ยะลา - ประธานเครือข่ายชาวพุทธเพื่อสันติภาพ ปฏิเสธไม่เกี่ยวข้องต่อกลุ่มบุคคลที่แอบอ้างใช้ชื่อเครือข่ายฯ เตรียมยื่นหนังสือถึงรองนายกรัฐมนตรี ตำหนิการทำงานของเจ้าหน้าที่
วันนี้ (28 พ.ย.) จากกรณีที่มีกลุ่มบุคคลใช้ชื่อว่า เครือข่ายชาวพุทธเพื่อสันติภาพ เตรียมทำหนังสือยื่นให้แก่ พล.อ.ประวิทย์ วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ถึงกรณีเหตุการณ์คนร้ายลอบยิงหญิงตั้งครรภ์เสียชีวิตในพื้นที่จังหวัดปัตตานี โดยมีข้อความในหนังสือระบุว่า ที่ประชุมเครือข่ายชาวพุทธเพื่อสันติภาพ ที่วัดนิโรจน์สังฆาราม เตรียมจัดทำจดหมายยื่นต่อนายกรัฐมนตรี เรียกร้องให้ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ดูแลความปลอดภัยในชีวิตของประชาชนเป็นลำดับแรก
พร้อมให้ทบทวนคำสัมภาษณ์ของรองนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 13 มี.ค.59 ด้วยว่าจะแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้สงบภายในสิ้นปีนี้ เพราะจากเหตุคนร้ายสังหารสตรีท้องแก่ เมื่อ 26 พ.ย.59 ถือเป็นการกระทำที่อุกอาจ คนร้ายข้ามถนน 6 เลน สาย 42 จากฝั่งตรงข้ามมาจ่อยิงเหยื่อและข้ามถนนกลับ นอกจากนั้น จุดที่สังหารยังอยู่ใกล้ป้อม ตร.ปาลัส ไม่ถึง 100 เมตร แต่กลับไม่มี ตร. ทหาร ออกมาช่วย อีกทั้งให้ผู้เสียชีวิตนอนรออยู่ในจุดเกิดเหตุนานกว่า 20 นาที จึงนำศพส่ง รพ. ทำให้ทารกในครรภ์เสียชีวิตไปด้วยภายหลัง
ล่าสุด นายรักชาติ สุวรรณ ประธานเครือข่ายชาวพุทธเพื่อสันติภาพ เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า กรณีนี้ถ้าจะมีใครไปยื่นหนังสือก็ไม่ได้กีดกัน เพียงแต่ว่าในการยื่นหนังสือครั้งนี้ไม่ได้เป็นการทำงานของเครือข่ายชาวพุทธเพื่อสันติภาพ ซึ่งการจะยื่นหนังสือในชื่อของเครือข่ายชาวพุทธเพื่อสันติภาพ จะต้องมาคุยกันก่อน เนื่องจากทางเครือข่ายชาวพุทธเพื่อสันติภาพ มีแนวทางในการทำงานที่จะไม่โจมตี ไม่วิพากษ์เจ้าหน้าที่รัฐจนเกินเหตุ
เท่าที่ตนเองติดตามข้อมูลก็พบว่า เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน เป็นเรื่องของช่วงเวลาของการเข้าไปช่วยเหลือผู้ที่ประสบเหตุว่าเข้าไปช่วยเหลือช้าทำให้เด็กในท้องเสียชีวิต ซึ่งส่วนหนึ่งก็ต้องเข้าใจพื้นที่ด้วยว่า เจ้าหน้าที่ก็ต้องมีแผนในการเข้าที่เกิดเหตุ จะให้เข้าพื้นที่เร็วเหมือนพื้นที่อื่นนั้นก็คงจะลำบาก ในเรื่องนี้คงจะต้องทำความเข้าใจ
“เท่าที่ทราบกลุ่มนี้เพิ่งจะมีการรวมตัวกัน และอาจจะเห็นชื่อเครือข่ายชาวพุทธเพื่อสันติภาพตามสื่อต่างๆ โดยอาจจะคิดว่านำมาใช้ได้ โดยที่ผ่านมา ตนเองและเครือข่ายฯ ก็ทำงานในพื้นที่มานานหลายปี การทำงานจะใช้อารมณ์ไม่ได้ ใช้แนวคิดที่รุนแรงเกินไปก็ไม่ได้ เพราะถ้าใช้อารมณ์มากกว่าสติก็จะหลงทาง ซึ่งหลายคนก็จะมองว่าจะไปเข้าทางของอีกกลุ่มหนึ่งได้ เพราะกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุเช่นนี้ก็หวังให้คนที่นับถือศาสนาพุทธ และคนที่นับถือศาสนาอิสลามแยกออกจากกันอยู่แล้ว แต่เหตุการณ์ในพื้นที่ก็ทราบกันดีว่าไม่ใช่ประเด็นของศาสนา เพราะฉะนั้น กลุ่มบุคคลกลุ่มนี้หากต้องการจะทำงานก็คงจะต้องมาคุยกัน” นายรักชาติ กล่าว
ประธานเครือข่ายชาวพุทธเพื่อสันติภาพ ยังกล่าวอีกว่า กรณีนี้ตนเองคิดว่าคนที่นำชื่อเครือข่ายไปใช้ก็น่าจะเป็นคนที่รู้จักกับตน ซึ่งตนเองจะหาโอกาสไปพูดคุยกับกลุ่มบุคคลกลุ่มนี้ ว่าหากจะทำงานในชื่อเครือข่ายชาวพุทธเพื่อสันติภาพ ซึ่งชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าทำเพื่อสันติภาพ ที่จะต้องเดินเพื่อสันติภาพ แต่ที่ผ่านมา ก่อนที่จะมีข่าวว่าจะมีกลุ่มบุคคลใช้ชื่อเครือข่ายเพื่อสันติภาพ จะไปยื่นหนังสือให้ท่านรองนายกรัฐมนตรี ทางเครือข่ายฯ ซึ่งมีตนเป็นประธานก็ไม่ทราบเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด เพราะไม่ได้มีการพูดคุยกับกลุ่มบุคคลดังกล่าว