ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ชาวบ้าน ต.ฉลุง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา รวมตัวเรียกร้องขอความเป็นธรรม กรณีถูกร้องเรียน และกลั่นแกล้งการก่อสร้างหลังคาเหล็กในโครงการยกระดับศักยภาพหมู่บ้าน เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก ตามแนวทางประชารัฐของรัฐบาลถึง 2 ครั้ง แม้ว่าผลสอบถูกต้องตามระเบียบในทุกขั้นตอน
วันนี้ (13 ธ.ค.) เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง คณะกรรมการหมู่บ้าน ผู้นำศาสนา และตัวแทนชาวบ้านในหมู่บ้านฉลุง หมู่ที่ 7 ต.ฉลุง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นำโดย นายกิตติ พิทักษ์คุมพล ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 7 ร่วมกันชี้แจง และเรียกร้องความเป็นธรรม กรณีการก่อสร้างโครงการส่งเสริมประกอบกิจกรรมทางศาสนาอิสลามต่อเติมโครงหลังคาเหล็ก-มุงหลังคาเมทัลชีท ภายในมัสยิดญามีอุ้ลมุตตากีน งบประมาณ 2 แสนบาท ภายใต้โครงการยกระดับศักยภาพหมู่บ้านเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก ตามแนวทางประชารัฐ
หลังจากที่มีกลุ่มบุคคลบางกลุ่มได้ร้องเรียนไปยัง ป.ป.ช. และ ผบ.มทบ.42 ว่า ผิดวัตถุประสงค์ ชาวบ้านไม่ได้รับผลประโยชน์ แต่ผลการตรวจสอบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งลงพื้นที่มาตรวจสอบการดำเนินการโครงการนี้ทั้ง 2 ครั้ง ตรงกันคือ ดำเนินการถูกต้องตามระเบียบทุกขั้นตอน และไม่พบการทุจริต ไม่ได้เป็นไปตามที่มีการร้องเรียนแต่อย่างใด
นายกิตติ พิทักษ์คุมพล ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 7 เปิดเผยว่า โครงการนี้มีการประชุมประชาคมหมู่บ้าน ซึ่งมีผู้เข้าร่วมประชุม 140 คน คิดเป็นร้อยละ 52.28 ของจำนวนครัวเรือนที่อาศัยอยู่จริง และมติประชาคมหมู่บ้านได้ร่วมกันพิจารณาคัดเลือกโครงการส่งเสริมการประกอบกิจกรรมทางศาสนามัสยิดญามีอุ้ลมุตตากีน และเมื่อการก่อสร้างแล้วเสร็จ ชาวบ้านต่างเห็นด้วยเพราะได้ประโยชน์จริง ทั้งในส่วนของผู้ที่มาประกอบศาสนกิจ และการเรียนการสอนศาสนา แต่กลับมีบุคคลบางกลุ่มที่ไม่ได้เข้าร่วมประชุม และไม่ทราบรายละเอียดขั้นตอนการดำเนินการ ได้ทำเรื่องร้องเรียนถึง 2 ครั้ง แต่ผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงก็ออกมาตรงกันคือ ถูกต้องทุกอย่าง และไม่เป็นไปตามที่ร้องเรียน
นายกิตติ กล่าวอีกว่า การกระทำของกลุ่มบุคคลที่ร้องเรียนโครงการนี้ แท้ที่จริงแล้วต้องการกลั่นแกล้ง ไม่ได้เป็นการปกป้อง หรือรักษาผลประโยชน์ของหมู่บ้าน หรือองค์กรศาสนา แต่มีความอคติส่วนตัว และมีเจตนาที่ไม่บริสุทธิ์ แถมยังคงมีความพยายามที่จะโจมตีโครงการนี้ต่อไป ซึ่งทางคณะกรรมการที่รับผิดชอบโครงการนี้ กำลังอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูล และยื่นเรื่องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งฝ่ายปกครอง และคณะกรรมการอิสลามประจำ จ.สงขลา ตรวจสอบข้อเท็จจริงของการร้องเรียน เพราะเชื่อว่ามีเบื้องหน้าเบื้องหลัง และมีเจตนาที่สร้างความแตกแยกในชุมชน และองค์กรศาสนา โดยมีนักการเมืองท้องถิ่นบางส่วนร่วมด้วย และขอให้ยุติพฤติกรรมดังกล่าวในทันที
