ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - สถานการณ์ฝนตกหนักต่อเนื่อง 2 วันติดต่อกัน ในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง หลายจังหวัดแจ้งเตือนประชาชนริมแม่น้ำเฝ้าระวัง และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หลังจากที่กรมอุตุฯ ออกประกาศสภาวะฝนตกหนักช่วงต้นเดือนธันวาคมนี้
วันนี้ (2 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานสภาพอากาศในพื้นที่ จ.นราธิวาส ยังคงมีฝนตกต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ส่งผลให้พื้นที่ราบลุ่มหลายแห่งระบายน้ำไม่ทัน มีน้ำท่วมขังบนสายหลัก โดยเฉพาะในเขตเทศบาลเมืองนราธิวาส ประชาชนใช้รถสัญจรไปมาด้วยความระมัดระวัง ขณะที่คลื่นลมในทะเลมีกำลังแรงคลื่นสูง 2-3 เมตร โดยที่หาดนราทัศน์ ร้านค้าต่างปิดร้านชั่วคราวเนื่องจากมีฝนตกตลอดทั้งวัน จนไม่มีลูกค้าเข้าร้าน อีกทั้งยังต้องจัดเก็บข้าวของให้อยู่ในที่ปลอดภัย เนื่องจากบริเวณชายหาดมีกระแสลมแรงต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม จากสภาวะที่มีฝนตกหนักต่อเนื่อง ขณะนี้แม่น้ำสายหลักในพื้นที่ ทั้งแม่น้ำสายบุรี แม่น้ำสุไหงโก-ลก และแม่น้ำบางนรา มีปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้น มีการแจ้งเตือนประชาชนตามแนวแม่น้ำสุไหงโก-ลก ซึ่งเป็นพื้นที่ราบให้เฝ้าระวัง และคอยสังเกตระดับน้ำ ซึ่งขณะนี้ระดับน้ำในแม่น้ำสุไหงโก-ลก เพิ่มขึ้นชั่วโมงละ 10-13 เซนติเมตร
ส่วนบรรยากาศในพื้นที่ จ.ยะลา หลังจากที่กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศแจ้งเตือนสภาพอากาศ สภาวะฝนตกในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา “ฝนตกหนักถึงหนักมากในภาคใต้ตอนล่าง และคลื่นลมแรงในอ่าวไทย” ฉบับที่ 8 ลงวันที่ 1 ธ.ค.2559 ในช่วงวันที่ 1-4 ธ.ค.2559 มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังปานกลางที่พัดปกคลุมภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำในทะเลจีนใต้ตอนล่าง จะเคลื่อนผ่านประเทศมาเลเซีย และภาคใต้ตอนล่างของประเทศไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยมีผลกระทบต่อพื้นที่ในช่วงเวลาดังต่อไปนี้
ในช่วงวันที่ 1-2 ธ.ค.2559 บริเวณ จ.สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ตรัง และ จ.สตูล ในช่วงวันที่ 2-4 ธ.ค.2559 บริเวณ จ.ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ระนอง พังงา ภูเก็ต และ จ.กระบี่ ขอให้ประชาชนในจังหวัดดังกล่าวระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากได้
ซึ่งฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องตลอด 2 วันที่ผ่านมาใน จ.ยะลา ทำให้มีปริมาณน้ำฝนทั่วทุกพื้นที่ แต่ยังไม่มีรายงานสถานการณ์น้ำท่วม หรือดินโคล่นถล่ม อย่างไรก็ตาม ทางศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ยะลา ได้มีการแจ้งไปยังทุกอำเภอให้มีการเตรียมความพร้อมเฝ้าระวัง และดำเนินมาตรการในการเข้าให้ความช่วยเหลือประชาชนในทันที หากได้รับการร้องขอความช่วยเหลือ โดยเฉพาะในพื้นที่ติดแม่น้ำสายบุรี อ.รามัน พื้นที่ติดแม่น้ำปัตตานี อ.บันนังสตา อ.กรงปินัง อ.เมืองยะลา และพื้นที่สูงใกล้เชิงเขาใน อ.ธารโต และ อ.เบตง จ.ยะลา ให้ประชาชนเฝ้าระวัง และติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง