ยะลา - ความคืบหน้ากรณีญาติผู้เสียชีวิตจากไข้เลือดออกใน จ.ยะลา ร้องขอความเป็นธรรม หลังแพทย์พยาบาลไม่ใส่ใจการรักษา จนทำให้เสียชีวิต ด้าน สสจ.ยะลา ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง พร้อมเยียวยาครอบครัวโดยเร็ว
วันนี้ (18 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีพ่อแม่ของ น.ส.จุฑามาศ อารีบำบัด อายุ 23 ปี ซึ่งได้เสียชีวิตด้วยโรคไข้เลือดออก เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2559 ที่ผ่านมา หลังเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชยะหา จ.ยะลา แล้วอาการไม่ดีขึ้น จนถูกส่งตัวมารักษาต่อที่โรงพยาบาลยะลา และเสียชีวิตในที่สุดด้วยภาวะเกล็ดเลือดต่ำ โดยภายหลังผู้เป็นพ่อและแม่ พร้อมด้วยญาติของ น.ส.จุฑามาศ อารีบำบัด ได้ยื่นร้องขอความเป็นธรรมต่อศูนย์ดำรงธรรม ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ถึงความไม่เอาใจใส่ต่อการรักษาผู้ป่วย จนทำให้ผู้ป่วยต้องเสียชีวิตในที่สุด
โดยล่าสุด ในวันนี้ นพ.อุทิศศักดิ์ หริรัตนกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดยะลา ได้เชิญพ่อแม่ พร้อมกับญาติของ น.ส.จุฑามาศ อารีบำบัด ผู้เสียชีวิต เข้าพบที่ห้องประชุมลีลาวดี สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดยะลา โดยมีการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง และประชุมพิจารณาคำร้องขอรับเงินช่วยเหลือเบื้องต้น กรณีได้รับความเสียหายจากการรักษาพยาบาล (มาตรา 41) ในกรณีผู้ป่วยเสียชีวิตด้วยโรคไข้เลือดออก คือ น.ส.จุฑามาศ อารีบำบัด อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 83/2 ม.5 ต.ตาชี อ.ยะหา จ.ยะลา เข้ารับการรักษาพยาบาล ณ โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชยะหา และทางญาติผู้เสียชีวิตได้ยื่นคำร้องขอรับเงินช่วยเหลือเบื้องต้นฯ (มาตรา 41) ในการพิจารณาคำร้องขอรับเงินช่วยเหลือเบื้องต้น
ซึ่งในวันนี้ คณะอนุกรรมการการพิจารณาฯ ประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิ ตัวแทนผู้ให้บริการ และตัวแทนผู้รับบริการ ได้แก่ นพ.อนันต์ สุไลมาน ผู้ทรงคุณวุฒิเป็นประธาน นพ.อุทิศศักดิ์ หริรัตนกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดยะลา เป็นเลขานุการ อาจารย์นิมุ มะกาเจ นายภักดิ์ ศิริโภคา ผู้ทรงคุณวุฒิ นายเสริมยศ กีรติชีวานันท์ ตัวแทนผู้รับบริการ นพ.รอซาลี ปัตยะบุตร ผอ.โรงพยาบาลรามัน ตัวแทนผู้ให้บริการ เพื่อให้การพิจารณาเป็นธรรมต่อผู้ยื่นคำร้องมากที่สุด
โดยในเบื้องต้นทราบว่า การตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงต้องใช้ระยะเวลาในการตรวจสอบ ทั้งฝ่ายญาติของผู้เสียชีวิต และทางเจ้าหน้าที่ทั้งพยาบาล และแพทย์ผู้ให้การรักษา โดยทุกอย่างต้องเป็นไปตามกระบวนการตรวจสอบ และพร้อมให้ความเป็นธรรมต่อทางครอบครัวผู้เสียชีวิต และจะเร่งดำเนินการเยียวยาโดยเร็ว ขณะที่ทางด้านสถานพยาบาลนั้นจะต้องดำเนินการพูดคุย หรือประชุมหารือกันอีกครั้ง