ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ชาวประมงพื้นบ้านใน ต.ตะเครี๊ยะ อ.ระโนด จ.สงขลา รวมตัวตั้งกลุ่มฟาร์มทะเล และทำฟาร์มเลี้ยง “กุ้งก้ามกราม” ในทะเลสาบสงขลาด้วยวิธีธรรมชาติ ขายได้สูงสุดถึงกิโลกรัมละ 900 บาท และเป็นการเลี้ยงกุ้งก้ามกรามแบบยั่งยืนเชิงอนุรักษ์
วันนี้ (10 มิ.ย.) กลุ่มชาวประมงพื้นที่บ้านในพื้นที่ ต.ตะเครี๊ยะ อ.ระโนด จ.สงขลา ราว 100 คน รวมตัวกันตั้งกลุ่มฟาร์มทะเล และทำฟาร์มเลี้ยงกุ้งก้ามกรามในทะเลสาบสงขลา ซึ่งเป็นการเลี้ยงแบบธรรมชาติ โดยใช้พื้นที่ทะเลสาบสงบ บริเวณหมู่ 1 หมู่ 3 และหมู่ 4 ในการทำฟาร์มกุ้งกรามกราม
ซึ่งลักษณะของฟาร์มจะทำขึ้นแบบง่ายๆ เพื่อไม่ให้กระทบต่อสิ่งแวดล้อม นำไม้มาปักล้อมเป็นพื้นที่สี่เหลี่ยม เนื้อที่ประมาณ 200 เมตร และทำในลักษณะของบ้านปลา คือ เอาท่อนไม้ หรือกิ่งไม้มาวางไว้คล้ายๆ กับปะการังเทียมในทะเล เพื่อให้เป็นที่อาศัยของกุ้งก้ามกราม และยังมีผลพลอยได้จากสัตว์น้ำอื่นๆ ที่เข้ามาอาศัยอยู่ด้วยโดยเฉพาะปลา ซึ่งกุ้งก้ามกรามจะใช้เวลาเลี้ยงประมาณ 3 เดือน ก็สามารถจับขายได้เฉลี่ย 1-2 กิโลกรัมต่อกระชัง ราคาแล้วแต่ขนาด มีตั้งแต่กิโลกรัมละ 900, 600 และ 400 บาท มีพ่อค้าแม่ค้ามาสั่งจอง และรับซื้อถึงฟาร์ม สามารถสร้างรายได้ให้แก่สมาชิกเดือนละ 6,000-7,000 บาทต่อครอบครัวเลยทีเดียว
นายสุนทร ทองดีนุ้ย อายุ 63 ปี ประธานกลุ่มฟาร์มทะเล เปิดเผยว่า การตั้งฟาร์มเลี้ยงกุ้งก้ามกรามเขตฟาร์มทะเล เป็นการเลี้ยงกุ้งเชิงอนุรักษ์ เนื่องจากมีการตั้งกฎกติกา หากใครมาทำประมงในเขตฟาร์มทะเล และจับกุ้งก้ามกรามที่กำลังมีไข่ จะต้องนำมาปล่อยในฟาร์มเลี้ยงกุ้งก้ามกราม และหากกุ้งก้ามกรามตัวเล็กเกินไปจะต้องปล่อยกลับคืนสู่ทะเล เพื่อเป็นการขยายพันธุ์กุ้งก้ามกรามในทะเลสาบสงขลาให้เพิ่มขึ้นด้วย