ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - จนท.เข้าตรวจค้นบ้าน และควบคุมตัวเอเยนต์ค้ายา ผู้ต้องสงสัยคดีอุ้มฆ่าหนุ่มวัย 22 ปี ที่เป็นสายของตำรวจปราบปรามยาเสพติด ยึดได้ทั้งอาวุธปืน ยุทโธปกรณ์ และเครื่องกระสุนอีกหลายรายการ แต่ยังคงให้การปฏิเสธเสียงแข็ง
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีการหายตัวไปของ นายภีรนัฐ ชุมทอง อายุ 22 ปี หรือโอ๊ด ชาว ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา สายของตำรวจปราบปรามยาเสพติด ซึ่งได้หายออกไปจากบ้านตั้งแต่วันที่ 26 เม.ย.60 ต่อมา เมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้พบรถจักรยานยนต์ถูกนำไปทิ้งไว้ในคลองยาง ต.คลองหอยโข่ง อ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา และนางมีนา ชุมทอง อายุ 48 ปี ผู้เป็นแม่ ได้เข้าพบกับตำรวจทั้งที่ สภ.หาดใหญ่ และ สภ.คลองหอยโข่ง เพื่อเร่งรัดคดีให้เร็วขึ้น เพราะเชื่อว่าน่าจะถูกแก๊งค้ายาเสพติดอุ้มฆ่า หากไม่พบตัวก็ขอให้พบร่างเพื่อนำกลับมาบำเพ็ญกุศล
ล่าสุด เมื่อช่วงเย็นของวันนี้ (8 มิ.ย.) กำลังเจ้าหน้าที่ชุดปราบรามยาเสพติด สภ.หาดใหญ่ หรือชุดตะวัน และชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.สงขลา นำโดย พ.ต.อ.กิตติชัย สังขถาวร ผู้กำการการ สภ.หาดใหญ่ และ พ.ต.ท.เอกรัฐ สวนแสน รองผู้กำกับสืบสวน ได้เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 73 ซอยหนองยาว หมู่ 4 ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และควบคุมตัว นายวิรัตน์ เเก้วทองพันธ์ หรือแวว อายุ 33 ปี เจ้าของบ้าน ขณะกำลังนั่งซ่อมปืนอยู่ภายในบ้าน ซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัยว่าน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องต่อการหายตัวไปของ นายภีรนัฐ
จากการตรวจค้นเจ้าหน้าที่พบอาวุธปืน และเครื่องยุทธภัณฑ์หลายรายการ เช่น โครงสร้างปืนคาร์บิน ชุดลั่นไก เข็มแทงชนวน อาวุธปืนลูกโม่ขนาด .32 อาวุธปืน 9 มม. พร้อมแมกกาซีน ปืนลูกซอง กระสุนปืน M60 จำนวน 1 นัด M16 จำนวน 24 นัด และ 9 มม. จำนวน 5 นัด เสื้อเกราะกันกระสุน อุปกรณ์การเสพไอซ์ และต้นกระท่อมที่ปลูกไว้หลังบ้านอีก 1 ตัน เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการยึดเอาไว้
โดย นายวิรัตน์ ยังเป็นหนึ่งในผู้ที่อยู่ในบัญชีนักค้ายาเสพติดของ อ.หาดใหญ่ ซึ่งเจ้าหน้าที่เฝ้าจับตา และพยายามจับกุมมาตลอด มีประวัติเคยต้องโทษในคดีฆ่าอยู่ในเรือนจำจังหวัดสงขลา มา 11 ปี และพ้นโทษมาเมื่อกลางปีที่แล้ว ส่วนความเชื่อมโยงกับคดีนี้มาจากผลการตรวจสอบเบอร์โทรศัพท์ของ นายภีรนัฐ พบว่า เบอร์ที่โทร.มาหาเป็นคนสุดท้ายก่อนที่จะหายตัวไป เมื่อวันที่ 26 เม.ย.60 เป็นเบอร์ของ นายวิรัติ จึงเชื่อว่าน่าจะมีส่วนรู้เห็น นอกจากนี้ ทั้ง 2 คน เคยอยู่ในเครือข่ายค้ายาเสพติดกลุ่มเดียวกัน โดย นายภีรนัฐ เป็นคนเดินยาให้แก่ นายวิรัติ
แต่จากการสอบสวนในเบื้องต้น นายวิรัติ ยังคงยืนกรานปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือรู้เห็นต่อการหายตัวไปของ นายภีรนัฐ และพยายามที่จะซัดไปที่ความขัดแย้งกับกลุ่มอื่นๆ ทั้งที่มาจากปัญหาเรื่องค้ายาเสพติด และปัญหาเรื่องส่วนตัว อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ยังคงควบคุมตัวนายวิรัติ สอบสวนเครียดเพื่อเค้นหาความจริง เบื้องต้น ได้เตรียมแจ้งข้อหาเกี่ยวกับการมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองก่อน
