นราธิวาส - คนสู้ชีวิต! หนุ่มวัย 41 ทำสวน “ดอกมะลิ” ใจกลางเมืองโก-ลก จ.นราธิวาส ยึดเป็นอาชีพตกทอดจากรุ่นแม่นานกว่า 70 ปี สร้างรายได้อย่างงาม เฉลี่ยต่อวัน 800-1,200 บาท
วันนี้ (9 มิ.ย.) นายซูกรียา ดือเร๊ะ อายุ 41 ปี และ น.ส.มายีด๊ะ สาเมาะแม อายุ 35 ปี สองสามีภรรยา ซึ่งอาศัยอยู่บ้านชั้นเดียว กลางเมืองสุไหงโก-ลก เลขที่ 138 ถนนทรายทอง 1 เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ได้พาไปดูสวนดอกมะลิ ซึ่งปลูกไว้หลังบ้านพักในเนื้อที่ 4 ไร่ ที่ปลูกแซมไปกับพืชผักสวนครัว โดยมี นางตีเมาะ ดือเร๊ะ อายุ 90 ปี ซึ่งเป็นมารดาของนายซูกรียา กำลังใช้เวลาว่างของทุกวันในการเดินชมดอกมะลิ และใช้มือถอนต้นวัชพืชที่ขึ้นระเกะระกะภายในสวนดอกมะลิ ที่ลูกชาย และลูกสะใภ้ได้ปลูกไว้ ที่ทั้ง 2 คนได้สืบทอดอาชีพมาจากนางตีเมาะ ที่เคยยึดอาชีพทำสวนดอกมะลิในอดีตมานานกว่า 70 ปี เป็นรายได้ส่งเสีย นายซูกรียา และพี่น้อง จำนวน 6 คน จนเติบโต และมีอาชีพเป็นหลักแหล่งที่มั่นคง
นายซูกรียา ซึ่งถือได้ว่ามีความผูกพันกับสวนดอกมะลิของนางตีเมาะ ซึ่งเป็นมารดามาตั้งแต่เยาว์วัย โตขึ้น นายซูกรียา เมื่อแต่งงานมีครอบครัว จึงได้ยึดอาชีพดังกล่าวแทนมารดา โดยในแต่ละวัน นายซูกรียา และภรรยา จะเด็ดดอกมะลิที่สวนหลังบ้าน นำมาเสียบไม้ก้านมะพร้าวกับสมาชิกในครอบครัว นำไปตระเวนขายให้แก่ชาวบ้านทั้งไทยพุทธ และมุสลิม ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก โดยจำหน่ายในราคา 5 ไม้ 20 บาท ซึ่ง 1 ไม้จะเสียบดอกมะลิ จำนวน 20 ดอก โดยเฉพาะวันโกน หรือก่อนวันพระ 1 วัน จะขายดีเป็นกรณีพิเศษ และมีรายได้มากกว่าในช่วงวันปกติถึง 2 เท่าตัว เฉลี่ยต่อวันโดยภาพรวมจะมีรายได้จากการขายดอกมะลิ ประมาณ 800-1,200 บาท
ซึ่งจุดเด่นของดอกมะลิ ที่ นายซูกรียา นำมาเสียบไม้ก้านมะพร้าวขาย จนได้รับความนิยมของประชาชน และลูกค้าขาประจำ คือ จะมีกลิ่นหอมกว่าดอกมะลิที่มีการร้อยขายเป็นพวงมาลัยของร้านค้าขายดอกไม้ เนื่องจากเป็นดอกมะลิสดๆ ที่เด็ดออกมาจากสวน แต่ที่ร้านค้าส่วนใหญ่จะเป็นดอกมะลิที่แช่เย็นส่งมาจากพื้นที่ต่างๆ ทั้งภาคอีสาน และภาคกลาง เมื่อถึงปลายทางความหอมของดอกมะลิจะลดลง แถมสภาพดอกจะอยู่ไม่คงทน
นอกจากนี้แล้ว ดอกมะลิของ นายซูกรียา ยังเป็นที่ต้องการของตลาดร้านค้าดอกไม้ ในพื้นที่ อ. สุไหงโก-ลก เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงเดือนพฤศจิกายน ถึงเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี ซึ่งดอกมะลิทั่วประเทศจะให้ผลผลิตน้อย ทางร้านจะแย่งสั่งซื้อดอกมะลิจากนายซูกรียา ในราคากิโลกรัมละ 600-800 บาท ซึ่งในช่วงนี้ถือว่ามีรายได้เป็นกอบเป็นกำ โดย นายซูกรียา เคยแนะนำให้เพื่อนบ้านหลายคนนำไปยึดเป็นอาชีพ เพราะการทำสวนดอกมะลิปลูกครั้งเดียว สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้นานถึง 10 ปี หากดูแลรักษาดี หมั่นใส่ปุ๋ยพรวนดินทุกๆ 3 เดือน
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม นอกจาก นายซูกรียา จะเด็ดดอกมะลิในสวนมาเสียบไม้ก้านมะพร้าว และนำตระเวนขายแต่ละวันแล้ว ที่สวนของนายซูกรียา ยังได้เพาะชำต้นดอกมะลิขายในราคาถุง หรือกระถางละ 20 บาท ซึ่งเป็นรายได้อีกส่วนหนึ่ง ทำให้ครอบครัวของ นายซูกรียา อยู่ดีกินดีมาได้จนถึงทุกวันนี้