ยะลา - ลุงชง วัย 60 ปี ซึ่งป่วยโรคท้าวแสนปม ได้ร่วมออกเดินทางกับคณะเทศบาลตำบลธารน้ำทิพย์ อ.เบตง จ.ยะลา จากใต้สุดแดนสยาม เพื่อเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท กรุงเทพฯ
วันนี้ (25 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณสวนน้ำเทศบาลเมืองเบตง อ.เบตง จ.ยะลา คณะผู้บริหาร สมาชิกสภาเทศบาลฯ เจ้าหน้าที่จากเทศบาลตำบลธารน้ำทิพย์ พร้อมด้วย นายชิติ เจริญรัตนประภา อายุ 60 ปี หรือลุงชง ที่ป่วยเป็นโรคท้าวแสนปม ได้ร่วมออกเดินทางจาก อ.เบตง จ.ยะลา จำนวน 50 คน ซึ่งทุกคนมีความประสงค์ร่วมเดินทางไปเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ แสดงความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในวันพรุ่งนี้ และได้ออกเดินทางด้วยรถบัส โดยมารวมตัวกันที่บริเวณสวนน้ำเทศบาลเมืองเบตง ก่อนจะเดินทางพร้อมกันในช่วงเวลา 05.30 น.ของวันนี้ โดยมี นายดำรงค์ ดีสกูลสินธุ์ นายอำเภอเบตง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ คอยอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนในการเดินทาง
นายมะอูโซะ สาลัง นายกเทศมนตรีตำบลธารน้ำทิพย์ กล่าวว่า การเดินทางเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ แสดงความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในครั้งนี้ เนื่องจากประชาชนในพื้นที่ ต.ธารน้ำทิพย์ ทุกคนมีความประสงค์ที่จะเดินทางเข้ากราบถวายพระบรมศพ เพื่อรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รวมทั้งได้ศึกษาเรียนรู้พระราชกรณียกิจ และพระราชปณิธานของพระองค์ในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน
โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาความยากจนของประชาชนที่อาศัยอยู่ในท้องถิ่นทุรกันดาร จึงสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ และด้วยความตั้งใจของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ต.ธารน้ำทิพย์ ซึ่งเป็นตำบลที่อยู่ใต้สุดแดนสยาม ทุกคนมีความปลื้มปีติยินดี เพราะเป็นครั้งเดียวในชีวิตที่จะได้เข้ามาแสดงความรัก และภักดีต่อพระองค์ท่าน แม้การเดินทางจะไม่ได้นอนทั้งคืน เพื่อมารอเข้าคิวเป็นกลุ่มแรกๆ ก็ไม่หวั่น เพราะที่ผ่านมา พระองค์ทรงงานช่วยเหลือพสกนิกรในถิ่นทุรกันดาร ลำบากเพียงใดก็ไม่ทรงท้อ ในฐานะพสกนิกรที่ได้เดินทางมาเคารพพระบรมศพของท่าน ก็ไม่รู้สึกย่อท้อต่อความลำบากเช่นกัน
ขณะที่ นายชิติ เจริญรัตนประภา อายุ 60 ปี หรือลุงชง ที่ป่วยเป็นโรคท้าวแสนปม กล่าวทั้งน้ำตาว่า มีความดีใจ และปลื้มปีติยินดีที่ได้เดินทางเข้าพระบรมมหาราชวัง ครั้งแรกในชีวิต และได้เข้ากราบพระบรมศพ และขอขอบคุณผู้ใจบุญทุกท่านที่ได้บริจาคเงิน สิ่งของ และจัดหาบ้านให้อยู่ที่ อ.เบตง จ.ยะลา โดยไม่มีใครรังเกียจที่ตนป่วยเป็นโรคท้าวแสนปม และการเดินทางในครั้งนี้ก็เป็นครั้งแรก รู้สึกเสียใจมากที่สุดในชีวิตที่พระองค์เสด็จสวรรคต มีความเสียใจจนไม่รู้ว่าจะถ่ายทอดความรู้สึกยังไง ซึ่งพระองค์ทรงเหน็ดเหนื่อยมานานมาก ทรงทำเพื่อพสกนิกรทุกหมู่เหล่า แม้ประชวรท่านยังทรงงาน ไม่มีพระมหากษัตริย์ที่ทำเพื่อประชาชนได้มากขนาดนี้ และอีกอย่างที่อยากให้คนไทยทุกคนใช้ความรู้สึกนี้สร้างความรัก ความสามัคคี สร้างความดี เพื่อนตอบแทนพระมหากรุณาธิคุณ