ระนอง/พังงา - ชาวพังงารวมพลังทำขนมเต้าส้อ ของดีประจำจังหวัด กว่า 4 หมื่นลูก ไปแจกประชาชนระหว่างที่รอเข้าถวายบังคมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท กรุงเทพมหานคร ขณะที่นักกีฬาปั่นวีลแชร์ เจ้าของเหรียญเงินจากนครสวรรค์เกมส์ ออกเดินทางถวายสักการะพระบรมศพ ระบุอยากทำดีตอบแทนที่พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ เคยสร้างบ้านให้
วันนี้ (1 พ.ย.) ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดพังงา นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา พร้อมด้วย นายเอกรัฐ หลีเซ็น นายศรีพงศ์ บุตรงามดี รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา ร่วมกับกลุ่มผลิตภัณฑ์โอทอป จากทุกอำเภอ รวมพลังกันจัดทำขนมเต้าส้อ ซึ่งสินค้าโอทอปชื่อดังของจังหวัดพังงา ที่สร้างรายได้เข้าสู่จังหวัดหลายล้านบาทต่อเดือน เพื่อนำไปแจกจ่ายแก่ประชาชนที่บริเวณท้องสนามหลวง ในระหว่างที่รอเข้าถวายบังคมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 4 พฤศจิกายน 2559
นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ เปิดเผยว่า พสกนิกรชาวจังหวัดพังงาทุกหมู่เหล่าต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้ของพระองค์ท่าน ในวันนี้จึงร่วมกันจัดทำขนมเต้าส้อ ทั้งไส้หวาน ไข่เค็ม จำนวนกว่า 40,000 ลูก แพกใส่กล่องกว่า 9,000 กล่อง รวมทั้งจะนำสับปะรดภูงา ที่มีรสชาติอร่อยหวานกรอบ และผักเหมียง ซึ่งเป็นผักพื้นเมืองอีกชนิดหนึ่ง ไปประกอบอาหารแจกจ่ายประชาชนถวายเป็นพระราชกุศล โดยจังหวัดพังงา จะนำสิ่งของทั้งหมดเดินทางไปพร้อมกับพสกนิกรชาวพังงา ในเย็นวันที่ 3 พฤศจิกายน 2559
ขณะที่นักกีฬาปั่นวีลแชร์เจ้าของเหรียญเงินจากนครสวรรค์เกมส์ ผู้พิการทางการเคลื่อนไหว นายศิลา แสงทอง อายุ 36 ปี ปั่นวีลแชร์ออกจากจังหวัดระนอง มุ่งหน้าท้องสนามหลวงเข้าถวายบังคมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดย นายศิลา กล่าวว่า ครอบครัวของตนลำบากมาก และตนเองก็พิการจึงส่งหนังสือถึงพระองค์ท่าน หลังจากในหลวงทรงรับทราบ ทรงมีรับสั่งให้ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดระนอง สร้างบ้านบ้านพระราชทานเทิดไท้องค์ราชันให้ตน 1 หลัง ซึ่งตนรู้สึกสำนึกถึงในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านจนบอกไม่ถูก จึงออกเดินทางจากจังหวัดระนอง เพื่อที่จะไปร่วมแสดงความอาลัยถวายแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท กรุงเทพมหานคร ระยะทางกว่า 600 กิโลเมตร คาดว่าจะถึงในอีก 7-8 วันข้างหน้า
ซึ่งการเดินทางครั้งนี้ นายวิรัตน์ รักษ์พันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง และนายคงกฤษ ฉัตรมาลีรัตน์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดระนอง ร่วมร่วมให้กำลังใจด้วย ซึ่งมีเพื่อนร่วมทาง 4 คน คือ นายกฤษณกร ทองอ่อน เจ้าของร้านไก่ทอดรถถีบบ้านเทียนซือ และครอบครัว รวม 4 คน มาร่วมปั่นจักรยาน คอยดูแล และให้ความสะดวกตั้งแต่จังหวัดระนอง จนถึงกรุงเทพมหานคร
ด้าน นายกฤษกร ทองอ่อน อายุ 36 ปี และครอบครัวรวม 4 คน เจ้าของร้านไก่ทอดรถถีบบ้านเทียนซือ กล่าวว่า ตนไม่รู้จักกับนายศิลา แสงทอง แต่มีความตั้งใจเดียวกัน คือ ปั่นวันที่ 1 พ.ย.59 จึงเกิดอยากร่วมปั่นสักครั้งในชีวิต พร้อมคอยดูแลจนถึงสถานที่ร่วมแสดงความอาลัย แค่นี้ก็ถือว่าเป็นการแสดงออกที่ดีที่สุดที่จะสามารถทำให้พระองค์ได้
วันนี้ (1 พ.ย.) ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดพังงา นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา พร้อมด้วย นายเอกรัฐ หลีเซ็น นายศรีพงศ์ บุตรงามดี รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา ร่วมกับกลุ่มผลิตภัณฑ์โอทอป จากทุกอำเภอ รวมพลังกันจัดทำขนมเต้าส้อ ซึ่งสินค้าโอทอปชื่อดังของจังหวัดพังงา ที่สร้างรายได้เข้าสู่จังหวัดหลายล้านบาทต่อเดือน เพื่อนำไปแจกจ่ายแก่ประชาชนที่บริเวณท้องสนามหลวง ในระหว่างที่รอเข้าถวายบังคมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 4 พฤศจิกายน 2559
นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ เปิดเผยว่า พสกนิกรชาวจังหวัดพังงาทุกหมู่เหล่าต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้ของพระองค์ท่าน ในวันนี้จึงร่วมกันจัดทำขนมเต้าส้อ ทั้งไส้หวาน ไข่เค็ม จำนวนกว่า 40,000 ลูก แพกใส่กล่องกว่า 9,000 กล่อง รวมทั้งจะนำสับปะรดภูงา ที่มีรสชาติอร่อยหวานกรอบ และผักเหมียง ซึ่งเป็นผักพื้นเมืองอีกชนิดหนึ่ง ไปประกอบอาหารแจกจ่ายประชาชนถวายเป็นพระราชกุศล โดยจังหวัดพังงา จะนำสิ่งของทั้งหมดเดินทางไปพร้อมกับพสกนิกรชาวพังงา ในเย็นวันที่ 3 พฤศจิกายน 2559
ขณะที่นักกีฬาปั่นวีลแชร์เจ้าของเหรียญเงินจากนครสวรรค์เกมส์ ผู้พิการทางการเคลื่อนไหว นายศิลา แสงทอง อายุ 36 ปี ปั่นวีลแชร์ออกจากจังหวัดระนอง มุ่งหน้าท้องสนามหลวงเข้าถวายบังคมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดย นายศิลา กล่าวว่า ครอบครัวของตนลำบากมาก และตนเองก็พิการจึงส่งหนังสือถึงพระองค์ท่าน หลังจากในหลวงทรงรับทราบ ทรงมีรับสั่งให้ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดระนอง สร้างบ้านบ้านพระราชทานเทิดไท้องค์ราชันให้ตน 1 หลัง ซึ่งตนรู้สึกสำนึกถึงในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านจนบอกไม่ถูก จึงออกเดินทางจากจังหวัดระนอง เพื่อที่จะไปร่วมแสดงความอาลัยถวายแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท กรุงเทพมหานคร ระยะทางกว่า 600 กิโลเมตร คาดว่าจะถึงในอีก 7-8 วันข้างหน้า
ซึ่งการเดินทางครั้งนี้ นายวิรัตน์ รักษ์พันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง และนายคงกฤษ ฉัตรมาลีรัตน์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดระนอง ร่วมร่วมให้กำลังใจด้วย ซึ่งมีเพื่อนร่วมทาง 4 คน คือ นายกฤษณกร ทองอ่อน เจ้าของร้านไก่ทอดรถถีบบ้านเทียนซือ และครอบครัว รวม 4 คน มาร่วมปั่นจักรยาน คอยดูแล และให้ความสะดวกตั้งแต่จังหวัดระนอง จนถึงกรุงเทพมหานคร
ด้าน นายกฤษกร ทองอ่อน อายุ 36 ปี และครอบครัวรวม 4 คน เจ้าของร้านไก่ทอดรถถีบบ้านเทียนซือ กล่าวว่า ตนไม่รู้จักกับนายศิลา แสงทอง แต่มีความตั้งใจเดียวกัน คือ ปั่นวันที่ 1 พ.ย.59 จึงเกิดอยากร่วมปั่นสักครั้งในชีวิต พร้อมคอยดูแลจนถึงสถานที่ร่วมแสดงความอาลัย แค่นี้ก็ถือว่าเป็นการแสดงออกที่ดีที่สุดที่จะสามารถทำให้พระองค์ได้
