สตูล - ผู้บัญชาการเรือนจำสตูล และเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ นำผู้ต้องขังชายร่วมแปรอักษรเลข ๙ อย่างพร้อมเพรียงกัน ที่บริเวณแดนผู้ต้องขังชั้นในเรือนจำจังหวัดสตูล ต.พิมาน อ.เมือง จ.สตูล เพื่อแสดงพลังรักในหลวง รัชกาลที่ ๙
วานนี้ (21 พ.ย.) นายวิมล มิตรปล้อง ผู้บัญชาการเรือนจำสตูล พร้อมเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ น้อมถวายบังคมเพื่อแสดงความจงรักภักดี สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และพร้อมประกาศจะประพฤติตนเป็นพลเมืองดีคืนต่อสังคม ก่อนร่วมกันขับร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี พร้อมกล่าวแสดงความอาลัยต่อเบื้องพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวง รัชกาลที่ ๙ และจากนั้นได้นำผู้ต้องขังชายร่วมแปรอักษรเป็นเลข ๙ อย่างพร้อมเพรียงกัน ที่บริเวณแดนผู้ต้องขังชั้นใน เรือนจำจังหวัดสตูล ต.พิมาน อ.เมือง จ.สตูล
ทั้งนี้ เรือนจำจังหวัดสตูล มีผู้ต้องขังชาย และหญิงทั้งหมด 749 คน แนวทางการทำงานได้น้อมนำพระราชดำริของในหลวง รัชกาลที่ ๙ อบรมผู้ต้องขังที่ได้รับโทษตัดสินแล้ว และน้อมนำแนวคำสั่งสอนในเรื่องด้านการอาชีพ มาต่อยอดให้แก่ผู้ต้องขัง เมื่อออกสู่โลกภายนอกเพื่อปรับตัวเป็นคนใหม่ในสังคม
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พระราชทานแก่ นายประดิษฐ์ พานิชการ อดีตอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2516 ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน ที่แม้เวลาจะผ่านมากว่า 38 ปีแล้ว แต่พระราชดำรัสที่ทรงให้กำลังใจข้าราชการกรมราชทัณฑ์ในครั้งนั้นยังคงก้องอยู่ในใจเจ้าหน้าที่ทุกคนจวบจนปัจจุบัน และเปรียบเสมือนแรงบันดาลใจให้เจ้าหน้าที่ทุกคนได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างซื่อสัตย์สุจริต ดำรงตนอยู่บนความถูกต้องเที่ยงธรรมให้สมดังพระราชปณิธาน
หากกล่าวถึงกรมราชทัณฑ์แล้ว หลายคนอาจจะจินตนาการถึงความน่ากลัวของการไร้สิ้นซึ่งอิสรภาพ รวมถึงภาพเรือนจำ และทัณฑ์สถานต่างๆ หรือที่เรียกกันในภาษาปากว่า “คุก” นอกจากภาพสถานที่จองจำผู้กระทำผิดเหล่านั้น กรมราชทัณฑ์ ยังมีอีกแง่มุมหนึ่งที่น้อยคนนักจะรู้จัก นั่นคือ การน้อมนำแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไปปฏิบัติเพื่อการเปลี่ยนวิถีชีวิตของผู้ต้องขังให้ใช้ชีวิตแบบพอเพียงเมื่อพ้นโทษ