นราธิวาส - ผู้การตำรวจนราฯ ผนึกกำลังผู้นำศาสนาอิสลามทั่วจังหวัดร่วมบรูณาการแก้ไฟใต้ ระบุชัดตำรวจห้ามข้องเกี่ยวต่อยาเสพติด หากพบปลดออกสถานเดียว
วันนี้ (1 ธ.ค.) ที่ห้องประชุมคณะกรรมการอิสลาม ประจำจังหวัดนราธิวาส พล.ต.ต.มนัศ ศิกษมัต ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.นราธิวาส ได้เป็นประธานประชุมคณะที่ปรึกษาตำรวจภูธร จ.นราธิวาส ครั้งที่ 1 ตามคำสั่งภูธรจังหวัดนราธิวาส ที่ 1644/2559 ลงวันที่ 7 พ.ย.59 ซึ่งแต่งตั้งคณะที่ปรึกษาเป็นผู้นำศาสนาอิสลามจำนวนทั้งหมด 14 คน ประกอบด้วย นายซาฟีอี เจ๊ะเลาะ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาส คนที่ 1 และประธานชมรมอิหม่าม คอเต็บ บิหล่าน ประจำอำเภอ ทั้ง 13 อำเภอ พื้นที่ จ.นราธิวาส เพื่อขอความร่วมมือกับผู้นำศาสนาในระดับสูงร่วมแก้ปัญหาในพื้นที่ จ.นราธิวาส
โดย พล.ต.ต.มนัศ ศิกษมัต ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.นราธิวาส ได้กล่าวในที่ประชุมว่า ปัญหาในพื้นที่ จ.นราธิวาส โดยเฉพาะปัญหาความมั่นคง หรือปัญหาความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่ เป็นเหตุการณ์ที่ก่อให้เกิดความรุนแรง สร้างความเสียหายต่อชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน และเจ้าหน้าที่ ทั้งยังไม่มีสัญญาณใดๆ ที่ชี้ชัดว่าเหตุการณ์ความรุนแรงจะหมดไปได้ จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ทุกฝ่ายต้องให้ความสำคัญเป็นกรณีพิเศษ โดยเฉพาะผู้นำศาสนาอิสลามที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษา ล้วนมีศักยภาพต่อคนในพื้นที่ เพราะผู้นำศาสนาเป็นที่เคารพและเมื่อพูดสิ่งใดจะได้รับการตอบรับจากประชาชนในพื้นที่ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้นำศาสนาต้องมาร่วมให้คำปรึกษา เพื่อวางแนวทางร่วมกำหนดมาตรการเพื่อแก้ปัญหาร่วมกัน
และขอชี้แจงว่า ในเรื่องคดีที่เกิดขึ้นในพื้นที่ จ.นราธิวาส สถิติเดือนดุลาคม 2559 มีคดีเกิดขึ้น 26 คดี มีคดีทำร้ายร่างกาย 9 คดี ฆ่าผู้อื่น 8 คดี พยายามฆ่า 8 คดี และข่มขืนกระทำชำเรา 1 คดี จากการสืบสวนสอบสวนสวนจากหลายคดีที่กล่าว มีคดีที่เกี่ยวข้องต่อความไม่สงบ หรือคดีความมั่นคง แค่ 2 คดีเท่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคดียาเสพติด และเรื่องส่วนตัว
ในส่วนคดีสำคัญที่อยู่ในความสนใจของประชาชน กรณีเหตุการณ์วันที่ 17 ต.ค.59 คนร้ายใช้อาวุธปืนดักซุ่มยิงเจ้าหน้าที่ป่าไม้รักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขตฮาลา-บาลา ที่ 3 หลังเสร็จภารกิจผลักดันช้าง เหตุเกิดในท้องที่บ้านไอร์กาแซ ม.4 ต.ช้างเผือก อ.จะแนะ จ.นราธิวาส เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้เสียชีวิต และบาดเจ็บ ในส่วนตรวจสอบทางคดีจากปลอกกระสุนปืนชนิด 9 มม. ปลอกกระสุนปืน 7.62 หรือปลอกกระสุนปืนอาก้า ผลิตจากรัสเซีย ไม่พบเคยประวัติในสารบบว่าเป็นปืนที่ใช่ก่อเหตุความไม่สงบในพื้นที่ 3 จ.ชายแดนภาคใต้ โดยเจ้าหน้าที่ตั้งไว้ 2 ประเด็น คือ ขัดแย้งเรื่องช้าง และเรื่องการจับไม้กลุ่มผู้มีอิทธิพล
อีก 2 คดี กรณีคนร้ายยิง อส.ภูพา จินนุพันธ์ เสียชีวิตที่เจาะไอร้อง เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม ขณะไปแข่งรถจักรยานซิ่งบนถนนบ้านปูตะ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส โดยทำตัวเป็นนักเลงปะปนกับกลุ่มวัยรุ่น แต่ระหว่างเดินทางกลับบ้านพักได้ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 ดักซุ่มยิงเสียชีวิต ทั้งนี้ จากการสืบสวนพบว่า คนร้ายรู้ว่า นายภูพา ไม่ใช่ชาวบ้าน แต่เป็นเจ้าหน้าที่อาสาสมัครที่ อ.บันนังสตา จ.ยะลา จึงดักสังหาร ซึ่งเป็นคดีความมั่นคง
ส่วนอีกคดีคือ คนร้ายยิง นายพงษ์ศักดิ์ ยอดละเอียด เมื่อวันที่ 27 ต.ค.59 เสียชีวิต เหตุเกิด ต.บางปอ อ.เมืองนราธิวาส หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมคนร้ายได้ คือ นายอาดือนัน สะมะแอ เป็นผู้ขับขี่รถ จยย.ให้แก่มือปืนที่ยังหลบหนี คือ นายมาฮาดี มะเกะ ทั้ง 2 คนมีหมายจับคดีความมั่นคง ซึ่งถือเป็นคดีก่อเหตุความไม่สงบ หรือความมั่นคง
ในส่วนการเพิ่มขีดความสามารถตำรวจในพื้นที่นั้น พล.ต.ต.มนัศ ศิกษมัต ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.นราธิวาส กล่าวว่า ในยุคตนเองเป็นผู้การตำรวจ ได้สั่งการเด็ดขาดไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสร้างเงื่อนไขต่อประชาชน และเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกคนต้องโปร่งใสในการทำงาน ห้ามเกี่ยวข้องต่อยาเสพติดอย่างเด็ดขาด และได้ทำการตรวจสารเสพติดในเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกโรงพัก และจะทำการสุ่มตรวจต่อเนื่อง ซึ่งในห้วงที่ผ่านมา พบมีสารเสพติดในตำรวจ 11 ราย ได้ลงโทษทั้งวินัย และอาญา และโทษร้ายแรงคือ ปลดออก และดำเนินคดีทุกนายไม่มีการละเว้น
ด้าน นายอายิ ลาเต๊ะ ประธานชมรมอิหม่าม คอเต็บ บิหล่าน ประจำอำเภอแว้ง จ.นราธิวาส เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า รู้สึกดีใจที่ตำรวจระดับผู้บังคับการจังหวัดได้ให้ความสำคัญต่อผู้นำศาสนา ซึ่งการให้ความร่วมมือแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษานับเป็นนิมิตหมายที่ดีที่จะนำมาสู่การแก้ปัญหา 3 ด้าน คือ ปัญหาความมั่นคง อาชญากรรม และยาเสพติด เป็นต้น
ซึ่งในส่วนของตำรวจที่จบใหม่ และจะต้องมาปฏิบัติงานในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในส่วน จ.นราธิวาส มีตำรวจจบใหม่จะมาประจำการ ประมาณ 337 นาย โดยในชุดแรก 50 นาย ได้ทำข้อตกลงกับ ผบก.ภูธรจังหวัด จะนำมาอบรมเรื่องจริยธรรม และวัฒนธรรมพื้นที่ ที่คณะกรรมการอิสลาม จ.นราธิวาส เพื่อให้ตำรวจใหม่เข้าใจถึงปัญหาวีถีความเป็นอยู่ของคนในพื้นที่ ลดความขัดแย้งเมื่อต้องลงพื้นที่เพื่อปฏิบัติหน้าที่สู่ชุมชน และหมู่บ้านต่อไป นอกจากนั้น ยังมีอีกหลายเรื่องที่ผู้นำศาสนาจะบูรณาการกับตำรวจภูธร จ.นราธิวาส เพื่อแก้ไขปัญหาในพื้นที่ในหลายด้าน เพื่อคืนความสันติสุขให้แก่ประชาชน