นครศรีธรรมราช - อดีต สปท.แฉนายตำรวจจ่ายเงินเลื่อนตำแหน่งให้ผู้บังคับบัญชาแต่ถูกกินเปล่าเพียบ ขอนายกรัฐมนตรี เปิดทางเข้าให้ข้อมูล ระบุระดับ ผกก.มีราคาสูง 5-7 ล้านบาท ขณะที่นักวิ่งเต้นอกหักจ่อตบเท้าบุกทวงเงินคืนยอดรวมสูงกว่า 50 ล้าน
วันนี้ (11 มิ.ย.) นายวิทยา แก้วภราดัย อดีตสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) และอดีตแกนนำ กปปส.กล่าวว่า การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจตั้งแต่ระดับรองผู้บังคับการ ผู้กำกับการการ รองผู้กำกับการ และสารวัตร ตัวเลขการข้ามห้วยที่ออกมาอาจดูไม่น่าเกลียดมากนัก แต่ที่น่าเป็นห่วงมาก และต้องแสดงความเสียใจต่อบรรดานักวิ่งเต้นแล้วพลาด เงินจ่ายแล้วแต่ก็ไม่ได้ตำแหน่ง
เรื่องนี้ต้องบอกนายกรัฐมนตรี ว่า พฤติกรรมอย่างนี้เกิดขึ้นจริง แต่จะถามเอาใครมาเป็นพยานคงลำบาก เพราะทั้งคนให้ คนรับผิดกฎหมายทั้งคู่ แต่ถ้ารัฐบาลพร้อมกันให้เป็นพยานแล้วบอกน้องๆ ตำรวจเลยว่าใครที่จ่ายเงินให้แก่เมียนายแล้วไม่ได้ขึ้นตำแหน่ง ถ้าอยากทวงเงินคืนนั้น และถ้านายกรัฐมนตรี เปิดทางพร้อมที่จะพานายตำรวจเหล่านี้ไปพบนายกรัฐมนตรี โดยกันไว้เป็นพยาน และทวงเงินจากคนเรียกร้องเงินไปด้วย
“ตอนนี้ราคาสูงมา กระดับผู้กำกับการไปถึงระดับ 5 ล้าน 7 ล้านไปแล้ว ระดับสารวัตรราคา 1.5 ล้าน 2 ล้าน เป็นราคาตั๋วเด็ก ต้องหาทางแก้ไขให้ได้ ไม่เช่นนั้นคนที่ทำงานจริงจังหมดกำลังใจ ตำรวจที่ใช้เงินไปต้องไปหาเงินกลับมาชดใช้หนี้ที่ได้ก่อไว้ การปฏิรูปตำรวจตามรัฐธรรมนูญจึงควรต้องเร่งไปทางใดทางหนึ่งที่ต้องหยุดวิธีการกินเลือดกินเนื้อกันเองในวงการตำรวจ
ตำรวจคนใดที่พร้อมให้นำหลักฐานมา หากนายกรัฐมนตรีเปิดพร้อมที่จะเป็นคนกลางพาไปพบกับนายกรัฐมนตรี และถ้านายกรัฐมนตรีตกลงว่ากันไว้เป็นพยานแน่ พวกจ่ายเงินหลายคนพร้อมที่จะให้ข้อมูล”
อย่างไรก็ตาม มีกระแสข่าวเพิ่มเติมว่า มีกลุ่มนายตำรวจนับสิบนายที่จ่ายเงินให้แก่ภรรยาลับๆ ของนายตำรวจระดับบังคับบัญชาชั้นสูงเพื่อเป็นค่าผ่านทางในการเลื่อนตำแหน่ง กลุ่มนายตำรวจเหล่านี้เตรียมตบเท้าเข้าพบเพื่อขอเงินคืน ซึ่งวงเงินที่จ่ายไปนั้นรวมกว่า 50 ล้านบาท.
วันนี้ (11 มิ.ย.) นายวิทยา แก้วภราดัย อดีตสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) และอดีตแกนนำ กปปส.กล่าวว่า การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจตั้งแต่ระดับรองผู้บังคับการ ผู้กำกับการการ รองผู้กำกับการ และสารวัตร ตัวเลขการข้ามห้วยที่ออกมาอาจดูไม่น่าเกลียดมากนัก แต่ที่น่าเป็นห่วงมาก และต้องแสดงความเสียใจต่อบรรดานักวิ่งเต้นแล้วพลาด เงินจ่ายแล้วแต่ก็ไม่ได้ตำแหน่ง
เรื่องนี้ต้องบอกนายกรัฐมนตรี ว่า พฤติกรรมอย่างนี้เกิดขึ้นจริง แต่จะถามเอาใครมาเป็นพยานคงลำบาก เพราะทั้งคนให้ คนรับผิดกฎหมายทั้งคู่ แต่ถ้ารัฐบาลพร้อมกันให้เป็นพยานแล้วบอกน้องๆ ตำรวจเลยว่าใครที่จ่ายเงินให้แก่เมียนายแล้วไม่ได้ขึ้นตำแหน่ง ถ้าอยากทวงเงินคืนนั้น และถ้านายกรัฐมนตรี เปิดทางพร้อมที่จะพานายตำรวจเหล่านี้ไปพบนายกรัฐมนตรี โดยกันไว้เป็นพยาน และทวงเงินจากคนเรียกร้องเงินไปด้วย
“ตอนนี้ราคาสูงมา กระดับผู้กำกับการไปถึงระดับ 5 ล้าน 7 ล้านไปแล้ว ระดับสารวัตรราคา 1.5 ล้าน 2 ล้าน เป็นราคาตั๋วเด็ก ต้องหาทางแก้ไขให้ได้ ไม่เช่นนั้นคนที่ทำงานจริงจังหมดกำลังใจ ตำรวจที่ใช้เงินไปต้องไปหาเงินกลับมาชดใช้หนี้ที่ได้ก่อไว้ การปฏิรูปตำรวจตามรัฐธรรมนูญจึงควรต้องเร่งไปทางใดทางหนึ่งที่ต้องหยุดวิธีการกินเลือดกินเนื้อกันเองในวงการตำรวจ
ตำรวจคนใดที่พร้อมให้นำหลักฐานมา หากนายกรัฐมนตรีเปิดพร้อมที่จะเป็นคนกลางพาไปพบกับนายกรัฐมนตรี และถ้านายกรัฐมนตรีตกลงว่ากันไว้เป็นพยานแน่ พวกจ่ายเงินหลายคนพร้อมที่จะให้ข้อมูล”
อย่างไรก็ตาม มีกระแสข่าวเพิ่มเติมว่า มีกลุ่มนายตำรวจนับสิบนายที่จ่ายเงินให้แก่ภรรยาลับๆ ของนายตำรวจระดับบังคับบัญชาชั้นสูงเพื่อเป็นค่าผ่านทางในการเลื่อนตำแหน่ง กลุ่มนายตำรวจเหล่านี้เตรียมตบเท้าเข้าพบเพื่อขอเงินคืน ซึ่งวงเงินที่จ่ายไปนั้นรวมกว่า 50 ล้านบาท.
