ยะลา - คืบหน้าธารน้ำใจทั่วประเทศแห่ช่วยลุงชิติ ป่วยเป็นโรคท้าวแสนปม ยอดเงินกว่า 1 แสนบาทแล้ว พร้อมเปิดใจขอบคุณผู้ที่ช่วยเหลือตนทุกคนทั่วประเทศ
วันนี้ (18 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณี นายชิติ เจริญรัตนประภา อายุ 60 ปีอาศัยอยู่ในกระต๊อบหลังเล็กๆ ใน ต.ธารน้ำทิพย์ อ.เบตง จ.ยะลา ป่วยเป็นโรคท้าวแสนปม ไม่สามารถออกไปทำงานได้เพราะมีแต่คนรังเกียจ อาศัยอยู่เพียงลำพัง โดยอาศัยอยู่ที่บ้านเลขที่ 30 บ้านจับยี่ลุ่ย หมู่ 1 ต.ธารน้ำทิพย์ อ.เบตง จ.ยะลา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วก่อนหน้านี้นั้น
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปบ้านนายชิติ ที่อาศัยอยู่ในกระต๊อบหลังเก่าๆ เพื่อติดตามความคืบหน้าของการช่วยเหลือ พบว่า มีประชาชนผู้ใจบุญจากทั่วประเทศโอนเงินช่วยเหลือ นายชิติ เจริญรัตนประภา ผ่านบัญชีธนาคารกสิกรไทย สาขาสำเหร่ ชื่อบัญชี นายชิติ เจริญรัตนประภา เลขที่บัญชี 0091648385 แล้วจำนวนถึง 136,000 บาท และธนาคารออมสิน สาขาเบตง เลขที่บัญชี 200023921017 ชื่อบัญชี นายชิติ เจริญรัตนประภา ซึ่งมียอดบริจาคกว่า 3,000 บาท ขณะที่ผู้ใจบุญ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลังจากมีการนำเสนอข่าวต่างได้ลงพื้นที่เข้าช่วยเหลือ และให้คำแนะนำกันอย่างต่อเนื่อง
ด้านเทศบาลตำบลธารน้ำทิพย์ นำโดย นายมะอูโซะ สาลัง นายกเทศมนตรีตำบลธารน้ำทิพย์ ได้นำเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ดูแล และให้คำแนะนำต่างๆ อย่างใกล้ชิด และขอขอบคุณผู้ใจบุญทั่วประเทศที่ช่วยเหลือ นายชิติ ถือว่าเป็นยอดเงินที่สูงมาก และเชื่อว่านายชิติ จะใช้เงินเพื่อดูแลรักษาตัวเองอย่างคุ้มค่า และเต็มที่ที่สุด และชาวบ้านในพื้นที่จะเป็นกำลังใจให้นายชิติ ต่อสู้ต่อไป และทางเทศบาลตำบลธารน้ำทิพย์ จะคอยเกื้อ และช่วยเหลือ นายชิติ อย่างเต็มที่ต่อไป ส่วนยอดเงินจะแนะนำให้นายชิติ ทำบัญชีรายรับรายจ่าย ให้สามารถชี้แจงต่อสาธารณชนได้
นายมะอูโซะ สาลัง นายกเทศมนตรีตำบลธารน้ำทิพย์ กล่าวว่า ตามที่นายชิติ มีความต้องการที่จะเดินทางเข้าถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่กรุงเทพฯ นั้น ทางเทศบาลตำบลธารน้ำทิพย์ได้จัดให้นายชิติ เดินทางพร้อมเจ้าหน้าที่ของเทศบาลตำบลธารน้ำทิพย์ ในวันที่ 25 พ.ย.นี้ และมีผู้ใจบุญได้ติดต่อมา คือ พระบิณฑ์ อาจิตปุญโญ หรือบิณฑ์ บันลือฤทธิ์ ดาราจิตอาสา ได้ติดต่อมายัง นายณัฐกิตติ์ กาญจน ปลัดอำเภอผู้เป็นหัวหน้าประชาตำบลธารน้ำทิพย์ สอบถึงการเดินทางของนายชิติ ที่จะเดินทางมาถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช นั้นเดินทางมาอย่างไร หากไม่มีใครจะเป็นผู้ออกค่าเดินทางให้ และจะรอพบนายชิติ ที่กรุงเทพฯ ด้วย
แต่นายชิติ มีความประสงค์จะเดินทางร่วมกับเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลธารน้ำทิพย์ และเสร็จจากสักการะพระบรมศพฯแล้วก็จะเดินทางกลับมาอยู่ที่อำเภอเบตง นอกจากนี้ ยังมี น.ส.จิดาภา จันทร์สน อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 190 หมู่ที่ 9 ต.นราภิรมณ์ อ.บางเลน จ.นครปฐม มีอาชีพรับเหมาก่อสร้าง อาสาจะนำนายชิติ ขึ้นกรุงเทพฯ และจะนำไปทำงานที่นครปฐม แต่นายชิติ ได้ปฏิเสธไป เนื่องจากมีความต้องการอยู่ที่อำเภอเบตง เพราะที่นี่ทั้งชาวไทยพุทธ พี่น้องชาวไทยมุสลิม ไม่มีความรังเกียจตน และได้ให้ความช่วยเหลือตนตั้งแต่ยังไม่ออกสื่อ และที่ได้ออกสื่อเพราะเขาสงสาร จึงได้มีผู้ใจบุญบริจาคเงินสด อาหาร ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ร่วมทั้งทางเทศบาลตำบลธารน้ำทิพย์ ก็จะพาตนขึ้นไปสักการะพระบรมศพฯ ด้วย
นายชิติ ยังได้กล่าวขอบคุณ และซาบซึ้งถึงน้ำใจของผู้ใจบุญทั่วประเทศว่า ขอบคุณผู้ใจบุญทั่วประเทศที่โอนเงินมาช่วยผม เงินทุกบาททุกสตางค์ตนจะใช้จ่ายให้คุ้มค่าที่สุด และขอขอบคุณสื่อมวลชนที่ช่วยนำเสนอด้วย ขอบคุณครับ