ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ลงพื้นที่ภูเก็ต มอบนโยบายเตรียมพร้อมเจ้าหน้าที่ในการรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาช่วงไฮซีซัน เน้นย้ำให้การบริการด้วยความรวดเร็ว โปร่งใส ตรวจสอบได้ เตรียมนำระบบตรวจสอบข้อมูลทางชีวภาพมาใช้แก้ปัญหาคนร้ายแฝงตัวในคราบนักท่องเที่ยว
วันนี้ (1 ธ.ค.) ที่ห้องประชุม สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองภูเก็ต อ.เมือง จ.ภูเก็ต พล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พร้อมด้วย พล.ต.ท.พรชัย ขันดี รองผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พล.ต.ต.เจษฎา ใยสุ่น รรท.ผบก.ตม.6 และคณะ เดินทางมาประชุมมอบนโยบายด้านการดูแลนักท่องเที่ยวช่วงไฮซีซัน ให้แก่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองภูเก็ต มี พ.ต.อ.กันตวัฒน์ พงศ์สถาบดี ผกก.ตม.จว.ภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ คม. รวมถึงอาสาสมัครท่องเที่ยวเข้าร่วม
พล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร ผบช.สตม. กล่าวภายหลังการประชุม ว่า วันนี้ ตน และ รองผู้บัญชาการ สตม.ซึ่งรับผิดชอบ 14 จังหวัดภาคใต้ ได้มาที่จังหวัดภูเก็ต เพื่อเตรียมความพร้อมของเจ้าหน้าที่ในการรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาในฤดูการท่องเที่ยว คริสต์มาส และปีใหม่ เนื่องจากรัฐบาลได้ส่งเสริมการท่องเที่ยว เมื่อวันที่ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา มติ ครม.ได้ยกเว้นวีซ่าท่องเที่ยวให้แก่นักท่องเที่ยวที่ถือวีซ่าจากต้นทางมาไม่ต้องเสียค่าวีซ่า ส่วนวีซ่าที่มาขอยังด่านตรวจคนเข้าเมือง ก็ลดลงเหลือ 1,000 บาท จาก 2,000 บาท ตรงนี้เป็นจุดที่จะดึงดูดให้นักท่องเที่ยวจากต่างประเทศต่างๆ ที่ได้รับการยกเว้นเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว คริสต์มาส ปีใหม่ ตลอดถึงตรุษจีน วาเลนไทน์ และสงกรานต์ รวมระยะเวลา 3 เดือนในการส่งเสริมการท่องเที่ยว เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.59 จนกระทั่งไปสิ้นสุดในเดือน ก.พ.60 จากนั้นไปจะมีต่อหรือไม่ ทางกระทรวงการท่องเที่ยวฯ กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งตรวจคนเข้าเมือง จะพิจารณาร่วมกันอีกครั้งเพื่อชักชวนให้นักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยเยอะๆ
ในส่วนของจังหวัดภูเก็ต เป็นที่รับรู้โดยทั่วไปอยู่แล้วว่า เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกนิยมเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว มีสายการบินที่บินตรงจากยุโรป ออสเตรเลีย และจากหลายๆ ประเทศที่เข้ามาสู่ภูเก็ต และกระบี่ เพราะฉะนั้นนักท่องเที่ยวทั้งที่มีอยู่แล้วเป็นจำนวนมากในจังหวัดภูเก็ต และจะเข้ามาอีกมากในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว จึงได้เดินทางมาตรวจความพร้อมของเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองในจังหวัดภูเก็ต และท่าอากาศยานจังหวัดภูเก็ต ว่ามีความพร้อมมากน้อยเพียงใดในการรองรับนักท่องเที่ยว รวมทั้งการให้บริการชาวต่างชาติอยู่ในประเทศไทยด้วย ซึ่งจากการตรวจสอบก็พบว่า ได้รับความช่วยเหลือจากอาสาท่องเที่ยวที่เป็นชาวต่างชาติ สามารถพูดได้หลายภาษา มาช่วยในการให้บริการ ในเรื่องการช่วยชาวต่างชาติที่มาติดต่อเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ในการกรอกแบบฟอร์ม ช่วยแปล ช่วยเป็นล่ามให้แก่เจ้าหน้าที่ด้วย
อย่างไรก็ตาม การประชุมมอบนโยบายในวันนี้ ตนได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ ในเรื่องการขออยู่ต่อ การเปลี่ยนวีซ่าต่างๆ เหล่านี้ จำเป็นจะต้องมีระบบเอกสารเข้ามาเกี่ยวข้องต่อการให้บริการในการตรวจสอบเอกสาร ต้องถูกต้องแม่นยำ โปร่งใส และตรวจสอบได้ รวมทั้งความรวดเร็วในการให้บริการแก่นักท่องเที่ยว หรือว่าชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงาน เข้ามารักษาตัว หรือใช้ชีวิตบั้นปลายในจังหวัดภูเก็ต ให้ได้รับความสะดวกรวดเร็วเท่าที่จะทำได้ รวมทั้งดูแลเรื่องความมั่นคงด้วย ในเรื่องแบล็กลิสต์บุคคลต้องห้าม บุคคลไม่พึงประสงค์ เมื่อมีการยกเว้นเรื่องการขอวีซ่า และการลดค่าธรรมเนียมก็จะเป็นจุดหนึ่งที่ทำให้นักท่องเที่ยวเข้ามามากขึ้น ซึ่งช่วงนี้ก็จะเป็นช่วงที่บุคคลไม่พึงประสงค์ หรือว่าบุคคลที่มีหมายจับ บุคคลต้องห้ามอาจจะแฝงตัวเข้ามาในรูปแบบของนักท่องเที่ยวได้ เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจึงต้องใช้ความระมัดระวังในการตรวจสอบเป็นอย่างมาก เพื่อป้องกันไม่ให้คนเหล่านี้เข้ามาในพื้นที่ ซึ่งประเทศไทยยินดีที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยวดี มีคุณภาพ ไม่ว่าจะมาอยู่ระยะยาว หรือระยะสั้น แต่ในส่วนของคนร้ายที่แฝงตัวเข้ามาก็จะต้องตรวจสอบ และผลักดันออกไป
พล.ต.ท.ณัฐธร ยังได้กล่าวต่อไปถึงการบริการของเข้าหน้าที่ ตม.สนามบิน ปัญหาการให้บริการที่สนามบินภูเก็ตซึ่งผู้โดยสารต้องเข้าคิวนานนั้น หลังจากนี้ จะเพิ่มเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง พร้อมอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องให้มากขึ้น เพื่อบริการให้ทันต่อจำนวนนักท่องเที่ยว ประเด็นสำคัญคือจะให้มีการตรวจสอบเที่ยวบินที่เข้ามา เพราะว่าช่วงเวลาที่เที่ยวบินเข้ามาจะไม่แน่นอน บางช่วงเวลาเที่ยวบินจะน้อย บางช่วงเวลาเที่ยวบินจะมาก ถ้าเราจัดเจ้าหน้าที่ให้เต็มหมดตลอดเวลา 24 ชั่วโมง ก็จะเกิดการว่างงานแฝง ต้องสำรวจดูว่าช่วงไหนนักท่องเที่ยวเข้ามาหนาแน่น เราจะจัดเจ้าหน้าที่เข้ามาเต็มอัตราให้มีพอต่อความต้องการของนักท่องเที่ยวไม่ให้ได้รับความเดือดร้อน คิวยาวเกินกว่าจำเป็น ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับว่าเราต้องตรวจอย่างละเอียดด้วย เพื่อป้องกันผู้ไม่ประสงค์แอบแฝงเข้ามาในรูปของนักท่องเที่ยว
ซึ่งในการตรวจสอบนั้นบางครั้งต้องใช้เวลานานเพราะต้องยอมรับว่าบางครั้งคนร้ายก็ฉวยโอกาสในการแฝงตัวเข้ามาในคราบของนักท่องเที่ยว ซึ่งทาง ตม.เองก็พยายามที่จะแก้ไขเรื่องของการใช้พาสปอร์ตปลอม ที่ผ่านมา ในการตรวจคัดกรองเจ้าหน้าที่ใช้ความสามารถในการตรวจสอบอยู่ด้วยตาเปล่า แต่ในอนาคตอันใกล้นี้ ทางรัฐบาลได้อนุมัติงบประมาณมาให้เราเปลี่ยนระบบ นำระบบไบโอแมททริคซิสเต็ม คือ ระบบที่ตรวจสอบด้วยข้อมูลทางชีวภาพ ไม่ว่าจะเป็นโครงหน้าหรือรูม่านตา เข้ามาช่วยในระบบตรวจคนเข้าเมือง ในระยะเวลาอันใกล้นี้เราจะได้เครื่องมือนี้เข้ามาใช้ ซึ่งจะตรวจสอบเรื่องของพาสปอร์ตปลอม เรื่องของบุคคลหน้าเหมือนได้ 100%
ส่วนกรณีการผลักดัน หรือปฏิเสธการเข้ามาของบุคคลที่ไม่หวังดี พล.ต.ต.ณัฐธร กล่าวว่า ทาง ตม.ทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะฝ่ายความมั่นคง รวมทั้งทัพเรือภาคที่ 3 ด้วย เราทำงานร่วมกันอยู่ในการสกัดกั้นผู้ไม่หวังดี หรือคนที่จะลักลอบเข้าเมืองมา เราสกัดกั้นส่งกลับออกนอกประเทศ ถ้าเข้ามาถูกต้องก็ยินดีต้อนรับ ประเทศไทยยินดีต้อนรับอยู่แล้ว เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ แต่ถ้าเข้ามาแล้วเกิดกระทบต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ ก็เป็นหน้าที่ของเราเช่นเดียวกันในการที่จะสกัดออกไป เราต้อนรับคนดี แต่คนร้ายเราต้องสกัดออกไปให้เร็วที่สุด ซึ่งเรามีระบบตรวจสอบผู้โดยสารล่วงหน้าเข้ามาใช้ในท่าอากาศยานต่างๆ ในที่ผ่านมา มีปฏิเสธการเข้ามาเยอะพอสมควรโดยเฉพาะประเทศกลุ่มเป้าหมาย เช่น เอเชียใต้ เป็นการไหลออกของประชากรไปสู่ประเทศที่ 3 เยอะ เนื่องจากเป็นกลุ่มประเทศที่ยากจน ต้องการไปหาโอกาสที่ดีกว่า ต้องการไปหารายได้ที่สูงกว่าในประเทศที่ 3 เพราะฉะนั้นการเดินทางออกนอกประเทศผ่านประเทศไทยไปยังประเทศที่ 3 แล้วเข้ามาตกค้างในไทยก็มีมาก เรามีวิธีการในการตรวจสอบ สกัดกั้น และส่งกลับอยู่แล้ว
วันนี้ (1 ธ.ค.) ที่ห้องประชุม สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองภูเก็ต อ.เมือง จ.ภูเก็ต พล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พร้อมด้วย พล.ต.ท.พรชัย ขันดี รองผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พล.ต.ต.เจษฎา ใยสุ่น รรท.ผบก.ตม.6 และคณะ เดินทางมาประชุมมอบนโยบายด้านการดูแลนักท่องเที่ยวช่วงไฮซีซัน ให้แก่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองภูเก็ต มี พ.ต.อ.กันตวัฒน์ พงศ์สถาบดี ผกก.ตม.จว.ภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ คม. รวมถึงอาสาสมัครท่องเที่ยวเข้าร่วม
พล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร ผบช.สตม. กล่าวภายหลังการประชุม ว่า วันนี้ ตน และ รองผู้บัญชาการ สตม.ซึ่งรับผิดชอบ 14 จังหวัดภาคใต้ ได้มาที่จังหวัดภูเก็ต เพื่อเตรียมความพร้อมของเจ้าหน้าที่ในการรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาในฤดูการท่องเที่ยว คริสต์มาส และปีใหม่ เนื่องจากรัฐบาลได้ส่งเสริมการท่องเที่ยว เมื่อวันที่ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา มติ ครม.ได้ยกเว้นวีซ่าท่องเที่ยวให้แก่นักท่องเที่ยวที่ถือวีซ่าจากต้นทางมาไม่ต้องเสียค่าวีซ่า ส่วนวีซ่าที่มาขอยังด่านตรวจคนเข้าเมือง ก็ลดลงเหลือ 1,000 บาท จาก 2,000 บาท ตรงนี้เป็นจุดที่จะดึงดูดให้นักท่องเที่ยวจากต่างประเทศต่างๆ ที่ได้รับการยกเว้นเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว คริสต์มาส ปีใหม่ ตลอดถึงตรุษจีน วาเลนไทน์ และสงกรานต์ รวมระยะเวลา 3 เดือนในการส่งเสริมการท่องเที่ยว เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.59 จนกระทั่งไปสิ้นสุดในเดือน ก.พ.60 จากนั้นไปจะมีต่อหรือไม่ ทางกระทรวงการท่องเที่ยวฯ กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งตรวจคนเข้าเมือง จะพิจารณาร่วมกันอีกครั้งเพื่อชักชวนให้นักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยเยอะๆ
ในส่วนของจังหวัดภูเก็ต เป็นที่รับรู้โดยทั่วไปอยู่แล้วว่า เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกนิยมเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว มีสายการบินที่บินตรงจากยุโรป ออสเตรเลีย และจากหลายๆ ประเทศที่เข้ามาสู่ภูเก็ต และกระบี่ เพราะฉะนั้นนักท่องเที่ยวทั้งที่มีอยู่แล้วเป็นจำนวนมากในจังหวัดภูเก็ต และจะเข้ามาอีกมากในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว จึงได้เดินทางมาตรวจความพร้อมของเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองในจังหวัดภูเก็ต และท่าอากาศยานจังหวัดภูเก็ต ว่ามีความพร้อมมากน้อยเพียงใดในการรองรับนักท่องเที่ยว รวมทั้งการให้บริการชาวต่างชาติอยู่ในประเทศไทยด้วย ซึ่งจากการตรวจสอบก็พบว่า ได้รับความช่วยเหลือจากอาสาท่องเที่ยวที่เป็นชาวต่างชาติ สามารถพูดได้หลายภาษา มาช่วยในการให้บริการ ในเรื่องการช่วยชาวต่างชาติที่มาติดต่อเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ในการกรอกแบบฟอร์ม ช่วยแปล ช่วยเป็นล่ามให้แก่เจ้าหน้าที่ด้วย
อย่างไรก็ตาม การประชุมมอบนโยบายในวันนี้ ตนได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ ในเรื่องการขออยู่ต่อ การเปลี่ยนวีซ่าต่างๆ เหล่านี้ จำเป็นจะต้องมีระบบเอกสารเข้ามาเกี่ยวข้องต่อการให้บริการในการตรวจสอบเอกสาร ต้องถูกต้องแม่นยำ โปร่งใส และตรวจสอบได้ รวมทั้งความรวดเร็วในการให้บริการแก่นักท่องเที่ยว หรือว่าชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงาน เข้ามารักษาตัว หรือใช้ชีวิตบั้นปลายในจังหวัดภูเก็ต ให้ได้รับความสะดวกรวดเร็วเท่าที่จะทำได้ รวมทั้งดูแลเรื่องความมั่นคงด้วย ในเรื่องแบล็กลิสต์บุคคลต้องห้าม บุคคลไม่พึงประสงค์ เมื่อมีการยกเว้นเรื่องการขอวีซ่า และการลดค่าธรรมเนียมก็จะเป็นจุดหนึ่งที่ทำให้นักท่องเที่ยวเข้ามามากขึ้น ซึ่งช่วงนี้ก็จะเป็นช่วงที่บุคคลไม่พึงประสงค์ หรือว่าบุคคลที่มีหมายจับ บุคคลต้องห้ามอาจจะแฝงตัวเข้ามาในรูปแบบของนักท่องเที่ยวได้ เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจึงต้องใช้ความระมัดระวังในการตรวจสอบเป็นอย่างมาก เพื่อป้องกันไม่ให้คนเหล่านี้เข้ามาในพื้นที่ ซึ่งประเทศไทยยินดีที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยวดี มีคุณภาพ ไม่ว่าจะมาอยู่ระยะยาว หรือระยะสั้น แต่ในส่วนของคนร้ายที่แฝงตัวเข้ามาก็จะต้องตรวจสอบ และผลักดันออกไป
พล.ต.ท.ณัฐธร ยังได้กล่าวต่อไปถึงการบริการของเข้าหน้าที่ ตม.สนามบิน ปัญหาการให้บริการที่สนามบินภูเก็ตซึ่งผู้โดยสารต้องเข้าคิวนานนั้น หลังจากนี้ จะเพิ่มเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง พร้อมอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องให้มากขึ้น เพื่อบริการให้ทันต่อจำนวนนักท่องเที่ยว ประเด็นสำคัญคือจะให้มีการตรวจสอบเที่ยวบินที่เข้ามา เพราะว่าช่วงเวลาที่เที่ยวบินเข้ามาจะไม่แน่นอน บางช่วงเวลาเที่ยวบินจะน้อย บางช่วงเวลาเที่ยวบินจะมาก ถ้าเราจัดเจ้าหน้าที่ให้เต็มหมดตลอดเวลา 24 ชั่วโมง ก็จะเกิดการว่างงานแฝง ต้องสำรวจดูว่าช่วงไหนนักท่องเที่ยวเข้ามาหนาแน่น เราจะจัดเจ้าหน้าที่เข้ามาเต็มอัตราให้มีพอต่อความต้องการของนักท่องเที่ยวไม่ให้ได้รับความเดือดร้อน คิวยาวเกินกว่าจำเป็น ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับว่าเราต้องตรวจอย่างละเอียดด้วย เพื่อป้องกันผู้ไม่ประสงค์แอบแฝงเข้ามาในรูปของนักท่องเที่ยว
ซึ่งในการตรวจสอบนั้นบางครั้งต้องใช้เวลานานเพราะต้องยอมรับว่าบางครั้งคนร้ายก็ฉวยโอกาสในการแฝงตัวเข้ามาในคราบของนักท่องเที่ยว ซึ่งทาง ตม.เองก็พยายามที่จะแก้ไขเรื่องของการใช้พาสปอร์ตปลอม ที่ผ่านมา ในการตรวจคัดกรองเจ้าหน้าที่ใช้ความสามารถในการตรวจสอบอยู่ด้วยตาเปล่า แต่ในอนาคตอันใกล้นี้ ทางรัฐบาลได้อนุมัติงบประมาณมาให้เราเปลี่ยนระบบ นำระบบไบโอแมททริคซิสเต็ม คือ ระบบที่ตรวจสอบด้วยข้อมูลทางชีวภาพ ไม่ว่าจะเป็นโครงหน้าหรือรูม่านตา เข้ามาช่วยในระบบตรวจคนเข้าเมือง ในระยะเวลาอันใกล้นี้เราจะได้เครื่องมือนี้เข้ามาใช้ ซึ่งจะตรวจสอบเรื่องของพาสปอร์ตปลอม เรื่องของบุคคลหน้าเหมือนได้ 100%
ส่วนกรณีการผลักดัน หรือปฏิเสธการเข้ามาของบุคคลที่ไม่หวังดี พล.ต.ต.ณัฐธร กล่าวว่า ทาง ตม.ทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะฝ่ายความมั่นคง รวมทั้งทัพเรือภาคที่ 3 ด้วย เราทำงานร่วมกันอยู่ในการสกัดกั้นผู้ไม่หวังดี หรือคนที่จะลักลอบเข้าเมืองมา เราสกัดกั้นส่งกลับออกนอกประเทศ ถ้าเข้ามาถูกต้องก็ยินดีต้อนรับ ประเทศไทยยินดีต้อนรับอยู่แล้ว เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ แต่ถ้าเข้ามาแล้วเกิดกระทบต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ ก็เป็นหน้าที่ของเราเช่นเดียวกันในการที่จะสกัดออกไป เราต้อนรับคนดี แต่คนร้ายเราต้องสกัดออกไปให้เร็วที่สุด ซึ่งเรามีระบบตรวจสอบผู้โดยสารล่วงหน้าเข้ามาใช้ในท่าอากาศยานต่างๆ ในที่ผ่านมา มีปฏิเสธการเข้ามาเยอะพอสมควรโดยเฉพาะประเทศกลุ่มเป้าหมาย เช่น เอเชียใต้ เป็นการไหลออกของประชากรไปสู่ประเทศที่ 3 เยอะ เนื่องจากเป็นกลุ่มประเทศที่ยากจน ต้องการไปหาโอกาสที่ดีกว่า ต้องการไปหารายได้ที่สูงกว่าในประเทศที่ 3 เพราะฉะนั้นการเดินทางออกนอกประเทศผ่านประเทศไทยไปยังประเทศที่ 3 แล้วเข้ามาตกค้างในไทยก็มีมาก เรามีวิธีการในการตรวจสอบ สกัดกั้น และส่งกลับอยู่แล้ว
