ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - เครือข่ายปกป้องอันดามันจากถ่านหิน ส่งหนังสือจี้ “ลุงตู่” ทวงถามถึงมาตรการปฏิบัติตามคำสั่งชะลอ “โรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่” อีกระลอก พร้อมยื่น 4 ข้อเสนออันเป็นแนวทางจี้ทุกหน่วยดำเนินการ เผยพุ่งเป้าเป็นพิเศษไปที่ กฟผ.ให้ทำแท้งโครงการ
วันนี้ (28 พ.ย.) นายประสิทธิ์ชัย หนูนวล นายอัครเดช ฉากจินดา นายสหพร ทิพย์จำนง และ ม.ล.รุ่งคุณ กิติยากร ในนามเครือข่ายปกป้องอันดามันจากถ่านหิน ซึ่งได้ปฏิบัติการอหิงสาอยู่บริเวณประตู 4 ข้างทำเนียบรัฐบาล ได้ยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. เพื่อทวงถามถึงมาตรการปฏิบัติตามคำสั่งชะลอโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ของรัฐบาล
ทั้งนี้ เนื้อความในหนังสือกล่าวระบุว่า ตามที่นายกรัฐมนตรีได้มีคำสั่งชะลอการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน และทางเครือข่ายได้เสนอมาตรการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปฏิบัติ โดยมีหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 23 พ.ย.2559 ที่ผ่านมา เพื่อให้คำสั่งชะลอเกิดผลในทางปฏิบัติแก่ทุกหน่วยงาน อีกทั้งเพื่อป้องกันการปฏิบัติตรงกันข้ามเหมือนที่ผ่านมารวม 4 ประการ จนบัดนี้เครือข่ายยังไม่ได้รับคำตอบแต่ประการใด
โดยข้อเสนอทั้ง 4 ประการนั้น ทางเครือข่ายได้หารือเพิ่มเติม และเสนอให้แต่ละหน่วยงานปฏิบัติ ดังนี้
1.มาตรการส่งเสริมการทำพลังงานหมุนเวียน ที่สามารถนำไปปฏิบัติได้จริง มีข้อเสนอว่า ให้ตั้งกรรมการขึ้นมาชุดหนึ่ง จัดทำรายละเอียด โดยมีกรมพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน เป็นเจ้าภาพหลัก และมีองค์ประกอบของ (1) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (2) คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (3) ภาคประชาชน (4) ภาควิชาการ รวมเป็นองค์ประกอบคณะหนึ่ง และให้จัดทำแผนให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน
2.มาตรการด้านการถอนรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA) ให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ในฐานะเจ้าของโครงการ ทำหนังสือไปยังสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) เพื่อถอนรายงานออกจากระบบการพิจารณา และระบุให้ชัดเจนว่า รายงานฉบับนี้ไม่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้อีก
3.มาตรการด้านการยกเลิกการประมูลโรงไฟฟ้า และท่าเทียบเรือขนถ่ายถ่านหิน ซึ่งเป็นข้อตกลงเดิม แต่ กฟผ.ได้ละเมิดหาผู้ให้ราคาต่ำสุดในการก่อสร้าง สำหรับมาตรการข้อนี้ให้ กฟผ.ออกประกาศของหน่วยงานเพื่อยกเลิกการประมูลทั้งหมดที่ผ่านมาให้ประชาชนทราบโดยทั่วกัน ตามช่องทางการสื่อสารที่หน่วยงานมีอยู่แล้ว
4.มาตรการด้านการถอนทีมทำงานมวลชน และการโฆษณาชวนเชื่อให้มีการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินใน จ.กระบี่ มาตรการข้อนี้ให้ กฟผ.ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อที่ 3 คือ ให้ กฟผ.ออกประกาศของหน่วยงานเพื่อให้สาธารณะทราบโดยทั่วกัน ตามช่องทางการสื่อสารขององค์กรที่มีอยู่แล้ว
ทางเครือข่ายพิจารณาเห็นว่า หากมาตรการดังกล่าวได้รับการปฏิบัติจะทำให้คำสั่งการชะลอของนายกรัฐมนตรี ไม่มีการบิดเบือน หรือปฏิบัติตรงกันข้ามเหมือนที่ผ่านมา โดยทางเครือข่ายจะนั่งภาวนารอคอยการปฏิบัติของหน่วยงานตามที่เสนอจนกว่าจะได้รับคำตอบ ด้วยความสงบต่อไป
