ปัตตานี - โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ชี้แจงแม่ทัพเสียใจต่อ 2 เหตุการณ์ที่คนร้ายใช้อาวุธปืนกระทำต่อผู้บริสุทธิ์เป็นสตรี และเยาวชนในพื้นที่จังหวัดปัตตานี และนราธิวาส ชี้ผู้ก่อเหตุเป็นพวกไร้ศาสนา ขอประชาชนช่วยกันประณาม
วันนี้ (18 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเหตุคนร้ายไม่ทราบฝ่ายใช้อาวุธปืนก่อเหตุยิงเยาวชนในพื้นที่ ต.ตอหลัง อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี เมื่อวานนี้ (17 มิ.ย.) ระหว่างไล่ล่าสัตว์ป่า เป็นเหตุให้เยาวชนดังกล่าวถูกยิงเสียชีวิต 2 ราย และหนีรอดตายอีก 3 ราย และเหตุคนร้าย จำนวน 2 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นคลิก สีดำแดง ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ใช้อาวุธปืนไม่ทราบขนาดยิง นางจุฑารัตน์ สุวรรณวิหก อายุ 48 ปี เจ้าของร้านรับฝากรถจักรยานยนต์หน้าสถานีรถไฟตันหยงมัส พื้นที่หมู่ที่ 7 ต.ตันหยงมัส อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ขณะที่กำลังยืนคุยกับลูกค้าบริเวณหน้าร้าน เป็นเหตุให้กระสุนปืนถูกบริเวณแขนข้างซ้ายได้รับบาดเจ็บ เมื่อวานนี้ (17 มิ.ย.) เช่นกัน
ล่าสุด ทาง พ.อ.ยุทธนาม เพชรม่วง รองโฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ได้ออกชี้แจงต่อสื่อมวลชน ว่า ทางแม่ทัพภาคที่ 4 ได้แสดงความเสียใจต่อครอบครัว พร้อมสั่งการให้ส่วนที่เกี่ยวข้องดูแลครอบครัวผู้เสียชีวิต และอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่จำเป็นตามสิทธิที่ได้รับตามระเบียบของทางราชการอย่างเต็มที่ และให้หน่วยที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการรวบรวมหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ตลอดจนรวบรวมงานด้านการข่าวเพื่อติดตามผู้กระทำผิดมาลงโทษ โดยให้ทุกหน่วยปฏิบัติการเชิงรุกในการติดตามกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง พร้อมเพิ่มระดับความเข้มงวดการรักษาความปลอดภัยพี่น้องประชาชน
ทาง กอ.รมน.มองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นความพยายามในการสร้างสถานการณ์ความรุนแรงอย่างโหดเหี้ยม ไร้มนุษยธรรม และยังเป็นการก่อเหตุในห้วงเดือนอันประเสริฐของพี่น้องชาวมุสลิม อย่างไม่ยำเกรง และไม่รับฟังผู้นำศาสนาอิสลามที่ได้ออกมาแถลงการณ์ให้ยุติการใช้ความรุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการให้เกียรติห้วงแห่งเดือนรอมฎอนอันประเสริฐ ที่การก่อเหตุรุนแรงถือว่าเป็นบาปใหญ่ และขัดต่อหลักศาสนาอิสลามที่ถูกต้อง ซึ่งนับว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุดังกล่าวนี้เป็นพวกไม่มีศาสนา ไร้ความเมตตา อีกทั้งยังเป็นการกระทำต่อสตรี และเยาวชนที่ตกเป็นเป้าหมายอ่อนแอไม่มีทางต่อสู้ นับเป็นการกระทำอย่างไร้มนุษยธรรม และละเมิดสิทธิมนุษยชน ดังนั้น จึงขอให้พี่น้องประชาชนร่วมกันประณามต่อต้านการใช้ความรุนแรงของกลุ่มผู้ก่อเหตุดังกล่าว
โดย กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ยังคงยึดมั่นในหลักการบังคับใช้กฎหมาย และคำนึงถึงความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนเป็นสำคัญ ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์สุขของพี่น้องประชาชนเป็นใหญ่ และขอความร่วมมือให้พี่น้องประชาชนทุกศาสนาในพื้นที่แจ้งข้อมูลข่าวสารความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงได้ที่สายด่วน 1341 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งในการแจ้งเบาะแสให้เจ้าหน้าที่เข้าจับกุมผู้กระทำความผิดมาลงโทษตามกระบวนการยุติธรรม
ทางด้าน พ.อ.สมคิด คงแข็ง ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 42 เปิดเผย และชี้แจงหลังจากเกิดเหตุคนร้ายยิงประชาชน จำนวน 5 คน ขณะหาของป่าในพื้นที่ บ้านดุซงปาแยตะวันตก ต.ตอหลัง อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี จนทำให้ประชาชนเสียชีวิต จำนวน 2 ราย และหาตัวไม่พบอีก 1 ราย ว่า ในห้วงที่ผ่านมา ได้มีการแจ้งเตือนข่าวสารเพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ได้เฝ้าระวังการก่อเหตุ ทางด้านเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 ฝ่าย และกองกำลังภาคประชาชนได้ร่วมกันสนธิกำลัง และปฏิบัติตามแผนมาตรการดูแลความปลอดภัยพื้นที่อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการตั้งจุดตรวจ จุดสกัด และการลาดตระเวนเส้นทางตามเส้นทางต่างๆ ที่เป็นเส้นทางหลักที่ประชาชนใช้เป็นทางผ่าน รวมถึงเส้นทางสายรองที่เชื่อมต่อไปยังสายหลักให้เพิ่มความเข้มในการตรวจสอบเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชนในพื้นที่ ได้ปฏิบัติศาสนกิจในห้วงเดือนรอมฎอนได้อย่างเต็มที่ ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นการกระทำที่โหดร้ายไร้มนุษยธรรม เพราะผู้เสียชีวิตยังเป็นเด็กนักเรียน ทั้งนี้ ก็อยากฝากถึงประชาชนในพื้นที่ให้เชื่อมั่นในมูลเหตุ หรือคำแจ้งเตือนของเจ้าหน้าที่ อย่าได้ประมาท เพราะการแจ้งเตือนคือคำที่ต้องการให้ประชาชนป้องกันตนเอง และอยากให้ประชาชนให้ความร่วมมือ ซึ่งที่ผ่านมา ประชาชนในพื้นที่ก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีเสมอมา