ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - แม่ทัพภาคที่ 4 ลงพื้นที่ตามสถานการณ์น้ำท่วมใน จ.นครศรีธรรมราช พร้อมเผย สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ รัชกาลที่ 10 ทรงห่วงใยราษฎรที่ประสบภัยน้ำท่วม โดยได้พระราชทานถุงยังชีพเพื่อช่วยเหลือเบื้องต้น จำนวน 3,000 ถุง
วันนี้ (6 ธ.ค.) ที่ศูนย์ศิลปาชีพบ้านเนินธัมมัง ต.แม่เจ้าอยู่หัว อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม พร้อมทั้งได้นำเครื่องอุปโภคบริโภคไปแจกจ่ายให้พี่น้องประชาชนที่ประสบปัญหาน้ำท่วม ซึ่งได้อพยพมาอาศัยที่ศูนย์ดังกล่าว จำนวน 195 ครอบครัว ให้การต้อนรับ
โอกาสนี้ พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช ได้พบปะให้กำลังแก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ พร้อมทั้งกล่าวว่า ตนเองขอเป็นกำลังใจให้แก่พี่น้องประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมทุกคน ซึ่งขณะนี้ตนได้สั่งการให้ศูนย์บรรเทาบรรเทาสาธารณภัยของกองทัพภาคที่ 4 ทั้ง 22 ศูนย์ ได้ออกช่วยเหลือประชาชนในทุกพื้นที่ ตั้งแต่เริ่มประสบปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.เป็นต้นมา
แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า หลังเกิดเหตุน้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงห่วงใยราษฎรในพื้นที่ภาคใต้ โดยทรงติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งได้พระราชทานความช่วยเหลือโดยการมอบถุงพระราชทานช่วยเหลือผู้ประสบภัยเบื้องต้นในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และ จ.พัทลุง จำนวน 3,000 ถุง เพื่อแจกจ่ายให้แก่ราษฎร ซึ่งถุงพระราชทานดังกล่าวขณะนี้ได้ลำเลียงมายังพระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ เรียบร้อยแล้ว และจะนำไปมอบให้แก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ต่อไป
ด้านการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย จากปัญหาสถานการณ์อุทกภัยที่กำลังเกิดขึ้นในพื้นภาคใต้นั้น แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า กองทัพภาคที่ 4 ได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกช่วยเหลือประชาชนที่ประสบปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ 12 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ จ.ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล
โดยได้สั่งการให้ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพภาคที่ 4 และหน่วยขึ้นตรงศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพภาคที่ 4 เร่งให้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัย และพื้นที่เสี่ยงที่จะเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ โดยในห้วงที่ผ่านมา ตั้งแต่วันที่ 2-5 ธันวาคม ได้มีหน่วยที่ออกปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนแล้ว จำนวน 15 ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย และกรมทหารพราน ได้แก่
1.ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพภาคที่ 4
2.ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยมณฑลทหารบกที่ 41
3.ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยมณฑลทหารบกที่ 4
4.ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยมณฑลทหารบกที่ 43
5.ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยมณฑลทหารบกที่ 45, ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองพลทหารราบที่ 5
6.ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกรมสนับสนุนกองพลทหารราบที่ 15
7.ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองพลพัฒนาที่ 4
8.ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองบัญชาการช่วยรบที่ 4
9.ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกรมทหารปืนใหญ่ที่ 5
10.ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 5
11.ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 15
12.ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองพันทหารราบที่ 4 กรมทหารราบที่ 15
13.ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองพันทหารช่างที่ 40
14.ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยร้อยฝึกรบพิเศษที่ 4
และ 15.กรมทหารพรานที่ 44
ซึ่งได้จัดทั้งกำลังพล และยุทโธปกรณ์ ถุงยังชีพ ช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ 12 จังหวัด 63 อำเภอ 368 ตำบล 1,071 หมู่บ้าน ผู้ประสบภัย 90,440 คน 20,962 ครัวเรือน และจากการลงพื้นที่พบว่า พี่น้องประชาชนกำลังลำบาก บางพื้นที่ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก รถไม่สามารถสัญจรไปมาได้ ขณะนี้ตนเองได้มีการประสานกับอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อย่างใกล้ชิด เพื่อเร่งให้ความช่วยเหลือประชาชน
โดยทางกองทัพภาคที่ 4 ได้จัดกำลังพล พร้อมยุทโธปกรณ์ไว้พร้อมแล้ว เพื่อจะบูรณาการความช่วยเหลือ นอกจากนี้ ได้มีการเตรียมเครื่องมือพิเศษไว้เข้าแก้ไขปัญหา ซึ่งหากประชาชนต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วน ขอให้บอก ทางกองทัพภาคที่ 4 พร้อมทุกอย่าง ซึ่งตอนนี้ได้ลงพื้นที่ไปช่วยเหลือชาวบ้านตั้งแต่เริ่มเกิดปัญหาน้ำท่วมในทุกพื้นที่ และก็จะช่วยต่อไปจนกว่าจะกลับสู่ภาวะปกติ แต่หลังจากสภาวะปกติแล้วก็จะดูแลต่อ พอน้ำลดก็จะดูแลบ้านช่องของพี่น้องทุกคนในขีดความสามารถ ในความสามารถของทหารว่าจะช่วยเหลืออะไรได้บ้าง โดยทหารจะดูแลจนกว่าชาวบ้านจะอยู่แบบปกติ
นอกจากนี้ แม่ทัพภาคที่ 4 ยังได้ห่วงใยปัญหาสุขภาพของผู้ประสบภัยน้ำท่วม จึงได้สั่งการให้มีการประสานงานระหว่างหน่วยแพทย์ของกองทัพบกในพื้นที่ และกระทรวงสาธารณสุข ส่งทีมแพทย์ พยาบาลไปดูแลสุขภาพของประชาชน พร้อมทั้งให้เตรียมยาเพื่อการรักษาพยาบาล และเซรุ่ม ซึ่งหากมีสัตว์ที่มีพิษกัดชาวบ้านก็สามารถทำการรักษาพยาบาลได้ทันที