ศูนย์ข่าวภูเก็ต - วัดธรรมบูชา พระอารามหลวง จังหวัดสุราษฎร์ธานี จัดกิจกรรมร้อยใจทำความดีอุปสมบทหมู่ 90 รูป ขณะที่ชาวพังงา 139 คน พร้อมใจบวชถวายเป็นพระราชกุศลแด่รัชกาลที่ ๙
เมื่อเวลา 08.30 น.วันนี้ (28 พ.ย.) ที่วัดธรรมบูชา พระอารามหลวง อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ชาวจังหวัดสุราษฎร์ธานี กว่า 1,000 คน ได้ร่วมกันร้อยใจทำความดี จัดอุปสมบทหมู่ จำนวน 90 รูป ถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ ๙ เพื่อน้อมรำลึก ถึงพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงไม่เคยรู้จักเหน็ดเหนื่อย ตรากตรำพระราชกรณียกิจให้ประชาชนอยู่ดีกินดี เสด็จเยี่ยมเยือนประชาชนในท้องถิ่นทุรกันดารทุกๆ แห่ง เพื่อหาหนทางแก้ปัญหาต่างๆ ให้แก่ทุกพื้นที่ จนวันนี้ประเทศไทย สามารถมีผลผลิตทางเกษตร ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี ประเทศมีความเจริญก้าวหน้า ทัดเทียมนานาอารยประเทศได้ และในยามที่เราเจออุปสรรค น้ำท่วม หรือภัยต่างๆ และในยามที่คนในชาติแตกความสามัคคีกัน พระองค์ท่านเป็นคนที่ให้สติ และสอนให้เรารู้จักถึงความพอเพียง และทรงสอนให้เราเรียนรู้เรื่องของเศรษฐกิจพอเพียง และทฤษฎีใหม่ทางการเกษตร
โดยผู้เข้าร่วมอุปสมบท และประชาชนจะได้แสดงความจงรักภักดี สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณด้วยการอุปสมบท และการทำบุญบำเพ็ญกุศลถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รวมถึงส่งเสริมให้ประชาชนได้มีการศึกษา และปฏิบัติธรรมตามหลักคำสอนในพระพุทธศาสนาตามแนวทางที่ถูกต้อง และอย่างแพร่หลาย และได้รับการฝึกฝนอบรมตนเองให้เป็นคนดีมีศีลธรรม สามารถน้อมนำคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มาเป็นหลักในการดำเนินชีวิต และแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้ ตลอดจนเพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนาให้คงอยู่สืบไป โดยการอุปสมบทครั้งนี้มีระยะเวลา 9 วัน และหลังจากอุปสมบทแล้วพระทั้ง 90 รูป อยู่จำวัดปฏิบัติธรรม และศึกษาพระธรรมอยู่ในวัดธรรมบูชา
ที่จังหวัดพังงา ชาวพังงา 139 คน พร้อมใจบวชถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยที่วัดประชุมโยธี (พระอารามหลวง) นายศรีพงศ์ บุตรงามดี รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา ได้นำพสกนิกรชาวจังหวัดพังงาทุกหมู่เหล่าร่วมพิธีปลงผมนาค บรรพชา อุปสมบทหมู่ จำนวน 139 คน เพื่อแสดงความอาลัย และถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันครบรอบปัญญาสมวาร (50 วัน) การเสด็จสวรรคตพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยมีนาคที่เกิดในวันที่ 5 ธันวาคม 2544 ได้บรรพชาเป็นสามเณร 1 ราย โดยหลังจากเสร็จพิธีจากวัดประชุมโยธีแล้ว จากแยกย้ายไปประจำตามวัดต่างๆ ในแต่ละอำเภอ โดยใช้เวลาในการศึกษาพระธรรมคำสอนเป็นเวลา 9 วัน และจะลาสิกขาในวันที่ 6 ธันวาคม 2559
ที่กระบี่ มีผู้ใหญ่บ้านใจบุญในพื้นที่ ต.ดินอุดม อ.ลำทับ จ.กระบี่ ชอบช่วยเหลือสังคม และยังเป็นช่างตัดผม บริการตัดผมฟรีให้แก่คนในหมูบ้าน จึงเดินทางไปตรวจสอบพบ นายสมควร เพชรเรือนทอง อายุ 51 ปี ผู้ใหญ่บ้าน ม.7 ต.ดินอุดม อ.ลำทับ จ.กระบี่ เปิดบริการตัดผมฟรีให้แก่เด็กนักเรียน และคนในหมู่บ้าน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
โดย นายสมควร เปิดเผยว่า ได้เปิดบริการตัดผมฟรีมาเป็นเวลานานกว่า 3 ปีแล้ว โดยก่อนที่จะมาเปิดร้านบริการตัดผมให้เด็กๆ และคนในหมู่บ้านฟรี ได้เรียนรู้การตัดผมมาจากการที่ได้ไปเป็นทหารเกณฑ์มาก่อน หลังจากนั้น ก็กลับมามีครอบครัวประกอบอาชีพทำสวนปาล์มมันที่บ้านโดยใช้ชีวิตแบบพอเพียง เมื่อเห็นว่าครอบครัวพออยู่พอกิน ไม่เดือดร้อน จึงอยากที่จะช่วยเหลือสังคม โดยใช้ความรู้ความสามารถที่มีอยู่มาเปิดร้านตัดผมฟรีให้แก่เด็กๆ ในหมู่บ้าน เนื่องจากเห็นว่า เด็ก และเยาวชนในหมู่บ้าน บางคนก็มีฐานะยากจน จึงไม่คิดค่าบริการแต่อย่างใด ซึ่งเริ่มทำมาตั้งแต่ยังเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน จนกระทั่งได้มาเป็นผู้ใหญ่ รวมระยะเวลากว่า 3 ปีแล้ว สำหรับเด็กที่มีฐานะยากจน หรืออยู่ห่างไกลก็จะเอารถไปรับมาตัดที่บ้าน ส่วนคนชรา ผู้ป่วยติดเตียงจะบริการตัดฟรีถึงบ้าน ซึ่งตนก็รู้สึกภูมิใจที่ได้ช่วยเหลือสังคม และครอบครัวของตนก็เข้าใจ
นายสมควร กล่าวอีกว่า นอกจากบริการตัดผมฟรีแล้ว ยังเปิดสอนให้เด็กๆ ได้เรียนรู้การตัดผมด้วย เพื่อจะได้ประกอบอาชีพ ช่วยเหลือสังคม ซึ่งหลังจากที่ไปอบรมผู้ใหญ่บ้านที่ปทุมธานี ก็ได้รับการบริจาคเงินจำนวนหนึ่งมาซื้อปัตตาเลี่ยน และอุปกรณ์ตัดผมมาเพิ่ม เพื่อให้เด็กได้ฝึกฝน เรียนรู้ ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ไม่ยุงเกี่ยวยาเสพติด ซึ่งระหว่างที่เด็กมารอตัดผมก็มีกิจกรรมออกกำลังกาย หรือมีเปตองให้เล่นด้วย ซึ่งในเวลาว่างก็จะพาเด็กเหล่านี้ไปบริการสังคม ทำความ โรงเรียน วัด ปลูกต้นไม้ เพื่อปลุกจิตสำนึกในการช่วยเหลือสังคมด้วย ทั้งนี้ ตั้งใจไว้ว่าจะบริการตัดผมฟรีต่อไปจนกว่าจะทำไม่ไหว เป็นการทำดีเพื่อพ่อ ถวายเป็นพระราชกุศลพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลบอดุลยเดช