ชุมพร - เปิดใจพ่อบุญธรรม ซึ่งเป็นลุงแท้ๆ เลี้ยง มิสแกรนด์อุทัยธานี มาตั้งแต่เกิดได้ 4 วัน เผยเรียกพ่อทุกคำ รักเหมือนลูก พ่อแม่แยกทาง ต้องสู้ชีวิตมาตลอด จนก้าวไปถึงดวงดาวได้แสดงละครไกรทอง แต่ต้องมาใจสลาย หลังรับตำแหน่ง 4 วัน มาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตกะทันหัน ก่อนเกิดอุบัติเหตุเอามงกุฎกลับบ้านเหมือนมาอำลา ถ่ายภาพคู่กันเป็นครั้งสุดท้าย ขณะที่ศพญาตินำกลับมาทำบุญที่วัดบ้านเกิดในชนบทชายแดนที่ชุมพร
เมื่อเวลา 18.30 น.วานนี้ (1 มิ.ย.) ที่วัดประชานิคม หมู่ 6 ตำบลคุริง อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ซึ่งเป็นหมู่บ้านชนบทห่างไกลเมือง อยู่ใกล้กับชายแดนไทย-พม่า เป็นสถานที่ตั้งบำเพ็ญศพ ของ น.ส.รัตนา รามจาตุ หรือเฟี๊ยส อายุ 19 ปี ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ตกร่องกลางถนนบริเวณถนนเพชรเกษมขาขึ้น ช่วงหลัก กม.ที่ 344-245 บ้านต้นกระโดน ตำบลทับสะแก อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อตอนเช้าวันที่ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมา
โดยบรรยากาศที่วัดดังกล่าวเป็นไปด้วยความเศร้าโศกเสียใจของบรรดาญาติพี่น้อง โดยเฉพาะลุง หรือพ่อบุญธรรม ที่เลี้ยงดูมาตั้งแต่อายุได้แค่ 4 วัน รวมทั้งเพื่อนสนิทที่มาร่วมรดน้ำศพ และนำศพบรรจุใส่โลง ภายในศาลาวัดเพื่อบำเพ็ญกุศลศพ
นายวิชาญ พาหาสิงห์ อายุ 50 ปี ผู้เป็นลุง และพ่อบุญธรรม กล่าวว่า อดีตตนเคยเป็นนักร้องก่อนเวลาของวงดนตรีลูกทุ่งชื่อดังหลายคณะ ปัจจุบัน ยึดอาชีพทำสวนปาล์ม และเป็นนักจัดรายการวิทยุชุมชน รู้สึกเสียใจอย่างมาก ซึ่ง น.ส.รัตนา รามจาตุ คนในหมู่บ้าน และเพื่อนจะเรียกชื่อเล่นว่า “กระต่าย” ส่วนในวงการประกวดเรียกชื่อว่า “เฟี๊ยส” เป็นหลานแท้ๆ ที่เกิดจากน้องสาวของตน
ซึ่งตนได้นำมาเลี้ยงตั้งแต่แบเบาะหลังเกิดได้ 4 วัน ปัจจุบันพ่อแม่ได้แยกทางกันนานแล้ว แม่น้องกระต่ายไ ปทำงานอยู่กรุงเทพฯ นานๆ จะกลับมาบ้าน ส่วนผู้เป็นพ่อได้กลับไปอยู่ จ.ขอนแก่น โดยน้องกระต่าย เรียกตนว่าพ่อทุกคำ เป็นคนดี นิสัยอ่อนโยน น่ารัก ต่อสู้ชีวิตมาตลอดไม่เคยย่อท้อ เป็นคนร้องเพลงเพราะ ที่ผ่านมา ประกวดร้องเพลง และประกวดนางงามได้รางวัลมามากมาย
นายวิชาญ กล่าวต่อว่า น้องกระต่าย ประกวดได้รางวัลมิสแกรนด์อุทัยธานี เพียง 4 วัน หลังทำกิจกรรมประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวให้แก่จังหวัดอุทันธานีเสร็จแล้ว รีบเดินทางกลับบ้านมาหาตนที่บ้านเพื่อเอามงกุฎ และรางวัลกลับมาให้ตนชื่นชมในความสำเร็จ และไปไหว้ครูประจำชั้นประถมศึกษาในหมู่บ้าน ซื้อขนมไปแจกเด็กนักเรียน ไปเยี่ยมผู้สูงอายุลุงป้าน้าอา ญาติพี่น้อง และ เพื่อนๆ
ทุกคนในหมู่บ้านจะรู้จัก และรักน้องกระต่าย กันทุกคน จากนั้นได้พาตนไปไหว้เสด็จในกรมหลวงชุมพร ที่หาดทรายรี อ.เมืองชุมพร ไหว้พระไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ถ่ายภาพคู่กันที่ชายหาด พร้อมกับสายสะพาย และสวมมงกุฎ โพสต์ และไลฟ์สดทางเฟซบุ๊ก ซึ่งก่อนตายก็ไม่มีลางบอกเหตุอะไร เพราะปกติน้องกระต่าย ซึ่งตนรักเหมือนลูกก็จะหอมกอดกันเป็นประจำอยู่แล้ว
น้องกระต่าย เรียนจบชั้น ม.6 กลับมาบ้านหนนี้ได้มาเตรียมเอกสารเพื่อจะไปสมัครเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยที่กรงเทพฯ และทำเรื่องขอกู้เงินเรียน แล้วบอกแก่ตนว่า จะจองตั๋วเครื่องบินในตนขึ้นไปกรุงเทพฯ ในวันที่ 8 ก.ค.นี้ เพื่อให้ไปเป็นกำลังใจที่กองประกวดมิสแกรนต์ ในระดับประเทศ ซึ่งน้องกระต่าย กำลังเดินไปตามเส้นทางที่เขาฝัน และกำลังจะได้แสดงละครเรื่องไกรทอง รับบทเป็น “แก้วกัญญา” ซึ่งจะออกอากาศทางโทรทัศน์ดาวเทียมที่กำลังจะเปิดกล้องใน 2-3 สัปดาห์นี้ ตอนนี้ได้รับบทมาอ่านเตรียมตัวไว้แล้ว
นายวิชาญ กล่าวต่อว่า ก่อนเกิดเหตุช่วงเช้าประมาณ 6 โมง น้องกระต่าย ได้เดินทางกลับด้วยรถเก๋ง โดยมีเพื่อนเป็นคนขับ ก่อนขึ้นรถได้กอดหอมบอกว่าลูกไปก่อนนะ แล้วเดินขึ้นรถ แต่พอรถจะออกก็เปิดประตูเดินลงมาหอมมากอดตนอีกครั้ง แล้วบอกว่า ลูกไปก่อนนะแล้วมองไปที่บ้านโบกมือลาก่อนขึ้นรถกลับเข้ากรุงเทพฯ เพื่อไปทำกิจกรรมร่วมกับกองประกวด
จากนั้นผ่านไปราว 2 ชั่วโมง มีคนใช้โทรศัพท์ของน้องกระต่าย โทร.กลับมาหาเป็นเสียงผู้ชาย ตนรู้สึกใจไม่ดีคิดว่าต้องเกิดเหตุไม่ดีแน่ พร้อมกับแนะนำตัวเป็นตำรวจ บอกว่า น้องกระต่าย เกิดอุบัติเหตุให้รีบไปที่โรงพยาบาลทับสะแกด่วน แต่เมื่อตนไปถึงน้องกระต่าย ได้เสียชีวิตไปก่อนแล้ว
นายวิชาญ ผู้รัก “น้องกระต่าย” เหมือนลูกที่เลี้ยงดูมาแต่แบเบาะบอกด้วยน้ำตาคลอว่า “การกลับบ้านมาครั้งนี้เหมือนเป็นการเอามงกุฎกลับบ้านมาอำลา และถ่ายภาพคู่กันเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิต”
เมื่อเวลา 18.30 น.วานนี้ (1 มิ.ย.) ที่วัดประชานิคม หมู่ 6 ตำบลคุริง อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ซึ่งเป็นหมู่บ้านชนบทห่างไกลเมือง อยู่ใกล้กับชายแดนไทย-พม่า เป็นสถานที่ตั้งบำเพ็ญศพ ของ น.ส.รัตนา รามจาตุ หรือเฟี๊ยส อายุ 19 ปี ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ตกร่องกลางถนนบริเวณถนนเพชรเกษมขาขึ้น ช่วงหลัก กม.ที่ 344-245 บ้านต้นกระโดน ตำบลทับสะแก อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อตอนเช้าวันที่ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมา
โดยบรรยากาศที่วัดดังกล่าวเป็นไปด้วยความเศร้าโศกเสียใจของบรรดาญาติพี่น้อง โดยเฉพาะลุง หรือพ่อบุญธรรม ที่เลี้ยงดูมาตั้งแต่อายุได้แค่ 4 วัน รวมทั้งเพื่อนสนิทที่มาร่วมรดน้ำศพ และนำศพบรรจุใส่โลง ภายในศาลาวัดเพื่อบำเพ็ญกุศลศพ
นายวิชาญ พาหาสิงห์ อายุ 50 ปี ผู้เป็นลุง และพ่อบุญธรรม กล่าวว่า อดีตตนเคยเป็นนักร้องก่อนเวลาของวงดนตรีลูกทุ่งชื่อดังหลายคณะ ปัจจุบัน ยึดอาชีพทำสวนปาล์ม และเป็นนักจัดรายการวิทยุชุมชน รู้สึกเสียใจอย่างมาก ซึ่ง น.ส.รัตนา รามจาตุ คนในหมู่บ้าน และเพื่อนจะเรียกชื่อเล่นว่า “กระต่าย” ส่วนในวงการประกวดเรียกชื่อว่า “เฟี๊ยส” เป็นหลานแท้ๆ ที่เกิดจากน้องสาวของตน
ซึ่งตนได้นำมาเลี้ยงตั้งแต่แบเบาะหลังเกิดได้ 4 วัน ปัจจุบันพ่อแม่ได้แยกทางกันนานแล้ว แม่น้องกระต่ายไ ปทำงานอยู่กรุงเทพฯ นานๆ จะกลับมาบ้าน ส่วนผู้เป็นพ่อได้กลับไปอยู่ จ.ขอนแก่น โดยน้องกระต่าย เรียกตนว่าพ่อทุกคำ เป็นคนดี นิสัยอ่อนโยน น่ารัก ต่อสู้ชีวิตมาตลอดไม่เคยย่อท้อ เป็นคนร้องเพลงเพราะ ที่ผ่านมา ประกวดร้องเพลง และประกวดนางงามได้รางวัลมามากมาย
นายวิชาญ กล่าวต่อว่า น้องกระต่าย ประกวดได้รางวัลมิสแกรนด์อุทัยธานี เพียง 4 วัน หลังทำกิจกรรมประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวให้แก่จังหวัดอุทันธานีเสร็จแล้ว รีบเดินทางกลับบ้านมาหาตนที่บ้านเพื่อเอามงกุฎ และรางวัลกลับมาให้ตนชื่นชมในความสำเร็จ และไปไหว้ครูประจำชั้นประถมศึกษาในหมู่บ้าน ซื้อขนมไปแจกเด็กนักเรียน ไปเยี่ยมผู้สูงอายุลุงป้าน้าอา ญาติพี่น้อง และ เพื่อนๆ
ทุกคนในหมู่บ้านจะรู้จัก และรักน้องกระต่าย กันทุกคน จากนั้นได้พาตนไปไหว้เสด็จในกรมหลวงชุมพร ที่หาดทรายรี อ.เมืองชุมพร ไหว้พระไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ถ่ายภาพคู่กันที่ชายหาด พร้อมกับสายสะพาย และสวมมงกุฎ โพสต์ และไลฟ์สดทางเฟซบุ๊ก ซึ่งก่อนตายก็ไม่มีลางบอกเหตุอะไร เพราะปกติน้องกระต่าย ซึ่งตนรักเหมือนลูกก็จะหอมกอดกันเป็นประจำอยู่แล้ว
น้องกระต่าย เรียนจบชั้น ม.6 กลับมาบ้านหนนี้ได้มาเตรียมเอกสารเพื่อจะไปสมัครเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยที่กรงเทพฯ และทำเรื่องขอกู้เงินเรียน แล้วบอกแก่ตนว่า จะจองตั๋วเครื่องบินในตนขึ้นไปกรุงเทพฯ ในวันที่ 8 ก.ค.นี้ เพื่อให้ไปเป็นกำลังใจที่กองประกวดมิสแกรนต์ ในระดับประเทศ ซึ่งน้องกระต่าย กำลังเดินไปตามเส้นทางที่เขาฝัน และกำลังจะได้แสดงละครเรื่องไกรทอง รับบทเป็น “แก้วกัญญา” ซึ่งจะออกอากาศทางโทรทัศน์ดาวเทียมที่กำลังจะเปิดกล้องใน 2-3 สัปดาห์นี้ ตอนนี้ได้รับบทมาอ่านเตรียมตัวไว้แล้ว
นายวิชาญ กล่าวต่อว่า ก่อนเกิดเหตุช่วงเช้าประมาณ 6 โมง น้องกระต่าย ได้เดินทางกลับด้วยรถเก๋ง โดยมีเพื่อนเป็นคนขับ ก่อนขึ้นรถได้กอดหอมบอกว่าลูกไปก่อนนะ แล้วเดินขึ้นรถ แต่พอรถจะออกก็เปิดประตูเดินลงมาหอมมากอดตนอีกครั้ง แล้วบอกว่า ลูกไปก่อนนะแล้วมองไปที่บ้านโบกมือลาก่อนขึ้นรถกลับเข้ากรุงเทพฯ เพื่อไปทำกิจกรรมร่วมกับกองประกวด
จากนั้นผ่านไปราว 2 ชั่วโมง มีคนใช้โทรศัพท์ของน้องกระต่าย โทร.กลับมาหาเป็นเสียงผู้ชาย ตนรู้สึกใจไม่ดีคิดว่าต้องเกิดเหตุไม่ดีแน่ พร้อมกับแนะนำตัวเป็นตำรวจ บอกว่า น้องกระต่าย เกิดอุบัติเหตุให้รีบไปที่โรงพยาบาลทับสะแกด่วน แต่เมื่อตนไปถึงน้องกระต่าย ได้เสียชีวิตไปก่อนแล้ว
นายวิชาญ ผู้รัก “น้องกระต่าย” เหมือนลูกที่เลี้ยงดูมาแต่แบเบาะบอกด้วยน้ำตาคลอว่า “การกลับบ้านมาครั้งนี้เหมือนเป็นการเอามงกุฎกลับบ้านมาอำลา และถ่ายภาพคู่กันเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิต”