พระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่ และชาวบ้านจำนวนมากร่วมพิธีฌาปนกิจสามเณรปลื้ม เหยื่อฆาตกรรมฝังดินในวัด ส่วนแม่เรียกร้องให้ลงโทษประหารชีวิตผู้ต้องหา มั่นใจเหตุเสียชีวิตเป็นเพราะเณรไปรู้เห็นบางเรื่อง
ช่วงบ่าย วันนี้ (11 มิ.ย.) ที่วัดวังไทร ตำบลกำโลน อำเภอลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช ชาวบ้านในอำเภอลานสกา และจากอำเภอหัวไทร จำนวนมากเข้าร่วมพิธีฌาปนกิจศพสามเณรปลื้ม หรือนายศุภโชค เอกเกียรติกุล ซึ่งในแถบวัดวังไทร สามเณรปลื้ม จะรู้จักอีกชื่อคือ สามเณรทอง หรือเณรทอง อันเป็นที่รู้จัก และเป็นที่รักมักคุ้นของญาติโยมใกล้เคียงกับวัด หลายคนได้สวมเสื้อที่มีข้อความ “คนรักเณรทอง” เพื่อร่วมไว้อาลัยเณรปลื้ม
ขณะที่ฝ่ายสงฆ์พระชั้นผู้ใหญ่ ประกอบด้วย พระราชปริยัติเวที เจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมด้วยพระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่ในฝ่ายมหานิกายมาร่วมงานในพิธี เช่นเดียวกับพระเทพสิริโสภณ อดีตเจ้าอาวาสวัดวังตะวันตก และอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งมีอิริยาบถที่ผ่อนคลายและมีสีหน้าสดใสมากขึ้น หลังจากฟื้นจากอาการอาพาธเดินทางมาร่วมในพิธีเช่นเดียวกัน
พระราชปริยัติเวที เทศนาช่วงหนึ่งได้ยกย่องว่า การตายของสามเณรปลื้ม มีสาเหตุอันเป็นทราบกันอยู่แล้ว แต่สามเณรปลื้ม ได้เป็นวีรบุรุษที่ทำให้เกิดการตื่นตัวในการเข้ามาดูแลวัดกันมากขึ้น พระสงฆ์เป็นเพียงผู้อาสาเข้ามาดูแลวัด แต่ญาติโยมจะต้องร่วมกันทำนุบำรุงดูแลกันสืบต่อๆ ไป และไม่แปลกที่ผู้คนจะยกย่อง และสร้างรูปของสามเณรขึ้นมาเพื่อระลึกถึงเพราะคุณูปการของสามเณร
ในวันเดียวกัน นางกัญญา มินกระโทก มารดาของสามเณรปลื้ม ได้เรียกร้องให้เร่งสอบสวนขยายผลคดีอย่างต่อเนื่อง ไม่เชื่อว่าผู้ต้องหาจะมีเพียงแค่ 4 คน ที่ถูกจับกุมได้ เชื่อว่าจะต้องมีมากกว่านี้ และขอให้มีการพิจารณาคดีต่อผู้ต้องหาทั้งหมดให้ไปถึงขั้นประหารชีวิต ส่วนสาเหตุนั้นไม่เคยเชื่อว่าสามเณรจะขโมยเงินของเขาเป็นเพียงแค่ข้ออ้างมากกว่า เพราะทุกคนรู้จักสามเณรดี แต่ทุกคนเชื่อเหมือนกันคือ สามเณรไปรู้เห็นเรื่องของเขาจนต้องถูกฆ่าปิดปาก
ส่วนศพของสามเณรนั้นหลังจากประกอบพิธีเผาหลอกแล้ว จะมีการเผาจริงในเวลา 21.00 น.ของคืนนี้บนเมรุลอย หรือเมรุกลางแจ้งที่วัดวังไทร ได้จัดขึ้น