ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 437 อ.สะเดา จ.สงขลา น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และเกษตรทฤษฎีใหม่มาปรับใช้ โดยการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ปลอดสารพิษไว้บริโภคภายในครอบครัว ใช้เป็นอาหารกลางวันของโรงเรียน และส่วนที่เหลือก็นำไปจำหน่ายให้แก่ประชาชน
วันนี้ (16 พ.ย.) กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 437 อ.สะเดา จ.สงขลา ได้มีการน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และเกษตรทฤษฎีใหม่ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาปรับใช้ภายในกองร้อย โดยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนได้ใช้พื้นที่ว่างช่วยกันปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ปลอดสารพิษไว้บริโภคภายในครอบครัวของเจ้าหน้าที่ และนำไปใช้เป็นอาหารกลางวันของโรงเรียน ส่วนที่เหลือก็นำไปจำหน่ายให้แก่ประชาชนทั่วไป
พ.ต.ท.สุเทพ ชูแก้ว ผู้บังคับกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 437 เปิดเผยว่า ปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ไว้ 3 แปลง ทั้งผักกาดขาว และผักกวางตุ้ง โดยปลูกแบบหมุนเวียน ใช้เวลาปลูกประมาณ 1 เดือน ก็สามารถเก็บมาบริโภค และจำหน่ายได้ สำหรับส่วนที่นำมาจำหน่ายนั้นมีทั้งประชาชนทั่วไป และกลุ่มผู้รักสุขภาพให้ความสนใจนำไปบริโภคในราคากิโลกรัมละ 40 บาท โดยแบ่งเป็นถุงๆ ละครึ่งกิโลกรัมราคา 20 บาท ซึ่งผักไฮโดรโปนิกส์ของที่นี่จะถูกกว่าตามท้องตลาด ซึ่งอยู่ที่กิโลกรัมละ 60-70 บาท
เนื่องจากไม่ได้หวังผลกำไร แต่ต้องการให้กำลังพล และประชาชนได้บริโภคผักที่ปลอดภัย ดีต่อสุขภาพ และเพื่อใช้พื้นที่ว่าง และเวลาที่ว่างเว้นจากราชการช่วยกันทำ ทั้งนี้ ต้องการให้เป็นแหล่งเรียนรู้การปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ให้แก่ประชาชนที่สนใจนำไปดัดแปลงปลูกบริโภคภายในครัวเรือน หรือทำเป็นอาชีพเสริม หรืออาชีพหลักเพื่อสร้างรายได้ แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือ การเดินตามรอยเบื้องพระยุคลบาทเศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสืบสานพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดำรงชีวิต เพื่อสามารถอยู่ได้อย่างมีความสุข และยั่งยืน
