xs
xsm
sm
md
lg

เชื่อฝีมือ “ซอบรี เจ๊ะห๊ะ” แกนนำก่อเหตุรุนแรง นำทีมยิงวัยรุ่นหาของป่าดับ 3 ที่ยะหริ่ง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


 
ยะลา - “พ.อ.ยุทธนาม เพชรม่วง” รองโฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า แถลงข่าวชี้แจงเหตุการณ์ความไม่สงบ เชื่อเป็นฝีมือของ “ซอบรี เจ๊ะห๊ะ” แกนนำก่อเหตุรุนแรง นำทีมยิงวัยรุ่นหาของป่าเสียชีวิต 3 ราย ในพื้นที่ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี

วันนี้ (19 มิ.ย.) ที่ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พ.อ.ยุทธนาม เพชรม่วง รองโฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า แถลงข่าวชี้แจงความคืบหน้ากรณีเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 60 เวลา 11.15 น. คนร้ายใช้อาวุธปืนยิงกลุ่มเยาวชนผู้บริสุทธิ์ อายุระหว่าง 18-19 ปี ขณะหาของป่าในพื้นที่ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี เป็นเหตุให้เยาวชนเสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บ 2 ราย ว่า จากกรณีดังกล่าว เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 60 หน่วยเฉพาะกิจปัตตานี หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 42 พร้อมสนธิกำลังร่วมทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง เข้าทำการติดตามความเคลื่อนไหว และเข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ ผลปรากฏว่า บริเวณใกล้เคียงจุดเกิดเหตุพื้นที่บ้านดุซงปาแยตะวันตก หมู่ที่ 2 ต.ตอหลัง อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี พบศพเพิ่มเติม 1 ราย คือ นายณัฐภพ อินทรทิตย์ อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 30/3 หมู่ที่ 6 ต.ดอน อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี

“จากการติดตามจับกุม และปฏิบัติตามกฎหมายในพื้นที่เป้าหมาย จำนวน 2 จุด ได้แก่ หมู่ที่ 1 ต.ตันหยงจึงงา และพื้นที่หมู่ที่ 4 ต.ตันหยงดาลอ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี เจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดอาวุธปืนขนาด M-16 จำนวน 1 กระบอก ปืน AK-47 (อาก้า) จำนวน 1 กระบอก ปืนพก จำนวน 3 กระบอก พร้อมอุปกรณ์ และเครื่องกระสุนได้จำนวนหนึ่ง พร้อมกันนี้ สามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ จำนวน 6 ราย โดยได้ดำเนินการนำบุคคลต้องสงสัยเข้าสู่กระบวนการซักถาม และนำอาวุธทั้งหมดเข้าตรวจสอบตามกระบวนการนิติวิทยาศาสตร์ ว่าเกี่ยวข้องต่อเหตุการณ์ความไม่สงบหรือไม่ พร้อมทั้งดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป และจากการรวบรวมพยานหลักฐาน และข้อมูลด้านการข่าว รวมถึงเบาะแสที่ได้รับจากการแจ้งของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ทำให้ในชั้นต้นคาดได้ว่า ผู้ต้องสงสัยก่อเหตุรุนแรงในครั้งนี้คือ “นายซอบรี เจ๊ะห๊ะ” ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติม และจะเร่งติดตามผู้ก่อเหตุดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป” รองโฆษก กอ.รมน.ภาค 4 สน. กล่าว
 

 
พ.อ.ยุทธนาม ยังกล่าวอีกว่า ทาง พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 และผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิตเป็นอย่างยิ่ง และได้สั่งการให้ส่วนที่เกี่ยวข้องดูแลครอบครัวผู้เสียชีวิต และอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่จำเป็นตามสิทธิเยียวยาที่ได้รับตามระเบียบของทางราชการอย่างเต็มที่ และให้หน่วยที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการรวบรวมหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ตลอดจนรวบรวมงานการข่าว เพื่อติดตามผู้กระทำผิดมาลงโทษ โดยให้ทุกหน่วยปฏิบัติการเชิงรุกในการติดตามจับกุมกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง พร้อมเพิ่มมาตรการความเข้มงวดการรักษาความปลอดภัยพี่น้องประชาชนในพื้นที่

โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นความพยายามในการสร้างสถานการณ์ความรุนแรงอย่างโหดเหี้ยมทารุณ ที่กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงมุ่งกระทำต่อเด็ก และเยาวชนผู้บริสุทธิ์ที่เป็นอนาคตของชาติ ซึ่งมีอายุเพียง 18-19 ปี อย่างไร้ทางต่อสู้ และเป็นการกระทำของกลุ่มผู้แสวงผลประโยชน์อย่างไร้อุดมการณ์ ไร้มนุษยธรรม ไร้ซึ่งความเมตตาต่อเด็ก และเยาวชนที่ถือได้ว่าเป็นกระทำเพื่อหวังผลประโยชน์ของกลุ่มตนเองเท่านั้น โดยไม่สนใจหลักมนุษยธรรม และยังเป็นการก่อเหตุในห้วงเดือนอันประเสริฐของพี่น้องชาวมุสลิมอย่างไม่ยำเกรง และไม่รับฟังผู้นำศาสนาอิสลามที่ได้ออกมาแถลงการณ์ให้ยุติการใช้ความรุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการให้เกียรติห้วงแห่งเดือนรอมฎอน อันประเสริฐที่การก่อเหตุรุนแรงถือเป็นบาปใหญ่ และขัดต่อหลักศาสนาอิสลามที่ถูกต้อง และเป็นการสมควรที่พี่น้องประชาชนควรออกมาร่วมกันประณามขับไล่ พร้อมต่อต้านการใช้ความรุนแรงในการกระทำอันชั่วร้ายดังกล่าวนี้

รวมถึงขอให้พี่น้องประชาชนทุกศาสนิกชนร่วมมือร่วมใจกันแจ้งเบาะแสข้อมูลข่าวสารความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงผ่านสายด่วน 1341 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการให้ข้อมูลสำคัญต่อเจ้าหน้าที่นำสืบ และรวบรวมไปสู่การติดตามจับกุมตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุดังกล่าวมาลงโทษตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด เพื่อเป็นแบบอย่างของผู้ที่ต้องได้รับโทษ และบาปจากการกระทำอันโหดร้ายทารุณอย่างสมควรที่จะต้องได้รับในครั้งนี้
 
กำลังโหลดความคิดเห็น