xs
xsm
sm
md
lg

(ชมคลิป) “ออน ชิชญาสุ์” เคลียร์ประเด็นเหน็บ “น้ำตาล” เห็บหมา?! พูดชัด ห้ามนางงามมี ผจก.สิทธิ์ขาดเป็นของกองประกวด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“ออน ชิชญาสุ์” แจงโพสต์ “วงจรชีวิตเห็บหมา” ไม่ได้เหน็บ “น้ำตาล ชลิตา” บอกคนเอาเรื่องมาโยงกันเอง ลั่นตามกฎไม่อนุญาตให้นางงามมี ผจก. ส่วนตัว สิทธิ์ขาดในการดูแลเป็นของกองประกวด แต่ในกรณีน้ำตาลแค่อะลุ่มอล่วยให้ รับ ผจก. อีกฝ่ายทำให้กองประกวดทำงานลำบาก ปีหน้าจะคุมเรื่องนี้ให้เข้มขึ้น



ทำเอาวงการขาอ่อนระอุ เกี่ยวกับกรณีที่ก่อนหน้านี้ ผู้จัดการกองประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ “ออน ชิชญาสุ์ กรรณสูต” โพสต์แซ่บในเฟซบุ๊ก ว่า “ช่วงนี้กำลังศึกษาวงจรชีวิตเห็บหมา แบ่งปันข้อมูลกันได้นะ” จนถูกตีความว่าเป็นการแขวะ “น้ำตาล ชลิตา ส่วนเสน่ห์” เพราะในขณะนั้นน้ำตาลกำลังมีข่าวมีปัญหากับทางกองประกวด ทั้งเรื่องที่ว่าเจ้าตัวแอบรับงานเองโดยไม่บอกทางกองประกวด รวมไปถึงปัญหาเรื่องเงินๆ ทองๆ งานนี้เลยโดนโยงไปเต็มๆ ก่อนที่ในภายหลังทางฝ่ายของ “ออน ชิชญาสุ์” จะลบโพสต์นั้นทิ้งไป

ล่าสุด เป็นครั้งแรกที่ทั้งคู่ได้เปิดปากให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับประเด็นฉาวที่เกิดขึ้นพร้อมกัน ในงานแถลงข่าวการจัดการประกวด มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2017 ณ อาคารมาลีนนท์ 2 ช่อง 3 โดยยืนยันว่า คนมโนกันไปเองและนำเรื่องมาโยงกันเอง วอนอย่าทำให้ต้องแตกแยก พร้อมเผยจริงๆ ตนไม่ได้ลบโพสต์ดังกล่าวทิ้งแต่อย่างใด

ออน : “จริงๆ มันก็ยังอยู่นะ เรายังไม่ได้ลบ (โพสต์วงจรชีวิตเห็บหมา) มันเป็นการคุยเล่นกับเพื่อน แต่ที่เป็นข่าวมันเป็นเรื่องของเจตนาของคนที่แคปไปแล้วไปโพสต์ ซึ่งเขาพยายามปิดบังชื่อคนโพสต์ จริงๆ แล้วไม่ได้เกี่ยวกับแก้ม (กวินตรา โพธิจักร) เลย แต่คนก็พยายามจะโยงให้เป็นประเด็น บอกตรงนี้เลยว่าไม่เกี่ยวกับแก้ม เชื่อว่า น้ำตาลเห็นก็ต้องรู้ว่าเข้าไปดูแล้วคนที่พูดถึงคือใคร”

“มันเป็นเรื่องของการตีความของคนมากกว่า แล้วก็เรื่องของเจตนาของคนที่เอามาเป็นข่าวมากกว่า ก็ควรจะไตร่ตรองกันนิดหนึ่ง อย่าทำให้เป็นข่าวให้เป็นประเด็นให้คนแตกแยกกันโดยไม่จำเป็น เราอยู่วงการมาเราเข้าใจถึงความลำบากใจของคนที่ถูกถาม การที่จะทำให้คนเข้าใจได้มันเป็นเรื่องที่เซ้นซีทีป มันไม่ใช่กระทบแค่กับตัวน้อง แต่กระทบกับครอบครัวและทุกๆ คน รวมถึงเวทีเราเองเราก็ต้องรักษาชื่อเสียงของเราเหมือนกัน มันเป็นเรื่องของความเชื่อและไม่เชื่อของคนมากกว่าว่าจะเลือกเสพอะไร มันเป็นเรื่องความคิดคน”

บอกพาดพิง ผจก.เป็นการตีความของแต่ละคน ไม่สนใจ ขอโฟกัสอนาคตดีกว่า
ออน : “มันเป็นเรื่องของการตีความของแต่ละคน อาจจะไปได้ยินอะไรมา มันก็เป็นเรื่องของความชอบและไม่ชอบของคน อย่าไปสนใจตรงนั้นเลย เราโฟกัสเรื่องของงานในอนาคตที่เราจะทำมากกว่า ที่ถูกจับตามองว่าความสัมพันธ์ระหว่างน้ำตาลกับกองประกวดไม่เหมือนเดิม ไม่ค่อยคุยกัน มันก็ไม่ได้มีงานที่เราจะต้องออก เราก็ยังต้องทำงานร่วมกัน เราก็ต้องดูแลน้องต่อไปในเรื่องของงาน มันไม่มีความจำเป็นที่จะต้องทะเลาะกันยังไงเราก็ต้องอยู่ด้วยกัน คนที่มาถามเรื่องนี่ส่วนใหญ่จะไม่ใช่คนใกล้ตัวเรา คนใกล้ตัวเราเขาจะรู้ดีว่าอะไรเป็นอะไร”

ลั่นคนมโนไปเอง น้ำตาลฉีกสัญญา ชี้อีกฝ่ายต้องอยู่จนครบวาระตำแหน่ง
ออน : “น้องก็ต้องอยู่จนครบวาระตำแหน่ง เรื่องของการแสดงนี่ขึ้นอยู่กับตัวน้องเองว่าจะเลือกเส้นทางของน้องยังไง แล้วแต่ความสมัครใจของเขา ซึ่งเราคุยกับทางคุณแม่แล้ว เขาก็อยากให้น้องกลับไปเรียนหนังสือ เดี๋ยวก็คงต้องคุยกันอีกที ถ้ามีงานแสดงติดต่อมาเราก็คงจะพิจารณาบทควบคู่ไปกับการเรียนดูอีกที เรื่องฉีกสัญญาก็ไม่รู้ว่ามันมาจากไหน เป็นเรื่องที่คนมโนกันเองมากกว่า การทำงานร่วมกันมันก็เป็นธรรมดาที่จะเข้าใจผิดกันบ้างแต่เดี๋ยวสุดท้ายเราก็ต้องคุยกันอยู่ดี เพราะเรายังต้องทำงานร่วมกัน น้องเองก็ใหม่กับวงการ ใครๆ ก็สนใจน้อง ก็เป็นเรื่องของการให้ความสนใจ และการตีความกันไปเองมากกว่า พอมีข่าวเราก็คุยกัน คุยกับพ่อแม่น้องด้วย”

ขอกำลังใจจากน้ำตาล อย่าทำให้เป็นประเด็นอะไรอีกเลย
ออน : “นี่ก็ขอกำลังใจจากน้องเหมือนกันว่าช่วยๆ กันเถอะ อย่าให้มันเป็นประเด็นอะไรกันเลย (ออกอีเวนต์ไม่ปฏิบัติภารกิจ?) ภารกิจของน้องทำเสร็จไปแล้วคือการไปประกวดมิสยูนิเวิร์ส ซึ่งน้องได้ทำบรรลุเป้าหมายไปแล้ว ส่วนที่เหลืออย่างอีเวนต์ก็เป็นเรื่องของงานจ้างที่น้องไปทำตามว่าจ้าง”

น้ำตาล : “ถามว่าสบายใจขึ้นมั้ย ตาลไม่ได้อะไรมากมายค่ะ ทำหน้าที่ของตัวเอง ทำงานในทุกๆ วันอย่างตั้งใจ พี่ออนก็มาอยู่ตรงนี้แล้วไง เราทำงานด้วยกันได้ค่ะ ไม่ได้มีปัญหาอะไร ตาลเคลียร์นะคะ (หัวเราะ)”

ออน : “มันอยู่ที่คนตั้งประเด็นขึ้นมามากกว่าว่ายังไง”

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวบันเทิง MGR Online ได้ขอสัมภาษณ์ผู้จัดการกองประกวดเพิ่มเติม ซึ่งอีกฝ่ายก็เผยว่า จริงๆ แล้วน้ำตาลเป็นเด็กที่มีความตั้งใจ และรู้หน้าที่ ถ้าจะมีอะไรที่ผิดพลาดเพราะยังเด็ก ประสบการณ์ชีวิตจะช่วยสอนอีกฝ่ายเอง
“น้ำตาลเป็นเด็กที่ตั้งใจ มีความพยายาม รู้หน้าที่ของตัวเองว่าต้องทำอะไร เขามีเป้าหมายชัดเจน น้องยังมีความเป็นเด็กแหละ มันก็จะมีเรื่องของความผิดพลาดบ้างด้วยความที่เขายังเด็ก แต่น้องเองก็เป็นเด็กที่มีความรับผิดชอบ เรามองตรงนี้มากกว่า อายุขนาดนี้เราจะไปคาดหวังอะไรมาก ถ้าเขารู้หน้าที่ รับผิดชอบ ทำหน้าที่ตัวเองนี่ก็ดีที่สุดแล้ว เขาทำหน้าที่จนเขาได้ตำแหน่งเรียบร้อยแล้ว ที่เหลือมันเป็นการประคองชีวิตของเขาเอง อย่างเจอน้องๆ รุ่นเก่า เขาก็จะพูดว่าสมัยนั้นหนูยังเด็กอยู่เลยเนอะ ตอนนี้เขาก็เปลี่ยนไป ประสบการณ์จะช่วยสอนคนได้”

ชี้เป๋เพราะยังใหม่ ตกเป็นข่าวเหวี่ยง ชักสีหน้า เพราะคนคาดหวังว่านางงามจะต้องสวย ยิ้มแย้ม พูดเก่ง แต่อีกฝ่ายแค่นิ่ง
อะไรที่เข้ามาใหม่มันทำให้ชีวิตเราเป๋อยู่แล้ว มันอาจจะไม่เปลี่ยนไปเลยแต่มันเป็นเรื่องของการปรับตัว น้องเองก็โดนข่าวเรื่องของทำหน้าเหวี่ยง เรื่องชักสีหน้า ซึ่งบางทีเราไม่รู้หรอก น้องอาจจะเป็นคนหน้าอย่างนี้อยู่แล้วก็ได้ น้องอาจจะเหนื่อย มีเรื่องไม่ค่อยสบายใจ มันเป็นเรื่องของคนที่จับจ้องพอน้องมีชื่อเสียง มันเป็นเรื่องของความคาดหวังของคน”

“ทีมกองฯที่อยู่กับน้องเราก็ให้เขาสังเกตการณ์ มีบอกน้องบ้างว่าหน้าบึ้งแล้วนะ น้องเขาไม่ได้เพิ่งจะมาเป็น เขาเป็นของเขาแบบนี้มานานแล้ว บางทีอาจจะทำอะไรไม่ถูก เราก็พยายามให้น้องออกมามีภาพลักษณ์ที่ดี แล้วเราเชื่อว่าน้องเองก็อยากมีภาพลักษณ์ที่ดี แต่ชื่อเสียงกับชื่อเสียมันก็มาพร้อมๆ กันแหละ มันเป็นเรื่องของความคาดหวังของคน คนอาจจะติดภาพน้องสวย ยิ้มแย้ม พูดเก่ง แต่พอมาเจอตัวจริงที่เขาเป็นคนนิ่งๆ คนก็ไปคาดหวังกับภาพจำที่เห็นไปแล้ว เรื่องที่คนมองเขาไม่ดีหลายอย่าง ก็ไม่รู้จะบอกยังไงนะจริงๆ แล้ว”

ลั่นไม่อนุญาตให้นางงามมี ผจก. ส่วนกรณีที่อีกฝ่ายมีผจก. ทำให้ทำงานลำบาก เพราะถ้าพูดตามหลักสิทธิ์ขาดนั้นต้องเป็นของกองประกวด อ้างสิทธิ์ไม่ได้
“ทำให้เราทำงานลำบากค่ะ จริงๆ ถ้าพูดตามหลักที่ถูกต้องสิทธิ์ขาดในการดูแลต้องเป็นของทางกองประกวด ถ้าจะเป็นเรื่องของผู้จัดการส่วนตัวคุณเก็บไว้ก่อนดีกว่า คุณจะเป็นผู้มีพระคุณ มีบุญคุณอะไรก็ตามแต่ว่าเมื่อคุณเข้ามาอยู่ในกองประกวดแล้วสิทธิ์ขาดยังไงก็ต้องเป็นของทางกองประกวด จะมาอ้างสิทธิ์อะไรไม่ได้ จะมาอ้างว่าไม่เคยเห็นสัญญาไม่ได้เพราะมันชัดเจนมาตั้งแต่ต้น เรื่องผลประโยชน์มันแน่นอน เราทำธุรกิจเราต้องมีผลประโยชน์ แต่ว่ามันเป็นผลประโยชน์ที่คุณยอมรับมาตั้งแต่ต้นรึเปล่า ทางกองประกวดได้รับผลประโยชน์เราก็ลงทุนในการทำธุรกิจ แต่มันก็เป็นเรื่องที่เราอะลุ่มอะล่วยได้ ทุกอย่างมันสามารถคุยกันได้ถ้ามันคุยนะ”

“โดยความจริงแล้วเราไม่ได้อนุญาตให้มีผู้จัดการส่วนตัว คุณดูแลกันได้ แต่คุณเป็นได้แค่พี่เลี้ยง คนใกล้ชิด แต่ถ้าคุณจะมาใช้สิทธิ์คำว่าผู้จัดการมันเป็นไปไม่ได้ถ้าน้องยังอยู่ในสัญญาของทางกองประกวด ทุกวันนี้จริงๆ เราก็ไม่ได้ยินยอมนะ แต่เราก็อะลุ่มอะล่วยให้ เขาเองก็รับรู้แต่ต้นว่ามันมีไม่ได้ ทุกอย่างมันผ่านมาแล้ว ก็ช่างมันไป”

บอกปีหน้าจะตัดปัญหาด้วยการห้ามไม่ให้นางงามมี ผจก. หรือไม่ ขอดูเป็นกรณีๆ ไป ต่อไปจะเข้มขึ้น
“ก็ดูเป็นกรณีไปค่ะ เราก็มีเส้นของเรา เรามีเส้นที่ชัดเจน ต่อไปเราก็คงจะเข้มข้นขึ้น ข่าวที่ออกมาเราเองก็เซอร์ไพรส์นะไม่ใช่แค่คนอื่น (หัวเราะ) แต่บางเรื่องเราก็เกินที่จะไปยุ่ง อย่าไปตอแยดีกว่า”

ถามว่า เรายังมองหน้าเขาสนิทใจมั้ย ทั้งน้ำตาลทั้งผู้จัดการ เรามองไปข้างหน้ามากกว่า น้องทำหน้าที่น้องให้ดีที่สุด น้องทำหน้าที่จบแล้วแต่เราไม่สามารถดูแลน้องได้ไปตลอดชีวิต เราพูดกับเขาเสมอว่าคุณน้องดูแลตัวเอง ประคับประคองชีวิตตัวเองดีๆ ไม่ใช่เฉพาะน้อง แต่ทุกคนต้องรักษาเกียรติที่เราให้ มงกุฎคือเกียรติยศสำหรับชีวิตคุณแล้ว คูณต้องรักษาเกียรติยศตรงนี้ไว้ สิ่งที่เราทำเราอยากจะสร้างไอดอลผู้หญิงคนหนึ่งให้กับคนรุ่นหลัง อย่างหนูอยากเป็นแบบพี่ปุ๋ย (ภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก) ที่ทุกวันนี้พอพูดถึงชื่อพี่ปุ๋ยก็จะคิดถึงว่าพี่ปุ๋ยรักเด็ก เราอยากจะสร้างแบบนี้ ให้เป็นตัวอย่างที่ดีต่อๆ ไป”

กำลังโหลดความคิดเห็น