที จึงสามารถนำคนขับรถยนต์ตู้ออกมาได้ ทราบชื่อคือ นายสราวุธ สาระวารี อายุ 38 ปี เป็นชาวกระบี่ หลังนำออกมาได้เจ้าหน้าที่เร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลป่าบอน เพื่อให้แพทย์ช่วยเหลือต่อไป
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุขณะที่รถยนต์ตู้คันดังกล่าวเดินทางมาจาก จ.กระบี่ เพื่อไปรับผู้โดยสารในพื้นที่ จ.สงขลา เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นทางขึ้นเนิน ได้มีรถ 10 ล้อบรรทุกเหล็กเส้นจอดเสียอยู่ข้างทาง ในลักษณะจอดคร่อมเลนซ้าย เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา โดยมี นายอับดุลเลาะ สาแม อายุ 56 ปี เป็นคนขับ และจอดโดยไม่มีแสงสว่าง ทำให้คนขับรถยนต์ตู้มองไม่เห็น จึงชนท้ายเข้าอย่างจังจนได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
ในขณะที่ นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง กรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน จ.พัทลุง ได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รับทราบรายงานสถานการณ์การเกิดอุบัติเหตุในพื้นที่ จ.พัทลุง โดยพบว่า ในรอบเดือน พ.ค.2560 ที่ผ่านมา มียอดผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ จำนวน 13 ราย (ข้อมูลจาก สสจ.พัทลุง) ถือเป็นการเสียชีวิตมากที่สุดของแต่ละเดือน
จึงได้ให้หน่วยงานดำเนินการเชิงรุกเพื่อป้องกัน และลดอุบัติเหตุ โดยการให้ความรู้แก่นักเรียน นักศึกษาในสถาบันการศึกษาระดับมัธยมศึกษา และอาชีวะหน้าเสาธง พร้อมกันนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ได้กำชับหน่วยปฏิบัติให้มีความเข้มงวด เช่น บังคับใช้กฎหมายโดยเคร่งครัด จุดเสี่ยง จุดอันตรายต่างๆ ให้ติดตั้งป้ายเตือน เครื่องหมายจราจร สัญญาณไฟ และดูแลสภาพถนนให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ