สุราษฎร์ธานี - ญาติร้องผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 เร่งทำคดีน้องถูกฆาตกรรมที่อำเภอพิปูน จ.นครศรีธรรมราช แต่คดีไม่คืบ พร้อมร้องขอเปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวนเกรงไม่ได้รับความเป็นธรรม
วันนี้ (19 ธ.ค.) ที่สำนักงานผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 (ส่วนหน้า) อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี นายสุรศักดิ์ ทิพย์ประชาบาล อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 151/1 ม.3 ต.บางมะเดื่อ อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี นายสมคิด เหมือนภักดี พร้อมด้วย นายสมบูรณ์ ทองพัฒน์ ทนายความ และญาติๆของ นายภิญทองคำ ทิพย์ประชาบาล อายุ 44 ปี ที่เสียชีวิตจากการถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนยิง ที่บ้านเลขที่ 86 ม.2 ต.เขาพระ อ.พิปูน จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 18 พ.ย.2559 แต่คดีไม่คืบหน้า จึงเดินทางมายื่นหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมต่อ พล.ต.ท.เทศา ศิริวาโท ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ให้เร่งรัดคดีจับคนร้ายตัวจริงมาลงโทษ และขอเปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวนในคดี
อย่างไรก็ตาม ในการเดินทางมายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมในครั้งนี้ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ติดราชการ และได้มอบหมายให้ ร.ต.ท.รัฐชานนท์ จุ่นมีวงษ์ รองสารวัตรสืบสวน กองกำกับการวิเคราะห์ข่าว และเครื่องมือพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 8 (รอง สว.สส.กก.วิเคราะห์ข่าว บก.สส.ภ.8) รับหนังสือแทน โดย ร.ต.ท.รัฐชานนท์ กล่าวว่า จะนำหนังสือดังกล่าวนำเสนอผู้บังคับบัญชาตามลำดับต่อไป
นายสมคิด เหมือนภักดี พี่ชายผู้เสียชีวิตกล่าวว่า หลังจากที่น้องชายเสียชีวิต ทางตำรวจในพื้นที่ดูเหมือนจะนิ่งเฉยไม่ได้ทำอะไรมากนัก คดีไม่มีความคืบหน้า จึงมาร้องขอความเป็นธรรมให้ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 เร่งรัดคดีดังกล่าว
ขณะที่ นายสมบูรณ์ ทองพัฒน์ ทนายความ กล่าวเช่นเดียวกันว่า สิ่งที่เรียกร้องมี 2 ข้อ คือ เร่งรัดคดีเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับคนร้ายตัวจริงมาลงโทษ และขอเปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวน
วันนี้ (19 ธ.ค.) ที่สำนักงานผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 (ส่วนหน้า) อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี นายสุรศักดิ์ ทิพย์ประชาบาล อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 151/1 ม.3 ต.บางมะเดื่อ อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี นายสมคิด เหมือนภักดี พร้อมด้วย นายสมบูรณ์ ทองพัฒน์ ทนายความ และญาติๆของ นายภิญทองคำ ทิพย์ประชาบาล อายุ 44 ปี ที่เสียชีวิตจากการถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนยิง ที่บ้านเลขที่ 86 ม.2 ต.เขาพระ อ.พิปูน จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 18 พ.ย.2559 แต่คดีไม่คืบหน้า จึงเดินทางมายื่นหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมต่อ พล.ต.ท.เทศา ศิริวาโท ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ให้เร่งรัดคดีจับคนร้ายตัวจริงมาลงโทษ และขอเปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวนในคดี
อย่างไรก็ตาม ในการเดินทางมายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมในครั้งนี้ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ติดราชการ และได้มอบหมายให้ ร.ต.ท.รัฐชานนท์ จุ่นมีวงษ์ รองสารวัตรสืบสวน กองกำกับการวิเคราะห์ข่าว และเครื่องมือพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 8 (รอง สว.สส.กก.วิเคราะห์ข่าว บก.สส.ภ.8) รับหนังสือแทน โดย ร.ต.ท.รัฐชานนท์ กล่าวว่า จะนำหนังสือดังกล่าวนำเสนอผู้บังคับบัญชาตามลำดับต่อไป
นายสมคิด เหมือนภักดี พี่ชายผู้เสียชีวิตกล่าวว่า หลังจากที่น้องชายเสียชีวิต ทางตำรวจในพื้นที่ดูเหมือนจะนิ่งเฉยไม่ได้ทำอะไรมากนัก คดีไม่มีความคืบหน้า จึงมาร้องขอความเป็นธรรมให้ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 เร่งรัดคดีดังกล่าว
ขณะที่ นายสมบูรณ์ ทองพัฒน์ ทนายความ กล่าวเช่นเดียวกันว่า สิ่งที่เรียกร้องมี 2 ข้อ คือ เร่งรัดคดีเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับคนร้ายตัวจริงมาลงโทษ และขอเปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวน