นราธิวาส - ผู้บัญชาการทหารบก เดินทางลงพื้นที่ จ.นราธิวาส เพื่อติดตามงานตามนโยบาย รวมถึงพบปะผู้บังคับการกรมทหารพราน ทั้ง 12 กรม และผู้บังคับหน่วยระดับกองร้อยทหารพราน 196 กองร้อย ที่ค่ายจุฬาภรณ์ อ.เมืองนราฯ
วันนี้ (19 พ.ย.) พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมด้วย พล.ท.ณัฐพล นาคพานิช รองเสนาธิการทหารบก และ พล.ร.ต.ศังกร พงษ์ศิริ ผู้บัญชาการกองพลนาวิกโยธิน หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน เดินทางลงพื้นที่ จ.นราธิวาส เพื่อประชุม และติดตามงานตามนโยบาย ร่วมกับผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจหมายเลข และผู้บังคับกองร้อย ในพื้นที่ 13 อำเภอของ จ.นราธิวาส ที่ค่ายจุฬาภรณ์ อ.เมือง จ.นราธิวาส ซึ่งมี น.อ.สุบรร ดีนอก รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิน กองทัพเรือ และผู้เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ
พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท กล่าวว่า ถือโอกาสมาตรวจเยี่ยมกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เน้นการตรวจเยี่ยมหน่วยเฉพาะกิจ จ.สงขลา ปัตตานี ยะลา และ จ.นราธิวาส รวมถึงหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินกองทัพเรือ ภาพรวมการมาตรวจเยี่ยมครั้งนี้มาติดตามงานตามที่สั่งการตามนโยบายต่างๆ รับทราบปัญหาข้อขัดข้องของหน่วยเฉพาะกิจเป็นหลัก โดยเฉพาะบางหน่วยมีการปรับเปลี่ยนกำลังรับผิดชอบ
อีกทั้งมาให้กำลังใจด้วย ที่สำคัญต้องการพบปะกับผู้บังคับการกรมทหารพรานทั้ง 12 กรม และผู้บังคับหน่วยระดับกองร้อยทหารพราน 196 กองร้อย ซึ่งถือเป็นกำลังสำคัญในการปฏิบัติงานในปีนี้ และในอนาคตข้างหน้า โดยเฉพาะเมื่อถอนกำลังรบหลักออกจากพื้นที่ กำลังทหารพรานก็จะเป็นหลักในการทำงานในพื้นที่
“การสร้างภาพลักษณ์ของทหารพรานให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ยอมรับ รวมถึงเพิ่มเติมความรู้ความสามารถของกำลังทหารพรานทุกระดับ ดูแลเรื่องปัญหาการขาดแคลนยุทโธปกรณ์ และความเจริญก้าวหน้าด้วย เพื่อสร้างให้มีความแข็งแกร่ง พร้อมทำหน้าที่ในพื้นที่ต่อไป”
พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท กล่าวด้วยว่า สำหรับเหตุการณ์ความรุนแรงที่ยังเกิดขึ้น เมื่อยังมีกลุ่มก่อการในพื้นที่ ก็ย่อมมีความพยายามก่อเหตุ ส่วนเหตุระเบิดในพื้นที่ จ.ปัตตานี ยอมรับว่าเป็นเรื่องน่าเสียใจ กลุ่มผู้ก่อเหตุต้องการทำร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ์ ขณะเดียวกัน ได้เร่งรัดหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี ในเรื่องของการดูแลผู้บาดเจ็บ งานด้านการข่าว เรื่องของการวางมาตรการต่างๆ ก็เป็นการใช้ระเบิดคาร์บอมบ์ที่ค่อนข้างรุนแรง อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งเตือน และกันประชาชนล่วงหน้าก่อนแล้ว ทำให้เกิดความสูญเสียน้อย และไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นในพื้นที่