ยะลา - หนุ่มเบตงเดินทางเข้ากรุงฯ ถึงเมืองยะลาแล้ว ก่อนเข้ากราบสักการะขอพรจากศาลเจ้าพ่อหลักเมืองยะลา ให้ตนเองเดินทางถึงเป้าหมายอย่างที่ได้ตั้งใจไว้ เพื่อไปกราบพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
วันนี้ (16 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความคืบหน้ากรณี นายบำรุง จันทรกุล อายุ 59 ปี ชาว อ.เบตง จ.ยะลา ซึ่งตั้งใจเดินเท้าจาก อ.เบตง ไปยังกรุงเทพมหานคร เพื่อกราบสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยล่าสุด นายบำรุง จันทรกุล ได้เดินทางจาก อ.บันนังสตา เข้าสู่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา ตามเส้นทางหลวงหมายเลข 410 ยะลา-เบตง และได้พักค้างคืนที่สถานีตำรวจภูธรกรงปินัง อ.กรงปินัง จ.ยะลา โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้อำนวยความสะดวกเรื่องที่พักให้
จากนั้น นายบำรุง จันทรกุล ได้ออกเดินเท้าจาก อ.กรงปินัง จ.ยะลา โดยมีเจ้าหน้าที่ทหารพราน ร้อยทหารพรานที่ 3316 จากหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 33 ร่วมเดินเท้า และดูแลความปลอดภัยจนถึงเขต อ.เมืองยะลา จ.ยะลา ซึ่งนายบำรุง จันทรกุล ได้แวะที่ศาลหลักเมืองยะลา เพื่อกราบสักการะขอพรจากศาลเจ้าพ่อหลักเมืองยะลา ให้ตนเองเดินทางถึงเป้าหมายอย่างที่ได้ตั้งใจไว้ ทั้งนี้ จากการเดินเท้าเป็นระยะทางกว่า 130 กิโลเมตร ทำให้ นายบำรุง มีอาการเจ็บปวดกล้ามเนื้อต้นขา แต่ก็ได้มุ่งมั่นเดินเท้าต่อไป โดยจะหยุดพักระหว่างทางเป็นระยะ เพื่อให้ร่างกายบรรเทาอาการปวด
อย่างไรก็ตาม นายบำรุง จันทรกุล ได้บอกว่า ตนเองมีความตั้งใจที่จะเดินเท้าจากดินแดนใต้สุดของประเทศไทย ไปกราบสักการะพระบรมศพในหลวง ซึ่งแม้ว่าจะเป็นระยะทางร่วมกว่า 1,500 กิโลเมตร แต่ก็จะไม่ลดละความพยายาม โดยมีกำลังใจทุกครั้งที่เดินผ่านเส้นทาง และมองเห็นพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทำให้มีขวัญกำลังใจที่จะเดินเท้าให้สำเร็จตามที่ตั้งใจไว้ และอีกหนึ่งของความตั้งใจจากการเดินเท้าในครั้งนี้ คือ อยากให้ประชาชนทั่วไปได้มองเห็นว่าพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยังคงมีความปลอดภัย และมีผู้คนอาศัยอยู่ร่วมกันอย่างสันติ
หลังจากเดินเท้าออกจาก อ.เมืองยะลา แล้ว นายบำรุง จันทรกุล จะเดินเท้าไปตามถนนหลวงหมายเลย 418 โดยมีอาสาสมัครมูลนิธิกู้ภัยแม่ทับทิม ยะลา ร่วมอำนวยความสะดวก และดูแลอาการบาดเจ็บไปตลอดเส้นทางจนถึงเขตจังหวัดปัตตานี และคาดว่าจะแวะพักค้างคืนที่ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ในค่ำคืนนี้