ตรัง - ผู้นำท้องถิ่น และชาวบ้านถกเครียดร่วมกับวัดคลองลำเลียง อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง หลังเกิดปัญหาไม่เข้าใจกัน โดยเฉพาะการห้ามตั้งงานศพ ท้ายสุดมีมติ 4 ข้อ และเจ้าอาวาสขอลาออกจากตำแหน่งโดยทันที
วันนี้ (8 มิ.ย.) ที่สถานที่ปฏิบัติธรรม สำนักสงฆ์คลองลำเลียง ม.9 ต.ทุ่งค่าย อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ตัวแทนจากองค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งค่าย พร้อมด้วยผู้นำท้องที่ กลุ่มชุมชน และชาวบ้าน รวมประมาณ 200 คน ได้ประชุมหารือร่วมกันเพื่อหาทางออกปัญหาความไม่เข้าใจระหว่างวัด และสำนักสงฆ์คลองลำเลียง ที่มี พระโชคดี ถาวโร เจ้าอาวาส เป็นผู้ดูแล กับชาวบ้านในพื้นที่ที่มีปัญหาระหองระแหงกันนานหลายปี จนหาทางออกไม่ได้ และล่าสุด ถึงขั้นทางวัดไม่ยอมให้มีการตั้งศพบำเพ็ญกุศลภายในบริเวณวัด ทำให้ชาวบ้านรู้สึกอึดอัด และเก็บความไม่สบายใจไว้ไม่ได้อีกต่อไป โดยการร่วมประชุมกันในครั้งนี้ มีเจ้าหน้าที่อาสาสมัคร (อส.) อ.ย่านตาขาว มาเฝ้าสังเกตการณ์ และดูแลความเรียบร้อยอย่างใกล้ชิด
นายวิชญาณ ขวัญนิมิตร กำนันตำบลทุ่งค่าย กล่าวว่า ชาวบ้านที่มาร่วมตัวกันครั้งนี้เกิดมาจากความไม่เข้าใจกันระหว่างชุมชนกับวัด แต่ไม่ได้เป็นการขับไล่เจ้าอาวาสใดๆ ทั้งสิ้น เพียงแต่ต้องการคุยกัน ปรึกษาหารือกันเพื่อหาทางออกว่า กรณีชาวบ้านต้องการจัดกิจกรรมเพื่อบำรุงศาสนา หรือพัฒนาวัดจะสามารถทำได้หรือไม่เพียงใด โดยที่ผ่านมา ชาวบ้านไม่เคยได้รับความร่วมมือเท่าที่ควร ทั้งๆ ที่อยากจะมีกิจกรรมเพื่อสืบสานพระพุทธศาสนา เช่น ทอดกฐิน ทอดผ้าป่า ฝังลูกนิมิต และงานบำเพ็ญกุศลศพ แต่กลับทำไม่ได้แทบทั้งสิ้น
อีกทั้งสำนักสงฆ์และวัดแห่งนี้ก็มีสภาพชำรุดทรุดโทรมอย่างหนัก เนื่องจากตลอดหลายปีที่ผ่านมา ไม่เคยได้มีโอกาสบูรณะเลย ทำให้อาคาร กุฏิ ต้นไม้ รวมถึงสภาพแวดล้อมโดยรวมมีต้นไม้พงหญ้าขึ้นรกมาก จนทำให้ดูทึบ และไม่เหมาะสำหรับเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม ขณะที่เจ้าอาวาสให้เหตุผลว่า ไม่อยากวุ่นวาย กระทั่งล่าสุด เมื่อสัปดาห์ก่อนหน้านี้ได้มีสมาชิกสภา อบต.ทุ่งค่ายคนหนึ่งเสียชีวิตลง แต่เจ้าอาวาสกลับไม่ยอมให้มีการตั้งศพภายในวัด ทั้งๆ ที่เป็นวัดใกล้บ้านที่สุด และตลอดเวลาที่ผ่านมา อบต.คนดังกล่าวมีชีวิตอยู่ก็ทำงานช่วยเหลือวัดมาโดยตลอด ทำให้ชาวบ้านรู้สึกรับไม่ได้ต่อเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น จึงประชุมร่วมกันในครั้งนี้เพื่อหาทางออกร่วมกัน
ทั้งนี้ หลังจากใช้เวลาหารือร่วมกันกับทุกฝ่ายกว่า 3 ชั่วโมง โดยมี พระโชคดี ถาวโร เจ้าอาวาสวัดคลองลำเลียง ร่วมรับฟังด้วย ปรากฏว่า ที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ 4 ข้อหลักๆ ซึ่งให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยเรื่องการปกครองและอำนาจหน้าที่เจ้าอาวาส ตามมาตรา 37 คือ 1.ให้บำรุงรักษาวัด จัดกิจกรรมและศาสนสมบัติของวัดให้เป็นไปด้วยดี 2.ให้ปกครองและสอดส่องให้บรรพชิต และคฤหัสถ์ที่มีที่อยู่ หรือพำนักอาศัยอยู่ในวัดนั้นปฏิบัติตามพระธรรมวินัย กฎหมายมหาเถรสมาคม ข้อบังคับ ระเบียบ หรือคำสั่งของมหาเถรสมาคม 3.ให้เป็นธุระในการศึกษาอบรมและสั่งสอนพระธรรมวินัยแก่บรรพชิต และคฤหัสถ์ และ 4.ให้ความสะดวกตามความสมควรในการบำเพ็ญกุศล โดยให้ทำเป็นบันทึกข้อตกลงร่วมกันระหว่างตัวแทนของชาวบ้าน และเจ้าอาวาสวัดคลองลำเลียง
อย่างไรก็ตาม ผลจากการประชุมร่วมกันในครั้งนี้ พระโชคดี ถาวรโร จึงได้ขอลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดคลองลำเลียง โดยทันที แต่ยังคงพำนักอยู่ที่สำนักสงฆ์คลองลำเลียง ซึ่งอยู่ห่างจากวัดประมาณ 500 เมตร ซึ่งหลังจากนี้ทางผู้นำชุมชนจะหารือกับผู้เกี่ยวข้อง เพื่อเสนอไปยังเจ้าคณะอำเภอย่านตาขาว ให้สรรหาพระที่มีความเหมาะสมมารับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดแห่งนี้ต่อไป
ขณะที่อดีตเจ้าอาวาสวัดคลองลำเลียง กล่าวว่า ตนลาออกด้วยความสมัครใจ ไม่มีใครบังคับ หรือกดดันอะไร ทุกฝ่ายคุยกัน และจบกันด้วยดี ตนเองเข้าใจและคิดว่าเมื่อมีพระท่านอื่นมาดูแลวัดและสำนักสงฆ์แทนตนก็อาจจะทำได้ดีกว่า โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้รู้ว่า มีสติบนความไม่ประมาท ก็จะทำให้เจริญทั้งตัวเอง และผู้อื่น
