พังงา - วิศวกรหนุ่มอำเภอตะกั่วป่า ผันชีวิตยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ สร้างรายได้เดือนละครึ่งแสน
ผู้สื่อข่าวรายงายว่า วันนี้ (23 ธ.ค.) นายสมชาย บริพันธุ์ เกษตรจังหวัดพังงา นำหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่จังหวัดพังงา เยี่ยมชมแปลงผักไฮโดรโปนิกส์ ของนายปุรเชษฐ์ ทิพย์พิทักษ์ อายุ 34 ปี เกษตรกรในพื้นที่ หมู่ 6 ตำบลบางไทร อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา ซึ่งผันตัวเองจากหนุ่มวิศวกรมาปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ หรือผักไร้ดิน ทั้งกรีนโอ๊ค เรดโอ๊ค เรดคอรัล ร็อกเก็ต บัตเตอร์เฮด และคอส โดยใช้ระบบน้ำหยดมาประยุกต์ ใช้เพื่อลดระยะเวลาการเจริญเติบโตของผัก ใช้เวลาในการปลูก 45 วัน เก็บผลผลิตครั้งละ 50-60 กิโลกรัม ส่งให้โรงแรมภายในอำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา ซึ่งผักดังกล่าวเป็นผักสลัดที่ตลาดมีความต้องการสูง และมีราคาแพง โดยเฉพาะร็อกเก็ต กิโลกรัมละ 200 บาท สร้างรายได้มากกว่าเดือนละ 30,000-40,000 บาท
นายปุรเชษฐ์ กล่าวว่า หลังจากจบปริญญาตรีคณะวิศกรรมศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ก็ทำงานที่ได้เรียนมาอยู่ในกรุงเทพฯ เป็นเวลา 5 ปี แต่สุดท้ายต้องพาครอบครัวกลับบ้านเพราะทนแบกรับภาระหนี้สินไม่ไหว สำหรับการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์นั้นได้ศึกษาด้วยตนเอง จนประสบความสำเร็จ และในอนาคตจะขยายโรงเรือนเพิ่มขึ้น ซึ่งขณะนี้มีเพื่อนบ้านละแวกเดียวกันประสงค์จะปลูกด้วย นอกจากปลูกผักไฮโดรโปนิกส์แล้ว พื้นที่เหลือข้างบ้านยังใช้ปลูกมะลิเพื่อเก็บดอกมาร้อยมาลัยขายเป็นรายได้เสริมวันละประมาณ 1,000-1,200 บาท โดยทำเอง และขายเอง นอกจากนี้ ยังชวนญาติๆ ในหมู่บ้านปลูกผักสวนครัว เช่น แตงกวา พริกไทย รวมทั้งแตงโมปลูกแซมในสวนปาล์มด้วย
ด้าน นายสมชาย บริพันธุ์ เกษตรจังหวัดพังงา กล่าวว่า เกษตรกรตำบลบางไทร อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา ส่วนใหญ่ยึดหลักพอเพียงในการดำเนินชีวิตประจำวัน เพราะนอกจากการทำสวนยางพารา และปาล์มน้ำมันแล้ว ยังปลูกพืชอื่นร่วมด้วย เช่น แตงโม พริกชีขาว แตงกวา และบางส่วนยังนำแนวคิดทฤษฎีใหม่มาใช้ในแปลงเกษตรด้วย คือ การแบ่งส่วนพื้นที่ เลี้ยงสัตว์ เลี้ยงปลาในบ่อ และในอนาคตจะมีแปลงสาธิตการปลูกข้าวด้วย ทั้งนี้ สำนักงานเกษตรจังหวัดพังงา พร้อมให้การสนับสนุนงบประมาณในทุกด้านขึ้นอยู่กับความต้องการของพี่น้องชาวเกษตรกรในแต่ละพื้นที่ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงายว่า วันนี้ (23 ธ.ค.) นายสมชาย บริพันธุ์ เกษตรจังหวัดพังงา นำหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่จังหวัดพังงา เยี่ยมชมแปลงผักไฮโดรโปนิกส์ ของนายปุรเชษฐ์ ทิพย์พิทักษ์ อายุ 34 ปี เกษตรกรในพื้นที่ หมู่ 6 ตำบลบางไทร อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา ซึ่งผันตัวเองจากหนุ่มวิศวกรมาปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ หรือผักไร้ดิน ทั้งกรีนโอ๊ค เรดโอ๊ค เรดคอรัล ร็อกเก็ต บัตเตอร์เฮด และคอส โดยใช้ระบบน้ำหยดมาประยุกต์ ใช้เพื่อลดระยะเวลาการเจริญเติบโตของผัก ใช้เวลาในการปลูก 45 วัน เก็บผลผลิตครั้งละ 50-60 กิโลกรัม ส่งให้โรงแรมภายในอำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา ซึ่งผักดังกล่าวเป็นผักสลัดที่ตลาดมีความต้องการสูง และมีราคาแพง โดยเฉพาะร็อกเก็ต กิโลกรัมละ 200 บาท สร้างรายได้มากกว่าเดือนละ 30,000-40,000 บาท
นายปุรเชษฐ์ กล่าวว่า หลังจากจบปริญญาตรีคณะวิศกรรมศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ก็ทำงานที่ได้เรียนมาอยู่ในกรุงเทพฯ เป็นเวลา 5 ปี แต่สุดท้ายต้องพาครอบครัวกลับบ้านเพราะทนแบกรับภาระหนี้สินไม่ไหว สำหรับการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์นั้นได้ศึกษาด้วยตนเอง จนประสบความสำเร็จ และในอนาคตจะขยายโรงเรือนเพิ่มขึ้น ซึ่งขณะนี้มีเพื่อนบ้านละแวกเดียวกันประสงค์จะปลูกด้วย นอกจากปลูกผักไฮโดรโปนิกส์แล้ว พื้นที่เหลือข้างบ้านยังใช้ปลูกมะลิเพื่อเก็บดอกมาร้อยมาลัยขายเป็นรายได้เสริมวันละประมาณ 1,000-1,200 บาท โดยทำเอง และขายเอง นอกจากนี้ ยังชวนญาติๆ ในหมู่บ้านปลูกผักสวนครัว เช่น แตงกวา พริกไทย รวมทั้งแตงโมปลูกแซมในสวนปาล์มด้วย
ด้าน นายสมชาย บริพันธุ์ เกษตรจังหวัดพังงา กล่าวว่า เกษตรกรตำบลบางไทร อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา ส่วนใหญ่ยึดหลักพอเพียงในการดำเนินชีวิตประจำวัน เพราะนอกจากการทำสวนยางพารา และปาล์มน้ำมันแล้ว ยังปลูกพืชอื่นร่วมด้วย เช่น แตงโม พริกชีขาว แตงกวา และบางส่วนยังนำแนวคิดทฤษฎีใหม่มาใช้ในแปลงเกษตรด้วย คือ การแบ่งส่วนพื้นที่ เลี้ยงสัตว์ เลี้ยงปลาในบ่อ และในอนาคตจะมีแปลงสาธิตการปลูกข้าวด้วย ทั้งนี้ สำนักงานเกษตรจังหวัดพังงา พร้อมให้การสนับสนุนงบประมาณในทุกด้านขึ้นอยู่กับความต้องการของพี่น้องชาวเกษตรกรในแต่ละพื้นที่ด้วย