xs
xsm
sm
md
lg

ตร.เผยข้อมูลจากวงจรปิด พบพิรุธผู้เสียหายเปลี่ยนป้ายทะเบียนรถก่อนขับออกจากปั๊มที่เกิดเหตุ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


 
ยะลา - ความคืบหน้ากรณีผู้เสียหายถูกตรวจค้นรถยนต์จากบุคคลที่อ้างตัวเป็น ตร.ภาค 9 ปฏิเสธให้ข้อมูลเพิ่มเติมต่อทางผู้สื่อข่าว ภายหลัง ตร.ภาค 9 เผยข้อมูลจากกล้องวงจรปิดภายในปั๊มน้ำมัน พบพิรุธผู้เสียหายปรับเปลี่ยนป้ายทะเบียนรถยนต์ ก่อนขับออกไปจากปั๊มที่เกิดเหตุ

วันนี้ (28 ธ.ค.) จากกรณีที่มีคลิปเหตุการณ์บุคคลอ้างตัวเป็นตำรวจภาค 9 ขอเข้าตรวจค้นบุคคล และรถยนต์ เหตุเกิดที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.แม่ขรี อ.ตะโหมด จ.พัทลุง และได้มีการแชร์ในสื่อออนไลน์กันเป็นวงกว้าง

ซึ่งภายหลัง รักษาราชการผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 พล.ต.ต.สาคร ทองมุณี ให้กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ออกแถลงการณ์ตอบโต้เหตุการณ์ดังกล่าวว่า เป็นการโพสต์ข้อความทำให้เกิดความเสียหายแก่องค์กร โดยทางตำรวจภูธรภาค 9 ขอยืนยันว่า บุคคลที่ปรากฏในคลิปนั้น ปัจจุบันเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ สังกัดตำรวจภูธรภาค 9 ตำแหน่งผู้บังคับหมู่งานป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจภูธรบางกล่ำ จ.สงขลา ส่วนบุคคลอีก 1 ราย คือ นายปราโมทย์ หนูสุวรรณ์ เจ้าหน้าที่บริษัทไฟแนนซ์ โดยบุคคลทั้ง 2 ปรากฏตัวอยู่ในคลิปภายในปั๊มน้ำมันดังกล่าว พบรถยนต์ต้องสงสัยซึ่งจอดอยู่ภายในปั๊มน้ำมัน จึงขอตรวจเอกสารผู้ขับขี่ และผู้โดยสารทั้ง 4 คน
 

 
ปรากฏว่า ได้เกิดการปะทะคารมกัน และมีการใช้โทรศัพท์มือถือบันภาพเอาไว้ ก่อนนำไปแชร์ต่อกันในสื่อสังคมออนไลน์ อย่างไรก็ตาม จากการรวบรวมพยานหลักฐาน โดยเฉพาะภาพจากกล้องวงจรปิดภายในปั๊มน้ำมัน ปรากฏว่า บุคคลทั้ง 2 ไม่มีพฤติกรรมยัดยาเสพติดอย่างเช่นผู้ที่โพสต์กล่าวหา และยังพบข้อมูลว่า บุคคลที่ถูกเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ ทราบชื่อแล้ว 2 ราย ประกอบด้วย น.ส.พวงพรรณ จงจิตร และนายนันธบุญ มีบุญ ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเชิญตัวมาให้ข้อเท็จจริง

นอกจากนี้ ภาพจากกล้องวงจรปิดภายในปั๊มน้ำมันยังพบว่า บุคคลที่กล่าวหามีการปรับเปลี่ยนป้ายทะเบียนรถยนต์คันดังกล่าวก่อนขับออกไปอีกด้วย ส่วนบุคคลที่นำคลิปวิดีโอไปแชร์ในสื่อสังคมออนไลน์ ทราบชื่อคือ นายนพพล ผลบุญ เคยถูกจับกุมคดียาเสพติด เมื่อปี 2554 ซึ่งศาลจังหวัดพัทลุง ตัดสินลงโทษจำคุก 8 เดือน ปรับ 15,000 บาท และโทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี
 

 
ซึ่งภายหลังการออกแถลงการณ์ตอบโต้จากตำรวจภูธรภาค 9 ผู้สื่อข่าวจึงได้โทรศัพท์สอบถามไปยังผู้เสียหายที่เคยได้ให้สัมภาษณ์ทางสื่อ และเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจ โดยผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่า ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในปั๊มน้ำมันภายหลังเกิดเหตุการณ์ ซึ่งพบว่า กลุ่มผู้เสียหายได้ทำการเปลี่ยนป้ายทะเบียนรถยนต์ของตนเอง ก่อนที่จะขับออกจากปั๊มน้ำมันไป และกรณีของผู้ที่โพสต์คลิป ทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบประวัติพบว่า เคยมีประวัติเกี่ยวข้องต่อยาเสพติดจริงหรือไม่

ทางผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้หญิงที่อยู่ร่วมเหตุการณ์ และปรากฏอยู่ภายในคลิปดังกล่าวนั้น ได้ปฏิเสธการให้ข้อมูลต่อผู้สื่อข่าว โดยบอกแต่เพียงว่า รับทราบความคืบหน้าจากข่าวแล้ว และจะยังไม่ขอให้ข้อมูลใดๆ ทั้งสิ้น พร้อมกับบอกว่าให้รอดูกันต่อไป

ทางผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า จากกรณีนี้ผู้เสียหายที่อ้างว่าจะถูกเจ้าหน้าที่ยัดยาเสพติด ไม่ประสงค์ที่จะเปิดเผยตัวตน และข้อมูล พร้อมกับสถานะทางการงานต่อผู้สื่อข่าว แม้แต่การสอบถามว่าจะเดินทางไปทำธุระที่ จ.ตรัง เพื่อไปทำอะไร โดยผู้เสียหายบอกเพียงว่า ไปทำธุระส่วนตัว ซึ่งทั้งนี้ หลังจากที่ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ไปสอบถามทางผู้เสียหายก็รับฟัง และไม่ให้ข้อมูลเพิ่มเติมอะไรอีก ก่อนที่จะวางสายไป
 


 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น