ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เจ๋งจริง! ไรจริง!อาจารย์ราชภัฏภูเก็ต ขึ้นทำเนียบนักประดิษฐ์ของสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) หลังคิดค้น ชุดผลิตกระแสไฟฟ้าจากคอมเพรซเซอร์แอร์ได้สำเร็จ ช่วยประหยัดไฟฟ้าได้มหาศาล ขณะที่ภาคเอกชนสนใจขอซื้อลิขสิทธิ์นำไปต่อยอด
ปัญหาเรื่องของค่าไฟฟ้าถือเป็นปัญหาสำคัญของหลายๆหน่วยงาน เช่นเดียวกับ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ที่มีอาคารสถานที่จำนวนหลายสิบหลัง พร้อมทั้งมีบุคลากร และนักศึกษากว่าหมื่นคน ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าที่มหาวิทยาลัยต้องจ่ายสูงถึงเดือนละ 1 ล้านบาท และจากการศึกษาวิจัย พบว่า เครื่องปรับอากาศที่มีอยู่จำนวน 1,200 เครื่อง เป็นองค์ประกอบหลักที่ทำให้สิ้นเปลืองการใช้พลังงาน
แต่ด้วยมหาวิทยาลัยเป็นศูนย์กลางแห่งการวิจัยและพัฒนา จึงมีการคิดค้น และศึกษาค้นคว้าประดิษฐ์เพื่อหาแนวทางในการประหยัดค่าใช้จ่ายให้เหลือน้อยที่สุด ในที่สุด “ดร.สุพัฒนชัย โพธิ์แก้ว” อาจารย์ประจำสาขาวิชาการพัฒนาชุมชน และรองคณบดีคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ม.ราชภัฏภูเก็ต ซึ่งเป็นผู้คร่ำหวอดในวงการพลังงานทดแทน ก็ได้คิดค้น “ชุดผลิตไฟฟ้าจากลมร้อนคอมเพรสเซอร์แอร์คอนดิชัน” ได้สำเร็จ จนถูกเลือกให้ติดทำเนียบนักประดิษฐ์ของสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) จากผลงานการคิดค้นและพัฒนาชุดนี้ไปด้วย
ดร.สุพัฒนชัย นักประดิษฐ์จากคณะมนุษยศาสตร์ฯ กล่าวถึงแนวคิดในการสร้างสรรค์ผลงาน ว่า สถานการณ์ด้านพลังงานของ ม.ราชภัฏภูเก็ต โดยเฉพาะการใช้พลังงานไฟฟ้าสูงขึ้นตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากโครงสร้างพื้นฐานที่ขยายตัว จึงเกิดโจทย์ในการแสวงหาพลังงานทดแทนเพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย พร้อมทั้งอนุรักษ์ทรัพยากรให้ได้มากที่สุด
ทั้งนี้ จากการสังเกตระบบระบายอากาศเครื่องคอมเพรสเซอร์แอร์ มีกังหันลมที่ทำหน้าที่พัดเอาความร้อนออกจากตัวเครื่อง ทั้งนี้ ทราบกันดีว่าพลังงานลม Wind Energy เป็นพลังงานทดแทนรูปแบบหนึ่งที่ไม่ก่อให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งพลังงานดังกล่าวสามารถนำมาใช้ในการผลิตไฟฟ้าได้ นับเป็นการใช้ประโยชน์จากพลังงานที่สูญเปล่า นำมาแปรเปลี่ยนให้เป็นพลังงานไฟฟ้า จึงได้คิดค้นชุดเครื่องมือขึ้นมาโดยนำพลังงานลมร้อนมาหมุนชุดกังหันลมที่ติดตั้งภายนอกคอมเพรสเซอร์เพื่อเปลี่ยนเป็นไฟฟ้า
สำหรับชุดผลิตไฟฟ้าฯ สามารถดึงพลังงานลมจากคอมเพรสเซอร์แอร์ 1 เครื่องในขณะที่ใช้งาน เปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้าคิดเป็นหลอดไฟความสว่าง 3 วัตต์ ได้มากถึง 4 ดวง ซึ่งส่วนของมหาวิทยาลัย มีการเปิดแอร์ 1,200 เครื่อง ก็จะได้หลอดไฟส่องสว่างถึง 4,800 ดวง โดยไม่ต้องจ่ายค่าไฟเพิ่มเติม ซึ่งหากนำเครื่องมือไปติดตั้งทุกอาคารจะช่วยลดการใช้ไฟฟ้าได้อย่างมหาศาล
“สำหรับการพัฒนาของชุดผลิตไฟฟ้าเสร็จสมบูรณ์ ได้รับการรับรองด้านคุณภาพและประโยชน์ในการใช้งานได้จริงอย่างมีประสิทธิภาพ จาก วช. นอกจากนั้น ยังต้องการให้ชุมชนนำเครื่องมือชิ้นนี้ไปใช้เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายในครัวเรือน อีกทั้งเป็นการปลูกฝังค่านิยมในการลดการใช้พลังงาน และแสวงหาพลังงานทางเลือกมาใช้ทดแทน ซึ่งถือเป็นภารกิจของมหาวิทยาลัยในการบริการวิชาการ และพัฒนาท้องถิ่น”
ด้าน ผศ.ดร.ประภา กาหยี อธิการบดี ม.ราชภัฏภูเก็ต กล่าวชื่นชมถึงนวัตกรรมอันทรงคุณค่าชิ้นนี้ว่า มหาวิทยาลัยมียุทธศาสตร์ขับเคลื่อนองค์กรสู่การเป็น Green University ซึ่งประเด็นด้านพลังงานเป็นวาระเร่งด่วนในการดำเนินงาน จึงทำให้ผลงานประดิษฐ์ของ ดร.สุพัฒนชัย สามารถตอบโจทย์องค์กร และนำมาใช้งานได้โดยทันที สร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืน และเป็นแรงบันดาลใจให้แก่คณาจารย์ นักศึกษา
อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้มีสถาบันการศึกษาขอนำชุดผลิตไฟฟ้าฯ ไปติดตั้งในองค์กรเพื่อลดภาระค่าไฟฟ้า รวมถึงมีหน่วยงานภาคเอกชนติดต่อขอซื้อลิขสิทธิ์ทางปัญญาเพื่อนำไปต่อยอดในเชิงพาณิชย์ต่อไป จากความสำเร็จในครั้งนี้ช่วยตอกย้ำถึงภารกิจในการพัฒนาผลงานวิจัยสร้างสรรค์เพื่อยกระดับท้องถิ่นได้อย่างเป็นที่ประจักษ์
นอกจากสิ่งประดิษฐ์สุดชาญฉลาดที่เปลี่ยนพลังงานที่สิ้นเปลืองให้กลายเป็นพลังงานไฟฟ้าเกิดประโยชน์อย่างน่าทึ่งแล้ว มหาวิทยาลัยยังได้นำหลักการไปบูรณาการร่วมกับการเรียนการสอนเพื่อสร้างทักษะ และองค์ความรู้ด้านพลังงานทดแทนให้แก่นักศึกษา และประชาชนได้ตระหนักถึงคุณค่าของพลังงานทดแทน
โดยมีเป้าหมายในการลดการใช้พลังงานในองค์กร ต่อเนื่องไปจนถึงระดับท้องถิ่น จังหวัด และระดับประเทศต่อไป เพราะว่า “พลังงานทดแทน จะช่วยให้ประเทศชาติไปรอดได้ในวิกฤตพลังงาน และพึ่งตนเองได้อย่างยั่งยืน ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง”
สำหรับผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลจาก ดร.สุพัฒนชัย โพธิ์แก้ว โทร.08-7213-6122 หรืออีเมล poolom99@gmail.com ได้
ปัญหาเรื่องของค่าไฟฟ้าถือเป็นปัญหาสำคัญของหลายๆหน่วยงาน เช่นเดียวกับ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ที่มีอาคารสถานที่จำนวนหลายสิบหลัง พร้อมทั้งมีบุคลากร และนักศึกษากว่าหมื่นคน ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าที่มหาวิทยาลัยต้องจ่ายสูงถึงเดือนละ 1 ล้านบาท และจากการศึกษาวิจัย พบว่า เครื่องปรับอากาศที่มีอยู่จำนวน 1,200 เครื่อง เป็นองค์ประกอบหลักที่ทำให้สิ้นเปลืองการใช้พลังงาน
แต่ด้วยมหาวิทยาลัยเป็นศูนย์กลางแห่งการวิจัยและพัฒนา จึงมีการคิดค้น และศึกษาค้นคว้าประดิษฐ์เพื่อหาแนวทางในการประหยัดค่าใช้จ่ายให้เหลือน้อยที่สุด ในที่สุด “ดร.สุพัฒนชัย โพธิ์แก้ว” อาจารย์ประจำสาขาวิชาการพัฒนาชุมชน และรองคณบดีคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ม.ราชภัฏภูเก็ต ซึ่งเป็นผู้คร่ำหวอดในวงการพลังงานทดแทน ก็ได้คิดค้น “ชุดผลิตไฟฟ้าจากลมร้อนคอมเพรสเซอร์แอร์คอนดิชัน” ได้สำเร็จ จนถูกเลือกให้ติดทำเนียบนักประดิษฐ์ของสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) จากผลงานการคิดค้นและพัฒนาชุดนี้ไปด้วย
ดร.สุพัฒนชัย นักประดิษฐ์จากคณะมนุษยศาสตร์ฯ กล่าวถึงแนวคิดในการสร้างสรรค์ผลงาน ว่า สถานการณ์ด้านพลังงานของ ม.ราชภัฏภูเก็ต โดยเฉพาะการใช้พลังงานไฟฟ้าสูงขึ้นตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากโครงสร้างพื้นฐานที่ขยายตัว จึงเกิดโจทย์ในการแสวงหาพลังงานทดแทนเพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย พร้อมทั้งอนุรักษ์ทรัพยากรให้ได้มากที่สุด
ทั้งนี้ จากการสังเกตระบบระบายอากาศเครื่องคอมเพรสเซอร์แอร์ มีกังหันลมที่ทำหน้าที่พัดเอาความร้อนออกจากตัวเครื่อง ทั้งนี้ ทราบกันดีว่าพลังงานลม Wind Energy เป็นพลังงานทดแทนรูปแบบหนึ่งที่ไม่ก่อให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งพลังงานดังกล่าวสามารถนำมาใช้ในการผลิตไฟฟ้าได้ นับเป็นการใช้ประโยชน์จากพลังงานที่สูญเปล่า นำมาแปรเปลี่ยนให้เป็นพลังงานไฟฟ้า จึงได้คิดค้นชุดเครื่องมือขึ้นมาโดยนำพลังงานลมร้อนมาหมุนชุดกังหันลมที่ติดตั้งภายนอกคอมเพรสเซอร์เพื่อเปลี่ยนเป็นไฟฟ้า
สำหรับชุดผลิตไฟฟ้าฯ สามารถดึงพลังงานลมจากคอมเพรสเซอร์แอร์ 1 เครื่องในขณะที่ใช้งาน เปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้าคิดเป็นหลอดไฟความสว่าง 3 วัตต์ ได้มากถึง 4 ดวง ซึ่งส่วนของมหาวิทยาลัย มีการเปิดแอร์ 1,200 เครื่อง ก็จะได้หลอดไฟส่องสว่างถึง 4,800 ดวง โดยไม่ต้องจ่ายค่าไฟเพิ่มเติม ซึ่งหากนำเครื่องมือไปติดตั้งทุกอาคารจะช่วยลดการใช้ไฟฟ้าได้อย่างมหาศาล
“สำหรับการพัฒนาของชุดผลิตไฟฟ้าเสร็จสมบูรณ์ ได้รับการรับรองด้านคุณภาพและประโยชน์ในการใช้งานได้จริงอย่างมีประสิทธิภาพ จาก วช. นอกจากนั้น ยังต้องการให้ชุมชนนำเครื่องมือชิ้นนี้ไปใช้เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายในครัวเรือน อีกทั้งเป็นการปลูกฝังค่านิยมในการลดการใช้พลังงาน และแสวงหาพลังงานทางเลือกมาใช้ทดแทน ซึ่งถือเป็นภารกิจของมหาวิทยาลัยในการบริการวิชาการ และพัฒนาท้องถิ่น”
ด้าน ผศ.ดร.ประภา กาหยี อธิการบดี ม.ราชภัฏภูเก็ต กล่าวชื่นชมถึงนวัตกรรมอันทรงคุณค่าชิ้นนี้ว่า มหาวิทยาลัยมียุทธศาสตร์ขับเคลื่อนองค์กรสู่การเป็น Green University ซึ่งประเด็นด้านพลังงานเป็นวาระเร่งด่วนในการดำเนินงาน จึงทำให้ผลงานประดิษฐ์ของ ดร.สุพัฒนชัย สามารถตอบโจทย์องค์กร และนำมาใช้งานได้โดยทันที สร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืน และเป็นแรงบันดาลใจให้แก่คณาจารย์ นักศึกษา
อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้มีสถาบันการศึกษาขอนำชุดผลิตไฟฟ้าฯ ไปติดตั้งในองค์กรเพื่อลดภาระค่าไฟฟ้า รวมถึงมีหน่วยงานภาคเอกชนติดต่อขอซื้อลิขสิทธิ์ทางปัญญาเพื่อนำไปต่อยอดในเชิงพาณิชย์ต่อไป จากความสำเร็จในครั้งนี้ช่วยตอกย้ำถึงภารกิจในการพัฒนาผลงานวิจัยสร้างสรรค์เพื่อยกระดับท้องถิ่นได้อย่างเป็นที่ประจักษ์
นอกจากสิ่งประดิษฐ์สุดชาญฉลาดที่เปลี่ยนพลังงานที่สิ้นเปลืองให้กลายเป็นพลังงานไฟฟ้าเกิดประโยชน์อย่างน่าทึ่งแล้ว มหาวิทยาลัยยังได้นำหลักการไปบูรณาการร่วมกับการเรียนการสอนเพื่อสร้างทักษะ และองค์ความรู้ด้านพลังงานทดแทนให้แก่นักศึกษา และประชาชนได้ตระหนักถึงคุณค่าของพลังงานทดแทน
โดยมีเป้าหมายในการลดการใช้พลังงานในองค์กร ต่อเนื่องไปจนถึงระดับท้องถิ่น จังหวัด และระดับประเทศต่อไป เพราะว่า “พลังงานทดแทน จะช่วยให้ประเทศชาติไปรอดได้ในวิกฤตพลังงาน และพึ่งตนเองได้อย่างยั่งยืน ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง”
สำหรับผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลจาก ดร.สุพัฒนชัย โพธิ์แก้ว โทร.08-7213-6122 หรืออีเมล poolom99@gmail.com ได้